วันจันทร์, ธันวาคม 23, 2024
Home > New&Trend > เจาะลึกกลยุทธ์การปฏิวัติดิจิทัลของยูนิลีเวอร์ พร้อมปลดล็อกอนาคตด้วย AI และ Data

เจาะลึกกลยุทธ์การปฏิวัติดิจิทัลของยูนิลีเวอร์ พร้อมปลดล็อกอนาคตด้วย AI และ Data

ในปัจจุบัน มีเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมายเพื่อช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้คน โดยได้กลายมาเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันและเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของผู้บริโภคโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจ Fast-moving Consumer Goods (FMCG) หรือสินค้าอุปโภคบริโภค สำหรับ “ยูนิลีเวอร์” ในฐานะที่อยู่ในอุตสาหกรรมนี้มานานกว่า 100 ปี ย่อมเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญของพฤติกรรมผู้บริโภค กล่าวคือผู้บริโภคมีศักยภาพมากขึ้นกว่าที่เคย ทั้งในแง่ของพฤติกรรมการรับสื่อที่เปลี่ยนไป การมีส่วนร่วมหรือปฏิสัมพันธ์กับแบรนด์ รวมถึงมีความคาดหวังต่อแบรนด์สูงขึ้น

ซึ่งแน่นอนว่ายูนิลีเวอร์เองก็ไม่อยู่เฉย เดินหน้าปฏิวัติองค์กรด้วยดิจิทัล (Digital Transformation) เช่นกัน “ผู้จัดการ 360 องศา” จะพาไปเจาะลึกกลยุทธ์การปฏิวัติดิจิทัลของยูนิลีเวอร์ พร้อมปลดล็อกอนาคตด้วย AI และ Data กับผู้มีบทบาทสำคัญอย่าง “อันชุล อะชาวา” ประธานบริหารกลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์ครัวเรือนภาคพื้นอาเซียน และประธานกรรมการบริหารกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย และ “นิดารัตน์ อุไรเลิศประเสริฐ” ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารการตลาดธุรกิจผลิตภัณฑ์ในครัวเรือนกลุ่มบริษัท ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย และภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

โดย “อันชุล อะชาวา” ได้เปิดเผยว่า ที่ผ่านมายูนิลีเวอร์เดินหน้าปฏิวัติองค์กรด้วยดิจิทัล (Digital Transformation ผ่านการนำนวัตกรรมต่างๆ ทั้งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence หรือ AI) และ Machine Learning ผสานรวมกับการใช้ข้อมูล (Data) และความสนใจเชิงลึก (Insight) เพื่อสร้างการเติบโตและเสริมความแกร่งให้องค์กรอย่างรอบด้าน ทั้งการสร้างสรรค์กลยุทธ์การตลาด การดำเนินงานทั่วไป รวมถึงทำความเข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคอย่างละเอียด และนำไปออกแบบพัฒนาผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์ด้านดิจิทัลเพื่อนำเสนอผลิตภัณฑ์ที่ตรงกับความต้องการกลุ่มเป้าหมายและวางจำหน่ายในช่องทางที่เหมาะสม ยูนิลีเวอร์จึงไม่เพียงสร้างมาตรฐานใหม่ให้กับแวดวง FMCG แต่ยังตอกย้ำความเป็นผู้นำในด้านดิจิทัลของยูนิลีเวอร์ที่มุ่งมั่นในการมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้บริโภคพร้อมขับเคลื่อนการเติบโตของทั้งอุตสาหกรรม รวมถึงสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมได้อย่างยั่งยืน

อีกทั้งยังมีการปรับตัวเพื่อเปลี่ยนแปลงองค์กรด้วยการนำข้อมูล เทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ในองค์กรอย่างรอบด้านมากขึ้นเปรียบเสมือนเข็มทิศในการดำเนินธุรกิจของยูนิลีเวอร์ซึ่งออกแบบกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อผู้บริโภคในยุคดิจิทัลยังทำให้ยูนิลีเวอร์รักษาความเป็นผู้นำในการสร้างประสบการณ์แบรนด์ที่ทรงพลังและคว้ารางวัล Thailand Digital Excellence Awards 2024 สาขา Data and AI Go-to-Market Innovation จากสมาคมการจัดการธุรกิจแห่งประเทศไทย และเป็น FMCG เดียวที่ได้รับรางวัลต่อเนื่องถึง 3 ปีซ้อน (พ.ศ. 2565 – 2567)

