Home > manager360 (Page 321)

Thales เตรียมยกระดับความปลอดภัยด้านอัตลักษณ์ของพลเมืองไทยด้วยหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์สุดล้ำ

ในปี 2561 รัฐบาลไทยได้ประกาศใช้นโยบาย 'ประเทศไทย ๔.๐' หรือ 'ไทยแลนด์ 4.0' พร้อมวิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศไทยสู่ระบบเศรษฐกิจที่มุ่งเน้นการสร้างคุณค่า ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์ ดังนั้น กระทรวงการต่างประเทศของไทยจึงได้เตรียมจัดหาหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์ประเภทเทคโนโลยีขั้นสูงที่มีความปลอดภัยสูงให้กับพลเมืองชาวไทยทั้งหมด 15 ล้านเล่ม โดยมีกลุ่ม DGM Consortium ซึ่งประกอบด้วย Gemalto, บริษัทในเครือ Thales, Data Products Toppan Forms Ltd., และ MultiCert เป็นผู้จัดหา โครงการหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์นี้เป็นโครงการเกี่ยวกับหนังสือเดินทางที่ใหญ่ที่สุดที่กลุ่มได้เซ็นสัญญารับมอบในปี 2562 พลเมืองสัญชาติไทยจะได้ใช้เอกสารเดินทาง ดีไซน์ใหม่ที่มีจำนวน 64 หน้า ประกอบด้วยหน้าปกแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Cover) ซึ่งเป็นหน้าบันทึกข้อมูลของผู้ถือหนังสือเดินทาง ทำจากโพลีคาร์บอเนต มีลักษณะบางและยืดหยุ่น รวมถึงมีช่องแสดงรูปภาพรูปที่สองของผู้ถือหนังสือเดินทาง และรูปถ่ายสีจริงที่ผ่านกระบวนการบันทึกด้วยรังสียูวี คุณสมบัติด้านความปลอดภัยเหล่านี้ทำให้มาตรฐานด้านความปลอดภัยของหนังสือเดินทางเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยขั้นสูงตามที่กำหนดโดยองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) โดยพลเมืองชาวไทยจะได้ประโยชน์จากการใช้ซอฟต์แวร์แบบฝังที่มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดที่จะช่วยให้พวกเขาข้ามแดนได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ กลุ่ม DGM Consortium จะติดตั้งระบบออกหนังสือเดินทางอิเล็กทรอนิกส์แบบครบวงจรที่มีความปลอดภัยสูง ซึ่งสอดคล้องกับ

Read More

ซีเจ โลจิสติคส์ รุกหนักตลาดขนส่งอาเซียน ชูแนวคิด K-Logistics ยกระดับตลาดโลจิสติคส์ไทยด้วยเทคโนโลยีล้ำสมัย

ซีเจ โลจิสติคส์ ต่อยอดขยายธุรกิจโลจิสติคส์สู่ตลาดอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ชูแนวคิด “K-Logistics” และเทคโนโลยีการจัดการพัสดุล้ำสมัย เพื่อตอบสนองตลาดขนส่งพัสดุไทยที่เติบโตอย่างรวดเร็ว พร้อมปรับแพลตฟอร์มการขนส่งพัสดุเกาหลีให้เข้ากับประเทศไทย และก่อตั้งศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางที่สามารถรองรับการจัดการพัสดุได้สูงสุดถึง 400,000 หน่วยต่อวัน ศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางของ ซีเจ โลจิสติคส์ ที่บางนา กรุงเทพฯ ซึ่งติดตั้งระบบคัดแยกกล่องแบบอัตโนมัติ wheel sorter ได้เริ่มนำร่องดำเนินการตั้งแต่กลางเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยศูนย์กระจายสินค้าส่วนกลางดังกล่าว ใช้ระบบ wheel sorter เช่นเดียวกับที่ใช้ในประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งสามารถจัดการพัสดุได้สูงสุดถึง 400,000 ชิ้นต่อวัน ในพื้นที่กว่า 71,900 ตารางเมตร นับเป็นศูนย์กระจายสินค้าที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่พร้อมด้วยศักยภาพในการดำเนินการได้ถึง 13% ของปริมาณพัสดุทั้งหมดที่มีการจัดส่งรวมกว่า 3 ล้านชิ้นต่อวันในประเทศไทย ตลาดขนส่งพัสดุไทยเป็นตลาดที่เต็มไปด้วยโอกาสทางธุรกิจที่มีศักยภาพสูง เนื่องด้วยการเติบโตของโทรศัพท์มือถือและการขยายตัวของตลาดอีคอมเมิร์ซอย่างรวดเร็ว การทำธุรกรรมอีคอมเมิร์ซในประเทศไทยมีมูลค่าถึง 7 แสนล้านบาท (2.3 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ) ในปี 2560 และภายในปี 2563 คาดว่ากว่า 50% ของยอดขายปลีกทั้งหมดจะเกิดจากตลาดออนไลน์ นอกจากนี้

