“บาจา รู้เฟื่องเรื่องรองเท้า” สโลแกนที่คุ้นหูติดปากกลุ่มเด็กนักเรียนในช่วงที่ครองความป็นเบอร์ 1 ของรองเท้านักเรียน ด้วยสัดส่วนตลาดถึง 25% และครองใจเด็กไทยมาเป็นเวลายาวนาน
แบรนด์ “Bata” อ่านว่า บาทา ซึ่งตรงตามความหมายของไทย ที่หมายถึงเท้า เสมือนตอกย้ำภาพลักษณ์การเป็นผู้นําด้านรองเท้า ที่ตั้งชื่อตรงกับสินค้าจนทําให้นึกว่าน่าจะเป็นรองเท้าแบรนด์ไทยที่มีมาเนิ่นนาน
แต่ในความเป็นจริง BATA ต้องอ่านว่า บาจา และเป็นแบรนด์โลก โดยคําว่า Bata เป็นภาษาเช็ค สะกด Bat’a มาจากชื่อของผู้ก่อตั้ง Tomas Bat’a แต่เมื่อมาถึงเมืองไทย ด้วยความแตกต่างของพยัญชนะ แบรนด์โลก Bat’a ก็ได้ปรากฏตัวในไทยด้วยแบรนด์ Bata เมื่อ 85 ปีที่ผ่านมา และเป็นแบรนด์รองเท้าที่ย่างก้าวมายาวนานถึง 120 ปี ในปีนี้
หากย้อนรอยแบรนด์รองเท้าชื่อก้องโลกนี้ คงต้องเริ่มจากย่างก้าวจากธุรกิจครอบครัว การทํารองเท้าหนังแบบเย็บมือที่เก่าแก่กว่า 8 ช่วงอายุ (Generations) จากรุ่นลูกสู่รุ่นหลาน ที่ยาวนานและเป็นมรดกตกทอด จนถึงมือมิสเตอร์โทมัส บาจา (Mr.Thomas Bata) ที่รับหน้าที่สืบทอดธุรกิจของครอบครัวเพียงผู้เดียว และกลายเป็นต้นกําเนิดของแบรนด์บาจาในเวลาต่อมา
โดยแบรนด์รองเท้าบาจาได้ก่อตั้งขึ้น ณ เมืองชลิน ประเทศเชโกสโลวะเกีย เมื่อปี 1894 นับเป็นจุดเริ่มต้นการผลิต จากด้ายเย็บมือมาสู่สายพานการผลิตที่ทันสมัยเป็นครั้งแรก และเป็นจุดเปลี่ยนของธุรกิจเข้าสู่อุตสาหกรรมรองเท้าอย่างเต็มตัว ด้วยยอดการผลิตเพียงวันละ 2,200 คู่ จากพนักงาน 250 คน ในปีแรก โดยมุ่งผลิตสินค้าที่มีรูปแบบสวยงาม ทนทาน และที่สําคัญราคาที่ทุกคนหาซื้อได้
ในปี 1920 บาจาได้ก้าวเดินสู่ตลาดยุโรป แอฟริกาเหนือ สหรัฐอเมริกา และได้ไปเปิดบริษัทในประเทศโปแลนด์ ยูโกสลาเวีย ฮอลแลนด์ เดนมาร์ก เครือจักรภพอังกฤษ และสหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะก้าวรุกเข้าไปในฝรั่งเศส ออสเตรเลีย โรมาเนีย สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ อียิปต์ เบลเยียม ฟินแลนด์ ลักเซมเบิร์ก ฮังการี อิตาลี อินโดนีเซีย และสิงคโปร์ ทําให้แบรนด์บาจากลายเป็นแบรนด์รองเท้าระดับโลก และมียอดขายเป็นอันดับต้นๆ
มิสเตอร์บาจาใช้เวลาเพียง 10 ปีในการสร้างแบรนด์บาจา จนประสบความสําเร็จ และก้าวขึ้นเป็นรองเท้าสุดฮิตของโลก ด้วยยอดการผลิตที่สูงอย่างต่อเนื่องถึงปีละ 2 ล้านคู่จากก้าวแรกจนถึงก้าวปัจจุบัน บาจาได้เดินทางทั่วโลกมายาวนานถึง 120 ปี และได้ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ผลิตและจําหน่ายรองเท้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสํานักงานใหญ่ที่เมืองโลซานน์ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ โดยผู้กุมบังเหียนใหญ่ โทมัส จี. บาจา ประธานบริษัท บาจา อินเตอร์เนชั่นแนล โดยมีพนักงานกว่า 40,000 คน โรงงานผลิต 40 แห่งใน 26 ประเทศทั่วโลก และมีร้านค้าปลีก 5,000 ชอปใน 70 ประเทศทั่วโลก ที่พร้อมบริการลูกค้าวันละ1 ล้านคน
ทั้งนี้ ภายใต้วิสัยทัศน์การดําเนินงานตามที่มิสเตอร์บาจา ได้กล่าวไว้ว่า “เราจะผลิตรองเท้าให้คนทั้งโลก ได้สวมใส่” (To put shoes on the feet of the world) บาจาจึงมีการผลิตรองเท้าสําหรับรองรับทุกเพศทุกวัย ไม่ว่าจะเป็นรองเท้านักเรียน รองเท้ากีฬา รองเท้าลําลองชาย-หญิง รองเท้าแตะ รองเท้าเด็ก และรองเท้าแฟชั่น ภายใต้แบรนด์ดังในเครือ อาทิ BATA1, BATA FLEXIBLE, POWER, WEINBRENNER, NORTH E, MARIE CLAIRE, BUBBLEGUMMER
