25 เมษายน 2556 – บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทความงามอันดับสองของประเทศไทย แถลงความเป็นผู้นำในตลาดสกินแคร์ ด้วยส่วนแบ่งตลาดร้อยละ 181 และยังคงเป็นบริษัทความงามที่เติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย2 โดยในปี 2555 ธุรกิจรวมของบริษัทเติบโตร้อยละ 19 มียอดขายผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 112 ล้านชิ้น และมีอัตราการเติบโตเป็นตัวเลขสองหลักในไตรมาสแรกของปีนี้
มร. อูเมช ฟัดเค กรรมการผู้จัดการ บริษัท ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ธุรกิจของลอรีอัลยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาจนถึงไตรมาสแรกของปีนี้ โดยบริษัทเป็นแชมป์ผู้นำในตลาดสกินแคร์ ในปี 2555 ตลาดความงามของไทยเติบโตร้อยละ 11.6 โดยมูลค่าตลาดรวมอยู่ที่105,000 ล้านบาท โดยตลาดสกินแคร์มีส่วนแบ่งใหญ่ที่สุด ในสัดส่วนร้อยละ 45 ของตลาดความงามทั้งหมด นอกจากนี้ ตลาดสกินแคร์ของไทยยังเป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในกลุ่มประเทศในอาเซียน การที่ลอรีอัลสามารถเป็นผู้นำในตลาดที่มีการแข่งขันสูง ผู้บริโภคมีความจงรักภักดีต่อแบรนด์ และมีนวัตกรรมเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก นับเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของเรา ผมขอขอบคุณพนักงานลอรีอัลทุกคนที่ทุ่มเทช่วยกันทำให้ความสำเร็จครั้งนี้เกิดขึ้น เราเชื่อมั่นว่าเราสามารถผลักดันธุรกิจของเราให้เติบโตเร็วกว่าตลาด เพื่อการก้าวสู่บริษัทความงามอันดับหนึ่งของประเทศไทยให้ได้ในเร็วๆ นี้”
ยอดขายของลอรีอัล ประเทศไทย เติบโตร้อยละ 19 ในปีที่ผ่านมา และยังคงเติบโตต่อเนื่องในอัตราตัวเลขสองหลักในไตรมาสแรกของปีนี้ โดยปัจจัยหลักมาจากความสำเร็จของผลิตภัณฑ์หลักจากแบรนด์
ลอรีอัล ปารีส และ การ์นิเย่ ในแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคที่มีมูลค่าคิดเป็นร้อยละ 70 ของธุรกิจลอรีอัลในประเทศไทย
“ความสำเร็จของเราในตลาดสกินแคร์นั้นเกิดขึ้นจากการเข้าใจความต้องการของผู้บริโภค มี
นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น มีช่องทางจำหน่ายที่เข้าถึงผู้บริโภค และการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ ตลาดสกินแคร์นั้นมีลักษณะเฉพาะตัวเมื่อเทียบกับตลาดความงามอื่นๆ เนื่องจากเป็นผลิตภัณฑ์ที่มีสนองตอบต่อความต้องการของผู้บริโภคแต่ละคน และเพื่อที่จะเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคให้ดียิ่งขึ้น เราได้เข้าเข้าหาผู้บริโภคตามบ้านทั่วประเทศเพิ่มมากขึ้นเป็นเท่าตัว เพื่อที่จะได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริโภคของเราตัวต่อตัว เราได้เพิ่มงบเพื่อการวิจัยตลาดเป็นร้อยละ 20 เพื่อทำความเข้าใจผู้บริโภคมากขึ้น ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวของเรามีวางขายในร้านค้ากว่า 150,000 แห่ง ทั่วประเทศ ทีมงานของแผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคได้ทำงานร่วมกับทีมงานของลอรีอัลในภูมิภาค เพื่อค้นคว้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคชาวไทยมากที่สุด
