คีนัน ผนึกกำลังพันธมิตรเตรียมติดอาวุธให้เยาวชนไทย เสริมทักษะด้าน AI และ Green Skills สู่ตลาด เพื่อสร้างกำลังคนแห่งอนาคตที่ยั่งยืน
มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย (คีนัน) พร้อมพันธมิตรหลากหลายภาคส่วน ทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดสัมมนา “การบูรณาการทักษะ AI และทักษะสีเขียว สู่การเป็นแรงงานที่ยั่งยืน” ซึ่งเป็นทักษะที่จำเป็นในอนาคตของเยาวชนไทย เพื่อร่วมกันหาแนวทางในการสร้างกำลังคน เพื่อรองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนของธุรกิจและอุตสาหกรรมสมัยใหม่ในอนาคตของประเทศไทย
จากที่รัฐบาลไทยได้ประกาศวิสัยทัศน์ Thailand Vision 2030 “Ignite Thailand: จุดพลัง รวมใจ ไทยเป็นหนึ่ง” เพื่อยกระดับประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมระดับโลก พร้อมขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยสู่อนาคตที่ยั่งยืน โดยตั้งเป้าประเทศไทยจะก้าวไปเป็นที่ 1 ของภูมิภาค ด้วยข้อได้เปรียบทั้งด้านทรัพยากรธรรมชาติ สถานที่ท่องเที่ยว ภูมิอากาศ โครงสร้างที่พร้อมต่อยอด และที่สำคัญ คือ ศักยภาพของคนไทย ซึ่งธุรกิจและอุตสาหกรรมในประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่การบูรณาการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในขณะเดียวกันการทำธุรกิจที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหรือธุรกิจสีเขียว (Green Business) เป็นอีกหนึ่งเทรนด์ที่อุตสาหกรรมทั่วโลกกำลังปรับรูปแบบธุรกิจ เข้าสู่อุตสาหกรรมที่ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า และส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้น้อยที่สุด การมีแรงงานที่มีความพร้อมจึงเป็นสิ่งสำคัญ ในการดึงดูดการลงทุนและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน
ดังนั้น กำลังคนที่มีทักษะด้านสิ่งแวดล้อมและความเชี่ยวชาญใน AI จะมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนนวัตกรรมและสร้างอนาคตที่ยั่งยืน พร้อมทั้งได้รับโอกาสการจ้างงานที่มีคุณค่า สามารถเชื่อมโยงจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมเข้ากับความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทางมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย (คีนัน) เล็งเห็นถึงความสำคัญในการหาแนวทางในการพัฒนาทักษะงานให้แก่เยาวชน การแก้ไขช่องว่างด้านทักษะเป็นสิ่งสำคัญ ทักษะเหล่านี้ไม่เพียงช่วยเพิ่มโอกาสการจ้างงาน แต่ยังสนับสนุนการประกอบธุรกิจและการมีส่วนร่วมในชุมชน และทำให้เยาวชนสามารถเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ตลาดแรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ทางคีนัน จึงได้ร่วมกับพันธมิตรทั้งองค์กรภาครัฐ ภาคเอกชน สถาบันการศึกษา และนักวิชาการจากทั้งในและต่างประเทศ จัดสัมมนาในหัวข้อ “การบูรณาการทักษะ AI และทักษะสีเขียว สู่การเป็นแรงงานที่ยั่งยืน (Building AI and Green Skills for a Sustainable Workforce Conference” ซึ่งภายในงานได้รับเกียรติจากนายโรเบิร์ต เอฟ. โกเดค (Robert F. Godec) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ให้เกียรติกล่าวเปิดงานในหัวข้อ “โอกาสและช่องทางในการเร่งพัฒนากำลังคนผ่านความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน” และ ศ.ดร.นพ.สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ประธานกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กสว.) ให้เกียรติปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “ความจำเป็นในการสร้างความร่วมมือของภาครัฐและเอกชนเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งทางเศรษฐกิจในอนาคต” นอกจากนี้ ยังมีหัวข้อสำคัญของการสัมมนา อาทิ ภาพรวมของความต้องการและช่องว่างสำหรับกำลังคนยุคใหม่ในประเทศไทย, การนำเสนอแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในการพัฒนากำลังคนจากทั้งในประเทศและระดับสากล และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ และภาคประชาสังคม เป็นต้น
คุณหญิงชฎา วัฒนศิริธรรม ประธานมูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย กล่าวว่า “การสัมมนาครั้งนี้เป็นเวทีสำคัญที่มุ่งหาแนวทางความร่วมมือและสร้างการบูรณาการระหว่างผู้มีส่วนได้ส่วนเสียจากหลากหลายภาคส่วน เพื่อสร้างนวัตกรรมและอนาคตที่ยั่งยืน โดยนำเสนอทั้งมุมมองจากระดับสากลและในประเทศ มีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกและสร้างความสำเร็จในอนาคตให้กับเยาวชนไทย ด้วยการเน้นส่งเสริมการพัฒนาทักษะสีเขียว ดิจิทัล และ STEM โดยมุ่งหวังที่จะเป็นตัวเร่งสำคัญในการแก้ไขช่องว่างและตอบสนองความต้องการของเยาวชนอย่างเหมาะสม เพื่อรับมือกับความต้องการทักษะในการทำงานที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในอนาคต คีนันได้ขยายการฝึกอบรมให้ครอบคลุมทักษะด้าน AI และ Green Skills เพื่อเตรียมบุคลากรให้พร้อมรับความต้องการของอุตสาหกรรมและสังคมสมัยใหม่”
มร.ริชาร์ด เบิร์นฮาร์ด กรรมการอำนวยการ มูลนิธิคีนันแห่งเอเซีย กล่าวว่า “ตลอด 28 ปีที่ผ่านมาคีนันมีโครงการเสริมสร้างศักยภาพให้แก่ครูมากกว่า 19,000 คน และนักเรียน 3 ล้านคน ความสำเร็จของโปรแกรมฝึก อบรมของคีนัน เกิดจากการผสานความเชี่ยวชาญในท้องถิ่นเข้ากับหลักสูตรและผู้เชี่ยวชาญระดับนานาชาติ เพื่อได้โปรแกรมที่ตอบสนองต่อความต้องการในระดับท้องถิ่นและระดับชาติได้ งานประชุมครั้งนี้เกิดขึ้นได้ จากการทำงานร่วมกันระหว่างภาครัฐ ภาคธุรกิจ สถาบันการศึกษา และภาคประชาสังคม ทั้งผู้บรรยาย ผู้นำในอุตสาหกรรมต่าง ๆ และผู้เชี่ยวชาญทุกท่านที่ได้สละเวลาแบ่งปันความรู้ และแนวคิดที่สร้างสรรค์เพื่อเตรียมความพร้อมให้กับเยาวชนไทย รวมถึงผู้สนับสนุน ได้แก่ มูลนิธิแคทเธอร์พิลลาร์ (Caterpillar Foundation), JPMorganChase, โบอิ้ง, ธนาคารกรุงไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารออมสิน และ บมจ. บี.กริม เพาเวอร์ คีนัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการสัมมนาครั้งนี้ จะช่วยสร้างแนวทางการพัฒนาทักษะงาน เพื่อให้สามารถรับมือกับความท้าทายอันหลากหลายที่เกี่ยวข้องกับการจ้างงานเยาวชน และการพัฒนาเศรษฐกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งนำไปสู่การเติบโตทางเศรษฐกิจที่ครอบคลุมทุกกลุ่มคนในสังคมอย่างเท่าเทียม ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และคุณภาพชีวิต”