เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ ไม่ใช่เรื่องประเภท based on true story ครับ แต่มันเป็นเรื่องราวอลังการรักแสนเศร้าที่เกิดขึ้นจริงๆ อย่าเพิ่งงงครับ คุณกำลังอ่านคอลัมน์ travel in style อยู่ครับ แต่ที่ที่ผมจะพาคุณไปเยือนวันนี้ เป็นอนุสรณ์สถานแห่งความรักแห่งหนึ่ง ที่สร้างไว้วันที่คู่รักมหาเศรษฐีเข้ามาใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่วันนั้นไม่เคยมาถึง ฟังดูคล้ายรายการ คนอวดผี ช่วงล่าท้าผี ยังไงไม่รู้เนอะ
อนุสรณ์สถานรักที่ว่าอยู่ในนิวยอร์กครับ งงกันอีกดอก นิวยอร์กมีเกาะถึงพันเกาะล่ะหรือ คำตอบคือ มากกว่าพันเกาะอีกกครับ นิวยอร์กที่ว่านี้ ผมหมายถึงนิวยอร์กที่เป็นชื่อมลรัฐนะครับ ที่จริงมหานครนิวยอร์ก ก็อยู่ในมลรัฐนิวยอร์กนี่แหละ ที่เขาพูดกันว่า นิวยอร์ก นิวยอร์ก มิได้เป็นการเล่นย้ำคำใดๆ แต่หมายถึง เมืองนิวยอร์ก ในมลรัฐนิวยอร์ก นั่นเอง รัฐนิวยอร์กเป็นมลรัฐที่กว้างใหญ่ทีเดียว ชายขอบด้านเหนือของนิวยอร์กเป็นชายแดนติดกับแคนาดามีแม่น้ำเซนต์ลอว์เลนซ์ (St.Lawrence river) เป็นพรมแดนธรรมชาติ
พันเกาะ (1,000 Islands) เป็นชื่อเรียกพื้นที่บริเวณปากแม่น้ำเซนต์ลอว์เลนซ์ที่เปิดออกสู่ทะเลสาบออนแทริโอ (Ontario Lake) ซึ่งเป็นที่ตั้งของอนุสรณ์แห่งรักที่ผมกำลังจะพาคุณไปรู้จัก สถานที่ที่ว่านี้มีชื่อว่า ปราสาทโบวท์ (Boldt Castle)
ปราสาทแห่งรักนี้ถูกสร้างขึ้นบนเกาะหัวใจ (Heart island) ใจกลางพันเกาะ งานก่อสร้างเริ่มขึ้นประมาณปี ค.ศ.1990 โดยมหาเศรษฐีเจ้าของธุรกิจโรงแรม คุณจอร์จ ซี โบวท์ (George C. Boldt) เพื่อเป็นของขวัญให้กับภรรยาสุดที่รัก คุณนายลุอิส (Louise) กะว่าจะเนรมิตให้เป็นบ้านพักร้อนในฝันแสนสุข แต่ไม่ว่าจะร่ำรวยเงินทองอย่างไร บางสิ่งบางอย่างก็เป็นได้แค่เพียงฝัน
เพียงไม่กี่เดือนก่อนที่ปราสาทแห่งรักจะสร้างเสร็จสมบูรณ์ ในเดือนมกราคม ค.ศ.1904 คุณโบวท์ส่งโทรเลขไประงับการก่อสร้าง หลังจากการตายอย่างปัจจุบันทันด่วนของคุณนายโบวท์ ความสุขในอนาคตที่เห็นอยู่รำไร กลับกลายเป็นความเศร้าจากการจากไปของคนรัก อนุสรณ์สถานแห่งความรักก็กลายเป็นสถานที่แห่งความเจ็บปวด คุณโบวท์ไม่เคยกลับมาที่พันเกาะอีกเลย ตลอดช่วงชีวิตของเขา