ในขณะที่คุณนิดารัตน์เสริมถึงการนำ AI และ Data ในประเด็นต่างๆ ดังนี้

กลยุทธ์การผสานพลังของข้อมูลและ AI

หัวใจสำคัญของการดำเนินงานของยูนิลีเวอร์คือ ‘ผู้บริโภค’ การทำความเข้าใจความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปเสมอจึงถือเป็นเรื่องสำคัญ ยูนิลีเวอร์ใช้ AI และ Machine Learning พร้อมใช้ระบบการจัดการข้อมูลที่ปลอดภัยและมีประสิทธิภาพเพื่อรวบรวมข้อมูลทั้งความสนใจ ความชอบ ความต้องการ พฤติกรรมการซื้อ และการมีส่วนร่วมกับแบรนด์จากแหล่งต่างๆ มาไว้ในฐานข้อมูลส่วนกลางที่ควบคุมการเข้าถึงอย่างเข้มงวด ก่อนจะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อให้เข้าใจความต้องการของผู้บริโภคได้ลึกซึ้งมากขึ้น โดยข้อมูลที่ผ่านการวิเคราะห์แล้วจะถูกนำมาแบ่งกลุ่มตามบุคลิกของผู้บริโภค และใช้ AI ในการคาดการณ์และขยายกลุ่มผู้บริโภคให้กว้างขึ้น นอกจากนั้น ข้อมูลเหล่านี้ยังช่วยให้ยูนิลีเวอร์ออกแบบเนื้อหาสำหรับลูกค้าแต่ละกลุ่มได้อย่างเหมาะสมเพื่อการสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ

ยกระดับประสบการณ์ของผู้บริโภคอย่างรอบด้านผ่าน Digital Touchpoints

จากการศึกษาข้อมูลเชิงลึกของพฤติกรรมผู้บริโภคในยุคดิจิทัลพบว่า ผู้บริโภคไม่ได้ซื้อสินค้าจากจุดขายเพียงจุดเดียวอีกต่อไป ยูนิลีเวอร์จึงยกระดับทุกช่องทางการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค (Touchpoints) ให้มีประสิทธิภาพโดยใช้เครื่องมือ AI เพื่อสร้างความเหนือกว่าของแบรนด์ในการมอบประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้บริโภค รวมถึงตอบสนองและสื่อสารกับผู้บริโภคอย่างราบรื่นตลอดเส้นทางตั้งแต่ก่อนตัดสินใจซื้อจนซื้อสินค้า (Consumer Journey) อย่างครอบคลุมทุกจุด

การหลอมรวมของข้อมูลและประโยชน์ของเทคโนโลยีขั้นสูง

ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ใช้ระบบการบริหารจัดการข้อมูลที่ปลอดภัย จำกัดการเข้าถึงเฉพาะบุคคลที่เกี่ยวข้อง โดยรวบรวมข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาไว้ด้วยกัน และใช้พลังของเทคโนโลยีขั้นสูงมาวิเคราะห์ด้วยโมเดล AI และ Machine Learning ที่พัฒนาขึ้นเอง ซึ่งช่วยให้ข้อมูลเหล่านี้ได้รับการเพิ่มประสิทธิภาพ ปรับแต่ง เพื่อทำความเข้าใจความต้องการ ความชอบ ความคาดหวัง พฤติกรรมการซื้อ และการมีส่วนร่วมกับแบรนด์ของผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น นอกจากนี้เรายังใช้ AI สำหรับคาดการณ์เพื่อขยายและระบุผู้ซื้อที่มีศักยภาพเพิ่มเติมมากขึ้น

LeverU กุญแจสำคัญสู่ความสำเร็จของกลยุทธ์ Social-First ของยูนิลีเวอร์

มีการยูนิลีเวอร์พัฒนา LeverU แพลตฟอร์มที่ใช้โซลูชัน AI สามประเภทในการขับเคลื่อนกลยุทธ์ Social First ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อขยายขอบเขตความเป็นไปได้โดยใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อปลดล็อกศักยภาพการดำเนินงานรวมถึงกลยุทธ์ต่างๆ ประกอบด้วย

