ไชน่าเวิลด์ คาดสิ้นปีมูลค่าการซื้อขายผ้าทะลุ 700 ล้านบาท

 

 

 

เลิศวิทย์ ภูมิพิทักษ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่อาวุโส ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ บริษัทกลุ่มเซ็นทรัล เปิดเผยว่า ศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์ ถือเป็นหนึ่งในกลุ่มธุรกิจของกลุ่มเซ็นทรัล ก่อตั้งเมื่อปี 2552 เดิมพื้นที่ส่วนนี้เป็นที่ตั้งของห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล วังบูรพา แต่เนื่องจากกลุ่มเซ็นทรัลมองเห็นโอกาสของตลาดผ้าม้วน ซึ่งบริเวณชุมชนพาหุรัดเป็นย่านที่โดดเด่นของผ้าม้วนลวดลายต่างๆ คนส่วนใหญ่หากพูดถึงผ้าม้วนจะต้องนึกถึงพาหุรัดเป็นอันดับต้นๆ ทำให้ปรับแผนการตลาดจากเซ็นทรัล วังบูรพา มาเป็นศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์ 

 

จุดเด่นของไชน่าเวิลด์ ถือเป็นแหล่งรวมผ้าม้วนทุกลวดลายที่ใหญ่ที่สุดในพาหุรัด รวบรวมร้านค้าผ้าม้วนเกือบ 200 ร้านค้า แบ่งเป็นประเภทค้าส่ง 80% และค้าปลีก 20% ประกอบด้วย 3 โซน ได้แก่ ผ้าระดับไฮเอนด์ (Hi-End) เช่น The Cynosure Bangkok (เดอะไซนอชัวร์ บางกอก), Jolie (โจลี่), Cosmo (คอสโม่) โซนผ้าม้วน เช่น DM Fabric (ดีเอ็มฟาบริก), Denims (เดอนิมส์), My Friend (มายด์เฟรนด์) และ Wedding Gallery (เวดดิ้งโซน) ซึ่งเป็นโซนเปิดใหม่ล่าสุด รวบรวมร้านชุดแต่งงานหลากหลายเชื้อชาติ มีทั้งสำเร็จรูปและสั่งตัด ในราคาย่อมเยาและสวยงามถูกใจลูกค้า เช่น 88 Image (แปดสิบแปดอิมเมจ), Sida Indian Pre Wedding (สีดา อินเดียน พรีเวดดิ้ง), London Bride (ลอนดอนไบรด์) เป็นต้น

 

ทั้งนี้ไชน่าเวิลด์ มีลูกค้าเข้าศูนย์ฯ ประมาณ 15,000 คน ต่อวัน ส่วนใหญ่เป็นลูกค้า SME 80% และลูกค้าทั่วไป 20% คาดว่าสิ้นปีมูลค่าการซื้อขายผ้าภายในศูนย์การค้ามากกว่า 700 ล้านบาท เนื่องจากเครื่องแต่งกายถือเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่ผู้บริโภคยังคงให้ความสำคัญ รวมถึงในช่วงนี้เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนพร้อมใจกันใส่ชุดสีดำ ทำให้มีลูกค้ามาจับจ่ายผ้าม้วนภายในห้างไชน่าเวิลด์เพิ่มมากขึ้น 

 

สำหรับทิศทางการตลาดของศูนย์การค้าไชน่าเวิลด์ในปี 2560 คาดจะมีมูลค้าการค้าขายของร้านค้าเพิ่มขึ้นเป็น 750 ล้านบาทเป็นอย่างน้อย และในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าจะเพิ่มร้านค้าจากเดิม 200 เป็น 250 ร้าน ร่วมกับการส่งเสริมการขายที่เราทำอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าที่กำลังมองหาผ้าลวดลายต่างๆ ที่เพียงมาที่นี่ก็จะได้ผ้าทุกชนิดทุกประเภทตามต้องการ