ด้านการสื่อสารการตลาด แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภคของเราได้ไช้สื่อต่างๆ ในการสื่อสารไปยังผู้บริโภคอย่างครบวงจร รวมถึงความสำเร็จในการใช้พรีเซนเตอร์เพื่อเป็นตัวแทนของผลิตภัณฑ์ที่สะท้อนถึงความต้องการด้านความงามที่หลากหลาย และสามารถเข้าถึงผู้บริโภคคนไทยได้เป็นอย่างดี” มร. ทิม เบอร์เกอร์ ผู้จัดการทั่วไป แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค กล่าว
ในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2556 ลอรีอัล ประเทศไทย จะยังคงรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสกินแคร์ด้วยนวัตกรรมใหม่ๆ จากทุกแผนก ดังนี้
· แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค
o ลอรีอัล ปารีส: รีไวทัลลิฟท์ เลเซอร์ เอ็กซ์ 3 (L’Oreal Paris Revitalift Laser X3) ผลิตภัณฑ์ลดเลือนริ้วรอยระดับโลก ด้วยแรงบันดาลใจจากเทคโนโลยีเลเซอร์ สำหรับผู้หญิงอายุระหว่าง 25-40 ปี
o การ์นิเย่: การ์นิเย่ ไลท์ คอมพลีท (Garnier Light Complete) ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกระจ่างใสและลดเลือนจุดด่างดำ สำหรับผู้หญิงที่อายุระหว่าง 15-30 ปี
o การ์นิเย่: การ์นิเย่ ซากุระ (Garnier Sakura) ผลิตภัณฑ์เพื่อผิวกระจ่างใสอมชมพูสำหรับผู้หญิงที่อายุระหว่าง 20-35 ปี
· แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง
o ลังโคม: แอนวานซ์ จีนิฟีก (Lancome Advanced Genifigue) เซรั่มฟื้นบำรุงสัญญาณความ
อ่อนเยาว์ของผิว
o อีฟส์ แซงต์ โลร็องต์ โบเต้ : ฟอร์เอเวอร์ ยูธ ลิเบอเรเตอร์ (Forever Youth Liberator) เซรั่ม
ชะลอความร่วงโรยของผิว
· แผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง
o ลา โรช-โพเซย์: แอนเทลิโอส ดรายทัช เจล-ครีม เอสพีเอฟ 50+ (Anthelios XL Dry Touch
Cream SPF 50+) ครีมกันแดดเนื้อเจลครีม เหมาะสำหรับผิวบอบบาง ระคายเคืองง่าย
o วิชี่: นอร์มาเดิร์ม ไฮยาลูสปอต (Vichy Normaderm HyaluSpot) เจลแต้มสิวประสิทธิภาพสูงที่การสร้างแผ่นฟิล์มใสเคลือบผิว
“การเติบโตของลอรีอัลนั้น มาจากกลยุทธ์ความงามสำหรับแต่ละบุคคล หรือ The Universalization and Beauty for All ซึ่งเน้นการปรับเปลี่ยนนวัตกรรมระดับโลกให้เข้าถึงความต้องการ
ทางความงาม วัฒนธรรม และกำลังซื้อของผู้บริโภคที่แตกต่างกันไปในแต่ละตลาดทั่วโลก สิ่งนี้ทำให้เราสามารถแบ่งปันข้อมูลความต้องการของผู้บริโภคเชิงลึก ให้กับห้องแล็บของลอรีอัลในปารีส ญี่ปุ่น จีน เพื่อใช้ในการปรับและพัฒนาสูตรผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ได้ตรงใจผู้บริโภคมากที่สุด” มร. อูเมช กล่าว