Read More

มาตรการแจกเงินไปเที่ยว ฟื้นเศรษฐกิจหรือร่วมกันอับปาง?

ความพยายามของรัฐบาลประยุทธ์ 2/1 ในการกระตุ้นเศรษฐกิจไทย ท่ามกลางตัวเลขและดัชนีบ่งชี้ถึงสภาวะถดถอยอย่างต่อเนื่อง กำลังเป็นภาพสะท้อนถึงข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นกับสังคมเศรษฐกิจไทย หลังจากที่กลไกภาครัฐพยายามโหมประโคมและเอ่ยอ้างผลงานว่าเศรษฐกิจไทยกำลังฟื้นตัวและรัฐบาลดำเนินนโยบายเศรษฐกิจมาในทิศทางที่ถูกต้องแล้ว ก่อนที่หัวหน้าคณะรัฐบาลคนปัจจุบันจะออกมายอมรับว่าเศรษฐกิจของประเทศไทยกำลังมีปัญหา ก็เมื่อความเป็นจริงได้เคลื่อนมาประจันหน้าแล้ว การประชุมคณะรัฐมนตรีเศรษฐกิจ เมื่อวันที่ 16 สิงหาคมที่ผ่านมา ที่ประชุมได้อนุมัติตามข้อเสนอของกระทรวงการคลัง เพื่อแจกเงินคนไทยจำนวน 10 ล้านคนที่ลงทะเบียนล่วงหน้า คนละ 1,000 บาท เพื่อใช้ในการท่องเที่ยว ซื้อสินค้าท้องถิ่น รับประทานอาหาร เข้าพักในโรงแรม และกิจกรรมการท่องเที่ยวต่างๆ ข้ามจังหวัดของตัวเอง ภายใต้โครงการ “ชิมชอปใช้” โดยรัฐบาลจะจ่ายเงินให้กับประชาชนผ่านกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ (E-Wallet) คนละ 1,000 บาท ให้ใช้จ่ายท่องเที่ยวในจังหวัดที่ไม่ใช่ถิ่นที่อยู่โดยพิจารณาจากบัตรประจำตัวประชาชน โดยตั้งเป้าหมายไว้ที่ 10 ล้านคน หรือคิดเป็นวงเงินที่จะใช้ในมาตรการนี้รวม 1 หมื่นล้านบาท และจะเปิดให้ลงทะเบียนระหว่างวันที่ 1-22 กันยายนนี้ ซึ่งกระทรวงการคลังได้สั่งให้ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดำเนินการ พร้อมกับเปิดแอปพลิเคชันเพื่อลงทะเบียนทั้งในฝั่งประชาชนและร้านค้า นอกจากนี้ ยังมีเงินสนับสนุนเงินชดเชย หรือ cash rebate จำนวนร้อยละ 15 จากยอดการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวสำหรับค่าอาหารและเครื่องดื่ม

Read More

ททท. พลิกโฉมสินค้าการท่องเที่ยว เปิดตัว “ขุมทรัพย์ท่องเที่ยวไทย” ดันเศรษฐกิจตั้งแต่ฐานราก

