บริษัท ดีแพค อินเตอร์ คอร์ปอเรชั่น หรือดีแพค (DPAC) บริษัทลูกของคิงส์แพ็ค อินดัสเตรียล จำกัด ก่อตั้งเมื่อเดือนเมษายน 2550 เป็นบริษัทผู้ผลิตและจัดจำหน่ายบรรจุภัณฑ์ฟิล์มและถุงพลาสติกประเภท HDPE, LDPE, LLDPE และอื่นๆ ภายใต้แบรนด์ “HERO” และ “D”
ดีแพคกำหนดนโยบายไว้ว่า จะเน้นบริการด้านการขายครอบคลุมลูกค้าในทุกพื้นที่ที่บริษัททำตลาด เน้นการจัดส่งตรงตามกำหนด และมีการสำรองสินค้าให้ลูกค้า ในยามฉุกเฉิน บริษัทเชื่อว่าเป็นผลให้บริษัท เติบโตอย่างรวดเร็วจนมียอดขายเกือบ 1,000 ล้านบาทในปี 2554 ที่ผ่านมา และตั้งเป้ายอดขายเพิ่มเป็น 1,200 ล้านบาทในปีนี้
นอกจากนี้บริษัทดีแพคยังมีแนวคิดที่จะเจาะตลาดอาเซียนไปพร้อมกัน เพื่อรองรับ การเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือ AEC โดยมุ่งหวังที่จะเป็นบริษัทที่สร้างผลิตภัณฑ์ที่มีนวัตกรรมที่ตอบสนองทุกไลฟ์สไตล์การใช้งาน
ทวี จุลศักดิ์ศรีสกุล กรรมการผู้จัดการ ดีแพค ระบุว่า บริษัทเริ่มต้นตั้งสำนักงานตัวแทนที่พม่าและกัมพูชาเป็นแห่งแรกๆ และทำตลาดในลาว ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์มาแล้ว 3 ปี และปีนี้จะเน้นบุกตลาดใน 3 ประเทศนี้เพิ่มขึ้น
“3 ปีที่ผ่านมา เราตั้งพันธมิตรท้องถิ่นเป็นตัวแทนจำหน่าย จากระยะแรกยอดขาย 2 ล้านบาทต่อเดือน ตอนนี้เพิ่มเป็น 10 ล้านบาทต่อเดือน แม้แต่ในพม่า โดยสินค้าขายดี 70-80% เป็นถุงหูหิ้วแบรนด์ D ส่วนที่เหลือเป็นถุงอเนกประสงค์อื่นๆ”
ทั้งนี้ ดีแพคมีเป้าหมายใหญ่ที่จะขึ้นเป็นเบอร์หนึ่งของอาเซียน โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้ และปีหน้าเตรียมจะเข้าไปร่วมกับพันธมิตรใหม่ในประเทศลาว ฟิลิปปินส์ และสิงคโปร์ โดยการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่าย รวมถึงศึกษาแนวทางการเข้าไปตั้งสำนักงานในแต่ละประเทศด้วย ในขณะเดียวกันการคิดค้นพัฒนาสินค้าใหม่ๆ ให้ออกมาตอบสนอง ทุกไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคในแต่ละประเทศซึ่งไม่เหมือนกัน
“ส่วนแนวทางทำตลาดในประเทศจะแตกต่างเพราะเราจะเน้นสร้างแบรนด์และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคด้วยนวัตกรรมของสินค้า เช่น ถุงขยะที่ใส่สารแอนตี้แบคทีเรีย สำหรับใส่อาหารที่เน่าบูด หรือถุงพลาสติกผสมมะนาวเพื่อลดกลิ่นเหม็น ถุงพลาสติกที่ใส่ฟิล์มไว้สองชั้นให้มีความเหนียวแน่นสามารถรับน้ำหนักได้มากขึ้น เป็นต้น”
ที่สำคัญทวีเชื่อว่าแนวโน้มการใช้บรรจุภัณฑ์ประเภทต่างๆ ในภูมิภาคนี้ที่มีอัตรา การเติบโตอย่างต่อเนื่อง และดีแพคมีข้อได้เปรียบในฐานะที่มีโรงงานผลิตในไทยที่สะดวก ต่อการกระจายสินค้าเพราะมีที่ตั้งอยู่ตรงกลางของภูมิภาค ทำให้ได้เปรียบคู่แข่งจากมาเลเซียและเวียดนามในด้านการกระจายสินค้า