ปราสาทแห่งรักที่ยังสร้างไม่เสร็จจึงถูกทิ้งร้างอยู่เป็นเวลา 74 ปี ผ่านลม ผ่านฝน ผ่านหิมะ ผ่านกาลเวลา จนถึงปี ค.ศ.1977 The Thousand Island Bridge Authority ได้เข้ามาซ่อมแซมและปรับปรุงปราสาทโบวท์เพื่อเป็นแหล่งท่องเที่ยว หมดเงินไปหลายล้านเหรียญสหรัฐ
ปราสาทโบวท์บนเกาะหัวใจประกอบด้วยโครงสร้างหลักๆ 6 ส่วน คือ The Castle ตัวปราสาทโบวท์ สูง 6 ชั้น มีห้องทั้งหมดประมาณ 120 ห้อง ภายในตกแต่งสวยหรู มีห้องต่างๆ เปิดให้นักท่องเที่ยวชม โดยเฉพาะชั้นล่างและชั้นที่สอง ส่วนชั้นสูงขึ้นไป ส่วนใหญ่ยังไม่ได้มีการซ่อมแซมและตกแต่งใดๆ แต่สามารถเดินขึ้นไปชมได้ บางส่วนสามารถชมวิวจากมุมสูงได้อีกด้วย, The Power House โรงไฟฟ้า, The Alster Tower หอคอยอัลสเตอร์ ที่สร้างเลียนแบบป้อมระวังภัยของปราสาทในเยอรมนี
แต่ที่ปราสาทโบวท์ ฟังก์ชันการใช้งานของมันคือห้องสันทนาการ หรือ Playhouse, the Hennery หรือ Dove-Cote โรงเก็บน้ำที่มีบ้านเลี้ยงนกอยู่ด้านบน, The Entry Arch ประตูทางเข้าเทียบเรือ, และ Stone Gazebo ซุ้มศาลาหิน ปัจจุบันใช้ประกอบพิธีแต่งงาน
นอกจากนี้ยังมีสวนสวยๆ รอบๆ ปราสาทให้เดินเล่นเย็นใจ ชมปราสาทเสร็จ ก็ได้เวลาข้ามฝั่งไปชมโรงจอดเรือยอชต์ (Boldt Yacht House) ซึ่งต้องนั่งเรือข้ามฟากไป ใช้เวลาประมาณ 5 นาที ภายในมีเรือยอชต์ เก็บเรือของคุณโบวท์ โดยส่วนตัวผมชอบเรืออยู่แล้ว ที่นี่เก็บเรือโบราณไว้มากมาย ถ่ายรูปเพลินเลยล่ะครับ
การเข้าชมปราสาทโบวท์สามารถซื้อแพ็กเกจทัวร์ได้ทั้งจากฝั่งอเมริกาและแคนาดา หรือจะไปเองก็สามารถซื้อตั๋วเรือเฟอร์รี่ ได้จากทั้งสองฝั่ง ค่าตั๋วไปกลับจากเมืองอเล็กซานเดียเบย์ (Alexandria Bay) ราคา 8 เหรียญสหรัฐ เรือออกทุกๆ ครึ่งชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 10 โมงเช้า ถึง 5 โมงเย็น ใช้เวลาเดินทาง 10 นาที ซื้อตั๋วแล้วจะขึ้นเรือเที่ยวไหนก็ได้ทั้งขาไปและขากลับ แต่ระวังอย่าให้ตกเรือเที่ยวสุดท้ายนะครับ โดยเฉพาะท่านที่ข้ามเรือไปชมโรงเก็บเรือ ตรวจสอบเวลากลับให้ทันเรือเข้าฝั่งเที่ยวสุดท้ายให้ดีนะครับ
ผมจากปราสาทโบวท์มากับเรือเที่ยวสุดท้าย ซึมซับความสวยงามและเรื่องราวความรักของปราสาทแห่งนี้พอสังเขป พรุ่งนี้เกาะอีกพันกว่าเกาะยังรอผมอยู่ ตามผมมานะครับ
หมายเหตุ คำขวัญตามชื่อเรื่องจริงๆ ต้องเป็น เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง ทายซิครับ คำขวัญจังหวัดอะไรเอ่ย
คอลัมน์ : travel in style
ผู้เขียน : ธนะวัฒน์ ลิขิตคีรีรัตน์