ททท. พลิกโฉมสินค้าการท่องเที่ยว เปิดตัว “ขุมทรัพย์ท่องเที่ยวไทย” (Tourism Treasures Throughout Thailand) ดันเศรษฐกิจตั้งแต่ฐานราก นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้อำนวยการฝ่ายสินค้าการท่องเที่ยว การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ประธานการแถลงข่าว กล่าวว่า จากนโยบายของรัฐบาลที่ต้องการสร้างเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็ง มีการกระจายรายได้อย่างทั่วถึง เพื่อลดความเหลื่อมล้ำให้กับประชาชน การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ในฐานะที่เป็นหน่วยงานด้านการส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวไทย จึงได้สร้างกลยุทธ์ดำเนินการส่งเสริมด้านการตลาดและประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทยเพื่อให้ตลาดท่องเที่ยวของประเทศมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยที่ผ่านมาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยได้สร้างเม็ดเงินและความเข้มแข็งให้กับเศรษฐกิจของประเทศกว่า 3.08 ล้านล้านบาท ซึ่งสูงเป็นอันดับ 4 ของโลก ทั้งนี้ ในการดำเนินงานช่วงครึ่งปีหลัง ททท. จึงพลิกโฉมกลยุทธ์การนำเสนอขายสินค้าท่องเที่ยวด้วยการเจียระไนแหล่งท่องเที่ยวเดิม และค้นหาแหล่งท่องเที่ยวใหม่ ภายใต้กระบวนการพัฒนาแบบ 360 องศา เพื่อเป็นการกระจายข้อมูลด้านการท่องเที่ยวใหม่ ๆ และก่อให้เกิดการเดินทางในหมู่นักท่องเที่ยว โดยเปิดตัวโครงการ "ขุมทรัพย์ท่องเที่ยวไทย" (Tourism Treasures Throughout Thailand) ที่จะใช้เป็นแผนในการดำเนินงานของ ททท.ในช่วงครึ่งปีหลังนี้ สินค้าท่องเที่ยวภายใต้กระบวนการพัฒนาแบบ 360 องศา นี้แบ่งตามประเภทสินค้าการท่องเที่ยว ได้แก่ ประเภทที่ 1

Read More

SCG จับมือ KTC เพิ่มโอกาสการเข้าถึงเงินทุนของกลุ่มช่างและผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย ผ่านบัตรเครดิต “KTC-SCG VISA Purchasing”

SCG จับมือ KTC ส่งเสริมการเติบโตธุรกิจก่อสร้าง เพิ่มโอกาสการเข้าถึงเงินทุนของกลุ่มช่างและผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อย ผ่านบัตรเครดิต “KTC-SCG VISA Purchasing” “เอสซีจี” บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง จำกัด และ “เคทีซี” หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) เพิ่มโอกาสการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของช่างและผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยในยุคดิจิทัล ผ่านบัตรเครดิต “KTC-SCG VISA Purchasing” บัตรแรกและบัตรเดียวของไทยที่เจาะกลุ่มช่างและผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยโดยเฉพาะ ภายใต้แนวคิด “บัตรเดียวจบ ครบทุกเรื่องช่าง” บัตรเครดิตที่จะช่วยเพิ่มศักยภาพให้กลุ่มช่างและผู้รับเหมาก่อสร้างรายย่อยสามารถซื้อสินค้าผ่านร้านผู้แทนจำหน่ายของ SCG ทั่วประเทศที่เข้าร่วมโครงการ ด้วยวงเงินอนุมัติสูงสุด 1 ล้านบาทต่อราย พร้อมระยะเวลาปลอดดอกเบี้ยนานสูงสุด 45 วัน และรับสิทธิพิเศษอื่นๆ ทุกการใช้จ่ายบนบัตรเครดิต อาทิ คะแนนสะสม บริการผ่อนชำระ เป็นต้น นายวิโรจน์ รัตนชัยสิทธิ์ กรรมการผู้จัดการ ธุรกิจจัดจำหน่ายและช่องทางการค้าปลีก บริษัท เอสซีจี ซิเมนต์-ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง

Read More

ไฟนอลแฟชั่นโชว์จากสองแบรนด์ดังฝรั่งเศส ELLE และ ELLE HOMME

เดินทางไปเปิดตัวให้เหล่าสาวกและแฟนคลับได้ชื่นชมกันทั่วประเทศมาแล้ว ล่าสุด ELLE (แอล) และ ELLE HOMME (แอลฮอม) แบรนด์เนมชื่อดังจากฝรั่งเศส ได้ถือฤกษ์งามยามดี จัดงาน “ELLE Paris Atelier” (แอล ปารีส อะเทริเย่ร์)” ใจกลางกรุงเทพมหานคร มหานครเมืองเอกของประเทศไทยเป็นครั้งแรก ภายใต้คอนเซปต์ “ไฟนอล โชว์ (Final Show)” เมื่อค่ำของวันอังคารที่ 6 สิงหาคม 2562 ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น M ศูนย์การค้า เทอร์มินอล 21 อโศก กรุงเทพฯ คุณรมิดา รัสเซลล์ มณีเสถียร กรรมการบริหารและผู้อำนวยการฝ่ายบูติคสตรี บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงวัตถุประสงค์ของการจัดงานในครั้งนี้ว่า “บริษัท ไอ.ซี.ซี.อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) ได้มีแนวคิดที่จะส่งเสริมและพัฒนาผลงานการออกแบบเสื้อผ้าภายใต้แบรนด์

Read More

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย รับรางวัลบริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดแห่งปี จากเอชอาร์ เอเชีย

ไมโครซอฟท์ ประเทศไทย รับรางวัลบริษัทที่น่าทำงานมากที่สุดแห่งปี จากเอชอาร์ เอเชีย ตอกย้ำพลังจาก 4 นโยบายหลักด้านทรัพยากรบุคคลของไมโครซอฟท์ ในการคำนึงถึงความสำเร็จแบบเป็นทีม การส่งเสริมการยอมรับความแตกต่างและอยู่ร่วมกันอย่างเท่าเทียม การสนับสนุนการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด และการดูแลพนักงานอย่างครอบคลุม บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด รับรางวัลบริษัทดีเด่นที่น่าทำงานมากที่สุดในเอเชีย ประจำปี 2562 โดย เอชอาร์ เอเชีย (HR Asia Best Companies to Work for in Asia 2019 – Thailand Edition) ซึ่งจัดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย โดยมีนายธนวัฒน์ สุธรรมพันธุ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไมโครซอฟท์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นผู้รับรางวัลในงานที่จัดขึ้น ณ โรงแรม แบงค็อก แมริออท เดอะ สุรวงศ์ เมื่อเร็วๆ

Read More

เน็ตฟลิกซ์ ลงนามในข้อตกลงกับสภาเศรษฐกิจโลก มุ่งพัฒนาทักษะดิจิทัลเชิงสร้างสรรค์ในอาเซียน

