“เสริมสุขจะครบ 60 ปี เมษายนปีหน้า เราสั่งสมประสบการณ์ สร้างแบรนด์เครื่องดื่มมามากมาย วันนี้เป็นอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงของการมีแบรนด์น้ำอัดลมของเราเอง คือ เอส (est) เราตั้งเป้าสร้างแบรนด์เอสให้ติดตลาดในเมืองไทยและเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลแบรนด์ เปิดตลาดในต่างประเทศ วันนี้เป็นจุดเปลี่ยนจากการสร้างแบรนด์ของผู้อื่นมาสู่การปั้นแบรนด์ของตัวเอง ให้เป็นเจ้าตลาด เป็นครั้งแรกใน 60 ปี”
ถ้อยแถลงของสมชาย บุลสุข ในวันเปิดตัว “เอส” ไม่ใช่แค่ความตื่นเต้นในเชิงธุรกิจ แต่ทุกช่วงจังหวะเต็มไปด้วยอารมณ์ลึกซึ้งกัดกินใจผู้ชายวัยเกือบ 70 ปี ที่อยู่ในวงการเครื่องดื่มน้ำดำมาตลอดชีวิต ผ่านวิกฤตหลายรอบ ยอมทิ้งหุ้นธุรกิจที่สร้างมากับมือและถอยมาอยู่เบื้องหลังลูกชายที่ก้าวขึ้นมาบริหารงานอย่างเต็มตัว
เพราะนี่คือ ภารกิจใหม่ ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของ “เสริมสุข” ยุคที่ 3
“ยุคนี้ คุณหนึ่ง (ฐิติวุฒิ์ บุลสุข) เป็นผู้บริหารและมีทีมผู้บริหาร อะไรที่ผ่านไปแล้วก็ผ่านไป แต่วันนี้ เหนื่อยแต่ปลื้ม เรามีเวลาน้อยกว่า 8 เดือนที่เด็กคนนี้จะโตขึ้นมา เรายังไม่เคยทำนะ ผมก็ 46 ปีกับบริษัท ผมยังไม่เคยต้องมานั่งสร้างแบรนด์ ผสมโน่นผสมนี่ ตัวผมเองอยู่ข้างหลังอดปลื้มไม่ได้ เราได้ทำอะไรบางอย่างที่เราไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต แต่ทุกคนทำเพื่อบริษัทเรา”
สมชายพูดพร้อมทอดสายตาไปยังลูกชายที่นั่งอยู่ท่ามกลางนักข่าวหลายสิบคน ทุกคนพยายามตั้งคำถามเปรียบเทียบความรู้สึกในวันแรกของการปลุกแบรนด์เป๊ปซี่กับภารกิจใหม่ ซึ่งไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะตอบในทันที
ปี 2496 เป๊ปซี่ โค อิงค์ สหรัฐอเมริกา ทำสัญญามอบสิทธิการผลิตและจัดจำหน่ายเป๊ปซี่ในประเทศไทยให้เสริมสุข โดยเสริมสุขก่อตั้งโรงงานแห่งแรกบนเนื้อที่ 4 ไร่ ริมถนนสีลม และเริ่มจัดจำหน่ายเป๊ปซี่ขวดแรก ภายใต้สโลแกน “ดีมาก มากดี”( Quality Quantity)
ช่วง 25 ปีแรก ทรง บุลสุข สร้างประวัติศาสตร์ให้เป๊ปซี่ขึ้นเป็นผู้นำตลาดในไทย ซึ่งมีไม่กี่ประเทศที่เป๊ปซี่ชนะโค้กได้ โดยวางรากฐานด้านโรงงานและเครือข่ายการขายที่ครอบคลุมมากที่สุด
ปี 2509 สมชายถูกเรียกตัวเข้ามาช่วยงานพ่อ หลังเรียนจบปริญญาตรีด้านธนาคารจาก MENLO SCHOOL OF BUSINESS ADMINSTRATION มีเวลาหาประสบการณ์งานแบงก์แค่ 3 ปีกว่าๆ
ตั้งแต่นั้นมา เขาก็คลุกอยู่ในวงการน้ำดำ ฝึกงาน โยนลังเป๊ปซี่ขึ้นรถ เรียนรู้กลยุทธ์ธุรกิจ เกมการตลาด ทั้งยุครุ่งโรจน์และยากลำบากที่สุด
59 ปีของเสริมสุข และ 46 ปีของสมชายบนสัญญาที่หวานอมขมกลืน เป๊ปซี่และเสริมสุขเปลี่ยนจาก “พันธมิตร” เป็น “คู่แข่ง” เมื่อวันที่ 1 พ.ย.2555
สมชายเลิกมองเรื่องข้างหลังและเดินหน้าด้วยแบรนด์สินค้าของตัวเอง เริ่มจากน้ำดื่ม “คริสตัล” และน้ำอัดลม “เอส” ซึ่งถือเป็นเบบี๋คนล่าสุด แม้ยังต้องประคองให้ลุกยืน แต่รับรองว่าเด็กคนนี้จะวิ่งเร็วมาก และแซงทิ้งคู่แข่งที่เคยปั้นมากับมือได้ในที่สุด