SIRI เผยผลประกอบการ Q1/56 รายได้ 5,180 ล้านบาท
ตั้งเป้ายอดขายไตรมาสสอง 10,000 ล้านบาท เปิดตัว 14 โครงการใหม่ มูลค่ารวม 14,400 ล้านบาท
แสนสิริ -SIRI เผยผลการดำเนินงานไตรมาสแรก 56 สร้างยอดขายรวมกว่า 21,000 ล้านบาท มีรายได้รวม 5,180 ล้านบาท ขณะที่ไตรมาส 2/56 บริษัทตั้งเป้ายอดขาย 10,000 ล้านบาท จากแผนการเปิดตัวโครงการใหม่ 14 โครงการ มูลค่ารวม 14,400 ล้านบาท ระบุงานในมือล้น มียอดรอรับรู้รายได้แล้วกว่า 58,872 ล้านบาท ย้ำเดินหน้าตามแผนธุรกิจ รักษาอัตราการเติบโตต่อเนื่อง พร้อมทยอยเปิดโครงการใหม่ทั้งกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด
นายเศรษฐา ทวีสิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI เปิดเผยถึงผลการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสแรกของปี 2556 ว่า บริษัทสามารถปิดยอดขายได้สูงถึง 21,000 ล้านบาท คิดเป็นรายได้รวมกว่า 5,180 ล้านบาท โดยอัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 100% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกของปีก่อนที่มียอดขาย 11,000 ล้านบาท นอกจากนี้ในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้บริษัทยังได้มีการปรับเป้าหมายยอดขายจาก 20,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นเป็น 21,500 ล้านบาท โดยยอดขาย 21,000 ล้านบาทที่สามารถทำได้ในไตรมาสนี้นั้น นับว่าเป็นการบันทึกถิติการสร้างยอดขายรายไตรมาสที่สูงที่สุดในประวัติการณ์ที่บริษัทสามารถทำได้ภายในไตรมาสเดียวอีกครั้ง
“แสนสิริ จะเป็นบริษัทฯ ที่มีอัตราการเติบโตต่อเนื่องทั้งยอดขาย รายได้และกำไรในระยะยาวโดยในไตรมาสแรกของปี 2556 บริษัทสามารถสร้างยอดขายเติบโตสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 21,000 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งบริษัทสามารถสร้างยอดขายได้ที่ 11,000 ล้านบาท อัตราการเติบโตของยอดขายเพิ่มขึ้นถึงเกือบ 100% จากการเปิดการขายโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ อาทิ คอนโดมิเนียม EDGE Sukhumvit 23 (เอดจ์ สุขุมวิท 23) (Sold out), โครงการ ดีบุรา พรานนก (Sold out), เดอะ เบส พัทยากลาง (THE BASE Central Pattaya) (Sold out), ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท รังสิต(Sold out), ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท ราชพฤกษ์ – จรัญฯ 13(Sold out), ดีคอนโด เนินพระ จังหวัดระยอง(Sold out), นายน์ บาย แสนสิริ (ยอดขาย 70%), ดีคอนโด แคมปัส รีสอร์ท กู้กู จังหวัดภูเก็ต, เดอะ เบส ไฮท์-ภูเก็ต, บ้านไม้ขาว ภูเก็ต, เดอะ เบส เทพารักษ์ – ขอนแก่น, โครงการบ้านเดี่ยว บุราสิริ เกาะแก้ว ภูเก็ต, โครงการเรน ชะอำ – หัวหิน และบ้านเคียงฟ้า หัวหิน เป็นต้น
นอกจากนี้บริษัทยังมีการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ทั้งสิ้น เป็นจำนวนถึง 17 โครงการ ซึ่งนับว่าสูงที่สุดจากแผนที่เคยดำเนินการพัฒนาโครงการในไตรมาสเดียวมาก่อน จากแผนการเปิดตัวโครงการที่อยู่อาศัยใหม่ทั้งปีรวมจำนวนทั้งสิ้น 45 โครงการ มูลค่ารวมกว่า 61,000 ล้านบาท” นายเศรษฐากล่าว
ทั้งนี้ในปี 2556 บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายที่ 48,000 ล้านบาท และเป้าหมายรายได้ที่ 35,000 ล้านบาท รวมทั้งอัตรากำไรสุทธิประมาณการณ์ที่ 10 ของรายได้รวม ขณะที่กำไรในไตรมาสแรกของปี 2556 (-86 ล้านบาท) นี้ เป็นผลที่เกิดจากการบันทึกบัญชีรายได้และค่าใช้จ่ายที่ไม่สอดคล้องกัน โดยรายได้ในช่วงไตรมาสที่หนึ่ง ซึ่งคาดว่าจะเป็นไตรมาสที่มีการบันทึกรายรับน้อยที่สุดนี้ ขณะที่บริษัทต้องมีการบันทึกค่าใช้จ่ายที่เกิดจากขาย หรือการสร้างยอดขาย (Presale) ได้ถึง 21,000 ล้านบาท ทั้งนี้คาดว่าการบันทึกรายได้และค่าใช้จ่ายในช่วงครึ่งหลังของปี 2556 จะมีการกลับตัวในทิศทางที่ดี เนื่องจากบริษัทคาดว่าจะมีการบันทึกรายได้ที่สูงขึ้นต่อเนื่องในขณะที่ค่าใช้จ่ายในการขายจะปรับตัวลดลงในทิศทางที่สอดคล้องกัน
นอกจากนี้ในปัจจุบันบริษัทยังมียอดขายรอรับรู้รายได้ใน 3 ปีข้างหน้าซึ่งนับว่าสูงที่สุดของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ในประเทศไทยในขณะนี้แล้วกว่า 58,872 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้รายได้ตั้งแต่ไตรมาสที่ 3 ของปีนี้ไปจนถึงอีก 4 ปีข้างหน้า และช่วยสร้างมั่นใจในการพัฒนาโครงการในอนาคตได้เป็นอย่างดี
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงไตรมาสที่ 2/56 นี้ บริษัทจะมีการพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยใหม่อีก ประมาณ 14 โครงการ แบ่งเป็นโครงการคอนโดมิเนียมประมาณ 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 5,550 ล้านบาท โครงการบ้านเดี่ยว 5 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 8,100 ล้านบาท รวมทั้งการพัฒนาทาวน์เฮาส์อีกประมาณ 4 โครงการ มูลค่ารวมประมาณ 750 ล้านบาท รวมมูลค่าโครงการใหม่ที่จะพัฒนาทั้งสิ้น ประมาณ 14,400 ล้านบาท โดยบริษัทตั้งเป้ายอดขายในช่วงไตรมาส 2 ไว้ประมาณ 10,000 ล้านบาท
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน)