เน็ตฟลิกซ์ ลงนามในข้อตกลงกับสภาเศรษฐกิจโลก มุ่งพัฒนาทักษะดิจิทัลเชิงสร้างสรรค์ในอาเซียน ข้อตกลงในการร่วมพัฒนาทักษะต่างๆ เพื่อส่งเสริมอุตสาหกรรมแห่งความสร้างสรรค์ ความปลอดภัยในโลกออนไลน์ และแนวทางบริหารจัดการเพื่อความคล่องตัว เน็ตฟลิกซ์ ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับคณะทำงานด้านดิจิทัล อาเซียนของสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum) เพื่อส่งเสริมให้ประชาชนและรัฐบาลในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ พัฒนาขีดความสามารถและทักษะด้านดิจิทัลเชิงสร้างสรรค์ และเตรียมพร้อมสู่การปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่ 4 ข้อตกลงดังกล่าว เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ "ASEAN Digital Skills Vision 2020" โดยสภาเศรษฐกิจโลก ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างภาครัฐและกลุ่มบริษัทเอกชน ภายใต้จุดมุ่งหมายเพื่อฝึกฝน พัฒนาทักษะดิจิทัลแก่แรงงาน 20 ล้านคนในอาเซียนภายในปี พ.ศ. 2563 โครงการดังกล่าวนับเป็นภารกิจที่เร่งด่วน เนื่องจากการสำรวจความคิดเห็นของเยาวชนในอาเซียนกว่า 56,000 คนโดยสภาเศรษฐกิจโลกพบว่า เยาวชน 52 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่าพวกเขาต้องหมั่นพัฒนาทักษะด้านต่างๆ เพื่อให้ประสบความสำเร็จในตลาดแรงงาน โดยเยาวชนผู้ตอบแบบสอบถาม ไดัจัดอันดับให้ความคิดสร้างสรรค์และศักยภาพเชิงนวัตกรรม เป็นทักษะที่สำคัญอันดับหนึ่งที่ต้องมีในอนาคต นายยู-ชวง เคว๊ก กรรมการผูัจัดการประจำภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก ของเน็ตฟลิกซ์ กล่าวว่า “ในขณะที่ธุรกิจของเน็ตฟลิกซ์เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง เราได้ร่วมมือกับรัฐบาลในประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และพันธมิตรร่วมอุตสาหกรรม เพื่อสนับสนุนการพัฒนาทักษะดิจิทัลเชิงสร้างสรรค์

Read More

นักวิจัยมช.พบพันธุ์ไม้ชนิดใหม่ของโลก ‘พรหมจุฬาภรณ์’ รอต่อยอดยาต้านมะเร็ง

นักวิจัยมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ค้นพบพืชชนิดใหม่ของโลกในสกุลมหาพรหม ได้รับพระราชทานนาม “พรหมจุฬาภรณ์” จากป่าดิบแล้งบนเขาหินปูนขนาดเล็กในนครศรีธรรมราช พร้อมเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืชเพื่อขยายพันธุ์ให้มากขึ้นและพัฒนาเป็นยาต้านมะเร็งต่อไป คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จัดการแถลงข่าวพืชชนิดใหม่ของโลกในสกุลมหาพรหม (Mitrephora (Blume) Hook.f. & Thomson) ซึ่งได้รับพระราชทานนาม “พรหมจุฬาภรณ์” จากศาสตราจารย์ ดร. สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี ในงานสัปดาห์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ ส่วนภูมิภาค ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๒ ณ อาคาร ๔๖ ปี คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โดยมี รองศาสตราจารย์ ดร.สัมพันธ์ สิงหราชวราพันธ์ รองอธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม พร้อมด้วย รองศาสตราจารย์ ดร.คมกฤต เล็กสกุล รองผู้อำนวยการภารกิจจัดสรรงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ร่วมแถลงข่าว คณะนักวิจัยนำโดย ดร.ธนวัฒน์ เชาวสกู สังกัดภาควิชาชีววิทยา

Read More

จากกรุงเทพฯ ถึงฮ่องกง บทเรียนและราคาที่ต้องจ่าย?!