ท่ามกลางการแข่งขัน ในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น รวมทั้งกระแสแฟชั่นของโลกที่เปลี่ยนแปลง บาจาได้มีการพัฒนาจากรองเท้าสีพื้นไปสู่แฟชั่นที่มีรองเท้าหลากแบบหลายสีสัน และรวมถึงมุ่งเน้นเรื่องการตลาด การสร้างแบรนด์ระดับนานาชาติ เทคนิคในการผลิตที่ทันสมัย รวมทั้งเริ่มกําหนดเทรนด์โดยดีไซเนอร์ของแต่ละซีซั่นของรองเท้าที่ผลิตขึ้นเป็นแบรนด์แฟชั่น ซึ่งการปรับภาพแบรนด์ใ ห้ทันสมัยนั้น ส่งให้ภาพลักษณ์ บาจา ได้ชื่อว่าเป็นโรงงานผลิตรองเท้าคุณภาพที่ใหญ่ที่สุดในโลก
และอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่สำคัญ คือการให้ความสําคัญกับพนักงาน โดยการฝึกอบรมและพัฒนาพนักงาน ให้สามารถปฏิบัติงานได้ทุกระดับ และเปิดโอกาส ให้พนักงานมีส่วนร่วมในการพัฒนาและขยายงานอีกด้วย
นอกจากจะผลิตรองเท้าไว้รองรับกับทุกเพศวัยแล้ว บาจายังมีการพัฒนาแตกไลน์ผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ อาทิ กระเป๋า เข็มขัด ฯลฯ โดยเน้นสร้างความผูกพันกับไลฟ์สไตล์ของผู้คน ให้ทุกคนสามารถสวมใส่ได้ แถมด้านดีไซน์ก็ยังพัฒนาให้ทันสมัย มีความเป็นสากล แต่ราคาย่อมเยา
ถึงแม้จะเป็นแบรนด์เก่าแก่ แต่บาจาก็มีการปรับแผนธุรกิจซึ่งเป็นนโยบายการก้าวเดินของรองเท้าบาจา ทั่วโลก ด้วยการปรับแบรนด์ให้ทันสมัย โดยเมื่อปีที่แล้วบาจาได้ออกเคมเปญระดับโลก “Bata, Then and Now เป็นเคมเปญที่เน้นการปรับปรุงร้านบาจาให้ทันสมัย และพัฒนาสินค้าให้หลากหลายเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า
ในปีนี้บาจาเดินทางทั่วโลกมายาวนานถึง 120 ปี จึงออกเคมเปญพิเศษ โดยผลิตรองเท้าคอลเลกชั่นพิเศษสุด “THE ONE” (เดอะ วัน) รองเท้าหนังหุ้มส้นสําหรับผู้ชาย สีดําคลาสสิก โดยใช้การผลิตแบบแฮนด์เมด ซึ่งจะผลิตในประเทศอิตาลี และใช้มาตรฐานการผลิตอิตาลีทุกคู่ รวมทั้งมีการใช้หนังและพื้นรองเท้าที่มีคุณภาพสูง โดยมีเพียง 1,200 คู่ทั่วโลก คอลเลกชั่นพิเศษนี้ออกแบบจากบุคลิกของมิสเตอร์ โทมัส จี. บาจา ทุกคู่จะมีลายเซ็นของมิสเตอร์บาจาและหมายเลขกํากับตั้งแต่ 1–1,200 ทุกคู่
ในขณะที่รองเท้าบาจาในประเทศไทย ที่ได้เริ่มก่อตั้งตั้งแต่ ปี 2472 หรือกว่า 85 ปีแล้ว ถือว่าเป็นบริษัทที่อยู่คู่กับคนไทยมายาวนานอีกบริษัทหนึ่ง โดยได้เริ่มเปิดสาขาของบริษัทรองเท้าบาจาแห่งสิงคโปร์ โดยร้านจําหน่ายร้านแรกตั้งอยู่บนถนนเจริญกรุง ต่อมาได้เริ่มผลิตรองเท้าครั้งแรกในไทยเมื่อปี 2498 โดยเริ่มต้นจากการผลิตรองเท้านักเรียนด้วยพนักงานเพียง 15 คน ผลิตได้ประมาณวันละ 100 คู่ และได้รับความนิยมจากประชาชน โดยเฉพาะรองเท้านักเรียน
จวบจนปัจจุบัน บาจามีโรงงานผลิตรองเท้าตั้งอยู่ที่นิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง มีพนักงานเกือบพันคน ทําการผลิตรองเท้าได้วันละ 1,000 คู่ และมีชอปที่ได้รับการดีไซน์แพลตฟอร์มเดียวกับประเทศในแถบเอเชีย กว่า 280 สาขา ทั้งในศูนย์การค้า สตรีทช็อป และเดสติเนชั่น ช็อป (Destination Shop) โดยยังคงเน้นการเป็นผู้นําการผลิตรองเท้าสําหรับทุกคนในครอบครัว คุณภาพเหมาะสมกับราคา
Bata แบรนด์ดังระดับโลก ที่แม้มีความเก่าแต่ไม่ได้แก่ตามวัย แต่ยังเคลือบแฝงด้วยความทันสมัย และมีการพัฒนาปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ เพื่อตอบสนองความต้องการของตลาดทุกเพศทุกวัย ได้อย่างทั่วถึง
การก้าวเดินของ Bata จึงเป็นก้าวที่แข็งแกร่งและเดินเคียงคู่ไปพร้อมกับความเปลี่ยนแปลงของโลก
Relate Story