ลอรีอัล เป็นผู้นำในการลงทุนด้านการวิจัยและพัฒนาในอุตสาหกรรมความงาม ในหนึ่งปี ลอรีอัลได้ลงทุนเพื่อการค้นคว้าวิจัยคิดเป็นเม็ดเงินถึง 721 ล้านยูโร (28,800 ล้านบาท) และมีการจดสิทธิบัตร 611 ฉบับ การลงทุนด้านวิจัยนี้ทำให้ลอรีอัลสามารถสร้าง พัฒนา และเป็นผู้นำตลาดความงามของไทย ทั้งในด้านเทคโนโลยี ประโยชน์ และผลลัพธ์ที่ผู้บริโภคได้จากผลิตภัณฑ์
มร. อูเมช กล่าวเพิ่มเติมว่า ลอรีอัลกำลังเดินหน้าไปสู่การเป็นผู้นำตลาดความงามของประเทศไทยในอนาคตอันใกล้ “การที่เราจะเป็นที่หนึ่งได้ เราจะต้องรักษาความเป็นผู้นำในตลาดสกินแคร์และทำงานอย่างหนักเพื่อสร้างการเติบโตให้ได้มากกว่าตลาด ในตลาดอื่นๆ ด้วย ซึ่งเป้าหมายนี้จะเป็นไปได้ก็เพราะ
ด้วยความเชี่ยวชาญด้านความงามที่สั่งสมมากว่าร้อยปี การเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคอย่างถ่องแท้ ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และการปฏิบัติงานที่ต้องยอดเยี่ยมในทุกๆ ด้าน ในขณะเดียวกัน เรายังคง
จะให้ความสำคัญกับการพัฒนาคน การพัฒนาเพื่อเป็นบริษัทที่น่าทำงาน และการร่วมช่วยสร้างสังคมที่แข็งแรงและน่าอยู่ขึ้น
“วิทยาศาสตร์ เป็นหัวใจสำคัญขั้นพื้นฐานของธุรกิจของเรา ผลิตภัณฑ์จากลอรีอัลทุกชิ้นเป็นผล
จากการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ เราภูมิใจที่สามารถนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุดและปลอดภัยที่สุดให้แก่ผู้บริโภคของเราอย่างต่อเนื่องเสมอมา ภายใต้ความเชื่อที่ว่าความงามมีอานุภาพในการเปลี่ยนแปลงชีวิตได้”กรรมการผู้จัดการของลอรีอัลกล่าวทิ้งท้าย
ลอรีอัล (ประเทศไทย) จำกัด เป็นบริษัทสาขาของบริษัทความงามอันดับหนึ่งของโลก ปัจจุบันนำเข้าและจัดจำหน่าย 20 แบรนด์ความงามชั้นนำของโลก โดยแบ่งออกเป็น 4 แผนก ดังนี้ แผนกผลิตภัณฑ์อุปโภค ได้แก่ ลอรีอัล ปารีส การ์นิเย่ และเมย์เบลลีน นิวยอร์ก แผนกผลิตภัณฑ์ความงามชั้นสูง ได้แก่
ลังโคม ไบโอเธิร์ม จิออร์จิโอ อาร์มานี่ ราล์ฟ ลอเรน คาชาเรล กี ลาโรชย์ คีลส์ ชู อูเอมูระ วิคเตอร์
แอนด์ รอล์ฟ ดีเซล สเตลล่า แมคคาร์ทนี่ และ อีฟส์ แซงต์ โลร็องต์ แผนกผลิตภัณฑ์ช่างผมมืออาชีพได้แก่ ลอรีอัล โปรเฟสชั่นแนล เคเรสตาส และแมทริกซ์ และแผนกผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ได้แก่
ลา โรช-โพเซย์ และวิชี่
หมายเหตุ
(1) ตัวเลขล่าสุดในปี 2556 จาก ACNeilsen โดยรวมตลาดสกินแคร์บุรุษและสตรี (ในกลุ่มผลิตภัณฑ์ ทำความสะอาดผิวหน้าและบำรุงผิวหน้า)
(2) เมื่อเปรียบเทียบกันในกลุ่มบริษัทข้ามชาติขนาดใหญ่ ที่มีเงินรายได้สูงกว่า 5,000 ล้านบาทขึ้นไป
####
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณพรรวี สุรมูล หรือ คุณอรวีร์ วิริยธนานนท์
บริษัท ฮิลล์ แอนด์ นอลตัน สแตรทิจีส์
โทรศัพท์ 02 627 3501 ต่อ 110 หรือ 221 มือถือ 081 735 9213 หรือ 086 555 7419