การชุมนุมประท้วงของชาวฮ่องกงที่ดำเนินต่อเนื่องมาเป็นสัปดาห์ที่ 10-11 และทวีความตึงเครียดขึ้นไปเมื่อมีการบุกรุกเข้าไปยังสนามบินนานาชาติ จนเป็นเหตุให้ต้องมีการยกเลิกเที่ยวบินทั้งขาเข้าและขาออกในช่วงก่อนหน้านี้ โดยที่ยังไม่มีทีท่าว่าจะก้าวไปสู่บทสรุปสุดท้ายอย่างไร ทำให้หลายฝ่ายเริ่มประเมินถึงผลกระทบจากกรณีดังกล่าวไปในทิศทางที่เป็นลบ และกังวลว่าอาจเป็นฟางอีกเส้นที่ส่งให้เศรษฐกิจในภูมิภาคถดถอยลงกว่าที่เป็นอยู่ เนื่องเพราะการชุมนุมประท้วงที่ยืดเยื้อในฮ่องกงส่งผลกระทบต่อการตัดสินใจนำเงินเข้าไปลงทุนในฮ่องกงของบรรดานักลงทุนต่างชาติและนักลงทุนชาวฮ่องกงโดยตรง ขณะที่การชุมนุมประท้วงที่ส่งสัญญาณความรุนแรงมากขึ้นตั้งแต่ช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนที่จะนำไปสู่การปิดสนามบินในช่วงกลางเดือน นับเป็นการท้าทายต่ออำนาจของทางการและรัฐบาลจีนในกรุงปักกิ่งอย่างไม่อาจเลี่ยง การชุมนุมที่มีจุดเริ่มต้นจากการคัดค้านการที่คณะผู้ปกครองฮ่องกงเตรียมนำเสนอและผ่านร่างกฎหมายส่งผู้ร้ายข้ามแดนจากฮ่องกงไปจีน ก่อนที่จะยกระดับไปสู่การชุมนุมที่สนามบินจนเป็นเหตุให้ต้องปิดการจราจรทางอากาศ ซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อนในฮ่องกง กลายเป็นการชุมนุมประท้วงครั้งใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่สหราชอาณาจักรส่งมอบอธิปไตยของฮ่องกงคืนให้กับจีนเมื่อปี 2540 เค้าลางแห่งความไม่พึงพอใจจนนำไปสู่การชุมนุมประท้วงยืดเยื้อ ในด้านหนึ่งเป็นผลพวงมาจากข้อเท็จจริงที่ว่า สถานะของฮ่องกงหลังการส่งมอบคืนจีนเมื่อปี 2540 นั้น ดำเนินไปภายใต้ข้อตกลงพิเศษระหว่างจีนและสหราชอาณาจักร ที่ทำให้แม้ฮ่องกงจะเป็นส่วนหนึ่งของจีน แต่ก็ยังมีสิทธิปกครองตนเอง แบบ “1 ประเทศ 2 ระบบ” โดยสิทธิพิเศษและเสรีภาพที่ฮ่องกงได้รับนี้จะสิ้นสุดลงในปี 2590 ซึ่งดูเหมือนว่ารัฐบาลจีนไม่ต้องการรอจนถึงเวลานั้น ขณะที่ประชาชนชาวฮ่องกงจำนวนไม่น้อยก็เริ่มกังวลใจต่ออนาคตที่กำลังคืบคลานใกล้เข้ามา ความพยายามที่จะประท้วง คัดค้าน และแสดงออกซึ่งเสรีภาพทางการเมืองของชาวฮ่องกง เป็นกรณีที่เกิดขึ้นต่อเนื่องนับตั้งแต่เมื่อปี 2546 โดยชาวฮ่องกงจำนวนหลายแสนคนประสบความสำเร็จในการประท้วงและสามารถล้มร่างกฎหมายที่ห้ามวิจารณ์จีนได้สำเร็จ และต่อมาเมื่อปี 2557 ชาวฮ่องกงหลายหมื่นคนก็ปักหลักชุมนุมยืดเยื้อหลายสัปดาห์ เพื่อต่อต้านจีน ที่ใช้อิทธิพลต่อการเลือกตั้งของฮ่องกง ซึ่งประชาชนจำนวนมากใช้ร่มเป็นอุปกรณ์ป้องกันฤทธิ์ของแก๊สน้ำตา จนถูกขนานนามว่า “การเคลื่อนไหวร่ม” (Umbrella Movement) ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจและเกิดขึ้นในช่วง 2 ทศวรรษหลังจากที่ฮ่องกงกลับคืนสู่อ้อมอกของจีนอยู่ที่คนหนุ่มสาวชาวฮ่องกงเริ่มตระหนักและตื่นตัวเรื่องการเมืองเพิ่มขึ้นในช่วง 2 ทศวรรษที่ผ่านมา โดยอัตราการลงทะเบียนเลือกตั้งของคนอายุ

Read More