Predictive AI: เครื่องมือที่ช่วยคาดการณ์แนวคิด หัวข้อ และ KOLs ที่จะดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย โดยวิเคราะห์จากข้อมูลความสนใจและพฤติกรรมของผู้บริโภค เพื่อนำมาสร้างสรรค์เนื้อหาที่น่าสนใจและสอดคล้องกับสิ่งที่ผู้บริโภคสนใจในปัจจุบัน

Generative AI: เครื่องมือที่ช่วยสร้างสรรค์เนื้อหาของแบรนด์โดยใช้ Insight เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่ตรงกับความสนใจ มีความสร้างสรรค์ และสอดคล้องกับความต้องการเฉพาะของแต่ละบุคคล

Reinforcement Learning AI: โซลูชันที่ช่วยปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพแคมเปญแบบ 360 องศา โดยเรียนรู้จากข้อมูลการใช้งานและผลลัพธ์ของแคมเปญที่ผ่านมา และนำมาปรับใช้ในแคมเปญปัจจุบันอย่างทันท่วงที เพื่อเพิ่มอัตราการมีส่วนร่วม (Engagement) และการซื้อสินค้า (Conversion) ให้สูงขึ้น

Unilever Excellence Lab: พัฒนาอย่างต่อเนื่องเพื่อความเป็นเลิศที่เหนือกว่า

นับตั้งแต่เปิดตัว Digital Hub ในปี 2561 ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย ได้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพในการขับเคลื่อนกลยุทธ์การตลาดด้วยด้วยนวัตกรรมและข้อมูล และความสำเร็จของโครงการในประเทศไทยยังเป็นแบบอย่างสำหรับการขยายกลยุทธ์นี้ไปทั่วโลกอีกด้วย ซึ่งความเป็นเลิศในด้านดิจิทัลนี้ ทำให้ยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย เป็น “ศูนย์ความเป็นเลิศด้านการทดลองและเรียนรู้” (Test & Learn) ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยได้จัดตั้งขึ้นมาเพื่อทดสอบและพัฒนาโครงการต่างๆ และหากประสบความสำเร็จจึงจะขยายโครงการไปยังประเทศอื่นๆ ในภูมิภาค จึงช่วยให้ยูนิลีเวอร์สามารถ “เรียนรู้จากความผิดพลาดได้อย่างรวดเร็ว” (Fail fast and learn fast) รวมถึงมีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนและตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดในการขยาย ปรับปรุง หรือยุติโครงการ โดยคำนึงถึงต้นทุนและประสิทธิภาพสูงสุดเป็นหลักสำคัญ ซึ่งกลยุทธ์นี้ยังถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญในสภาพแวดล้อมทางการตลาดที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว

สร้างองค์กรแห่งอนาคตผ่านการพัฒนาบุคลากร วัฒนธรรมองค์กร และการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน อย่างรอบด้าน

นอกจากจะนำเทคโนโลยีและระบบต่างๆ มาใช้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานแล้ว บุคลากรเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญในการสร้างองค์กรแห่งอนาคตของยูนิลีเวอร์ ประเทศไทย โดยได้ส่งเสริมวัฒนธรรมดิจิทัล และแนวคิดแบบ ‘Digital First’ ที่ให้ความสำคัญกับการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเป็นอันดับแรกให้กับบุคลากร สนับสนุนและเสริมสร้างศักยภาพผ่านโปรแกรม ‘Shape Your Own Adventure’ มอบโอกาสเติบโตตามทักษะเฉพาะบุคคล อีกทั้งยังสร้างวัฒนธรรมการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ใส่ใจในความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน สร้างความรู้สึกปลอดภัยทางใจในที่ทำงาน (Psychological Safety) เพื่อส่งเสริมให้พนักงานสามารถแสดงความคิดเห็นและความสามารถได้อย่างเต็มที่

ยิ่งไปกว่านั้น ยูนิลีเวอร์ยังนำเทคโนโลยีต่างๆ มาสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่มีประสิทธิภาพโดยการพัฒนาระบบในโรงงานอัจฉริยะ ทั้ง Intelligent Tower, Hyper-connected Performance Management, โรงงานที่ใช้เครื่องจักรในการผลิตแบบอัตโนมัติ (Light out factory), พลังงานแสงอาทิตย์จากหลังคา และการคาดการณ์คุณภาพ (predictive quality) เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม