วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
Home > PR News > ป๊อกกี้ เฉลิมฉลองเทศกาล Pocky Day 11.11 อัพจังหวะความสุข ส่ง 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่

ป๊อกกี้ เฉลิมฉลองเทศกาล Pocky Day 11.11 อัพจังหวะความสุข ส่ง 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่

ป๊อกกี้ เฉลิมฉลองเทศกาล Pocky Day 11.11 อัพจังหวะความสุข สนุกขึ้นกับ ‘ป๊อกกี้’ ส่ง 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘ป๊อกกี้ รสนม’ และ ‘ป๊อกกี้ รสทุเรียน’ เปิดประสบการณ์ให้แก่ผู้บริโภค

ป๊อกกี้ จัดงาน Pocky Day 11.11 ชวนแฟนคลับในไทยมาร่วม อัพจังหวะความสุข สนุกขึ้นกับ ‘ป๊อกกี้’ นำเสนอไฮไลต์สุดพิเศษด้วย 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่ ‘ป๊อกกี้ รสนม’ และ ‘ป๊อกกี้ รสทุเรียน’ หลังเดินหน้ากระตุ้นตลาดอย่างเต็มที่ตลอดปีผ่านกิจกรรม On-Ground และกิจกรรม Online คาดยังคงเติบโตตลอดปี 2567 ปัจจัยหลักจากการนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่สู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง สร้างประสบการณ์ใหม่ผ่านกลยุทธ์ Experience Marketing

“ปัจจุบันผู้บริโภคมีทางเลือกหลากหลาย จึงทำให้เกิดความสนใจในผลิตภัณฑ์ที่อินเทรนด์แปลกใหม่อยู่เสมอ ดังนั้น การพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์เรื่องคุณค่า คุณภาพ และรสชาติที่ถูกปาก รวมถึงตอบโจทย์เทรนด์เรื่องการใส่ใจสุขภาพ การเติมเต็มด้านอารมณ์ และการมอบโมเมนต์ความสุขให้เกิดขึ้นระหว่างผลิตภัณฑ์และผู้บริโภค เพื่อสร้างให้เกิดประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจำ จะยิ่งทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น สำหรับกูลิโกะ เราจึงมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถเติมเต็มความต้องการในด้านต่าง ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง โดยมีทั้งรสชาติที่ยอดเยี่ยมและดีต่อสุขภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้สามารถครองใจผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้” นายเฉลิมพงษ์ ดรงค์สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยกูลิโกะ จำกัด ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ ป๊อกกี้, เพรทซ์ และพีจอย กล่าวถึงพฤติกรรมผู้บริโภคยุคปัจจุบัน

โดยล่าสุด ป๊อกกี้ได้จัดงาน Pocky Day 11.11 อัพจังหวะความสุข สนุกขึ้นกับ ‘ป๊อกกี้’ ให้แฟน ๆ ได้มาร่วมเฉลิมฉลองและส่งต่อความสุขกันแบบจุใจภายใต้แนวคิด Pocky Share happiness! ให้ได้ร่วมสนุกกับกิจกรรมมากมายภายในงาน ระหว่างวันที่ 11 – 12 พฤศจิกายน 2567 ณ พาร์ค สีลม ได้สัมผัสความประทับใจกับจุดแลนด์มาร์คถ่ายรูปสุดชิค พร้อมด้วย Pocky Café ที่เพิ่มเมนูพิเศษอีกหลากหลายเฉพาะงานนี้เท่านั้น และโปรโมชันสุดพิเศษ ไฮไลต์สำคัญของงานคือปรากฎตัวของ Glico Friend นุนิว – ชวรินทร์ เพริศพิริยะวงศ์ และ ซี – พฤกษ์ พานิช ที่มาร่วมอัพความสุขพูดคุยถึงการมาร่วมงานกับ ป๊อกกี้ รวมถึงรสชาติของป๊อกกี้ที่ชื่นชอบ พร้อมโชว์ร้องเพลงเพราะ ๆ เรียกความตื่นเต้นจากแฟนๆ และการแสดงจากสมาชิกวง BUS ที่มาร่วมแบ่งปันความสนุกบนเวทีให้ทุกคนกลับบ้านไปพร้อมความฟินเต็มที่

นอกจากนี้ อีกหนึ่งไฮไลต์สุดพิเศษภายในงานคือการนำเสนอ 2 ผลิตภัณฑ์ใหม่! ที่เพิ่งวางตลาดในเดือนกันยายน 2567 ประกอบด้วย ป๊อกกี้ รสนม ที่ไม่ได้มาแค่ความอร่อย แต่ยังมีประโยชน์จากส่วนผสมของนมฮอกไกโด ซึ่งเป็นแหล่งของแคลเซียม และ ป๊อกกี้ รสทุเรียน หอม…อร่อยกลมกล่อม รสทุเรียนเต็มคำ เพราะมีส่วนผสมทุเรียนแท้ ๆ ซึ่งการออกรสชาติใหม่เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคจะดำเนินการคู่ไปกับการรักษามาตรฐานเรื่องคุณภาพของสินค้าและรสชาติที่อร่อยเป็นเอกลักษณ์แบบฉบับป๊อกกี้ อีกทั้งการสร้างสรรค์แผนการตลาดและกิจกรรมส่งเสริมการขายที่เข้าถึงทุกกลุ่มอายุ และมีกิจกรรมส่งเสริมการตลาดรูปแบบใหม่ที่เจาะกลุ่มเป้าหมายหลัก ได้แก่ กลุ่มนักเรียน นักศึกษา Gen Z โดยเฉพาะ ให้ได้รับประสบการณ์ที่แปลกใหม่ ได้รับความประทับใจจากกลยุทธ์การตลาดเชิงประสบการณ์ หรือ Experience Marketing จาก ป๊อกกี้

หากถอดรหัสความสำเร็จของ ป๊อกกี้ (Pocky) จะพบว่า ป๊อกกี้ มีภาพลักษณ์เป็นขนมสำหรับคนรุ่นใหม่ เป็นแบรนด์ที่เข้าถึงได้ง่าย มอบความสุข มอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่ให้กับผู้บริโภคอยู่เสมอ การมีผลิตภัณฑ์ที่หลากหลาย ทั้งรสชาติ และขนาดบรรจุภัณฑ์ที่ครอบคลุมทุกความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย ไม่ว่าจะเป็น กลุ่มป๊อกกี้ 5 รสชาติหลัก ลงตัวกับความอร่อยทุกวัน ประกอบด้วย ป๊อกกี้ รสช็อกโกแลต, ป๊อกกี้ รสสตรอเบอร์รี, ป๊อกกี้ รสคุกกี้และครีม, ป๊อกกี้ รสมิลค์กี้มัทฉะ และ ป๊อกกี้ รสนัทตี้อัลมอนด์ กลุ่มป๊อกกี้ ครัช ที่ส่งมอบความพรีเมียมด้วยนวัตกรรมอร่อยแบบคูณสองกับครีมเคลือบหนาและส่วนผสมที่ชิ้นใหญ่ เพิ่มหลากหลายรสชาติแก่ทุกสัมผัสในการทานมากขึ้น ประกอบด้วย ป๊อกกี้ ครัชนัท รสอัลมอนด์มิลค์ช็อกโกแลต, ป๊อกกี้ ครัชนัท รสอัลมอนด์นัวร์ช็อกโกแลต, ป๊อกกี้ ครัชฟรุต รสบลูเบอร์รีโยเกิร์ต และป๊อกกี้ ครัชฟรุต รสสตรอเบอร์รีพีชโยเกิร์ต และ กลุ่มป๊อกกี้ รสชาติเฉพาะประเทศไทยเท่านั้น ได้แก่ ป๊อกกี้ รสช็อกโก บานาน่า, ป๊อกกี้ รสมะม่วง

นายเฉลิมพงษ์ กล่าวว่า ภาพรวมกลุ่มธุรกิจบิสกิตไทยในปีนี้ มีอัตราการเติบโตประมาณ 10% และมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 12,228 ล้านบาท (*ที่มา Nielsen YTD Sep’2024) จากปัจจัยบวกด้านอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้านภาพรวมการแข่งขันในปีนี้ยังคงมีการแข่งขันสูง เห็นได้ว่าทั้งผู้ผลิตรายเดิมและรายใหม่ทั้งจากในประเทศและต่างประเทศต่างพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือรสชาติใหม่เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคออกมาสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งมีกิจกรรมส่งเสริมการขาย และโปรโมชันในหลากหลายรูปแบบ เพื่อสร้างความตื่นเต้นและกระตุ้นการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภคต่อเนื่องตลอดปี หากมองในภาพรวมพบว่าผู้บริโภคยังเลือกใช้จ่ายในสิ่งที่มีความสำคัญหรือตรงกับความต้องการมากที่สุดเป็นหลัก แต่หากมองในกลุ่มตลาดบิสกิตที่มีการเติบโตถึง 10% ชี้ให้เห็นว่าผู้บริโภคยังซื้อผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้อย่างต่อเนื่อง แสดงให้เห็นว่าผลิตภัณฑ์ในตลาดบิสกิต ยังมีกลยุทธ์ที่เข้าถึงผู้บริโภคได้เหมาะสมตรงความต้องการ

ด้านกลยุทธ์ทางการขายนั้น นางสาวสาริน ประทีปทอง ผู้จัดการกลุ่มผลิตภัณฑ์ป๊อกกี้ กล่าวว่าบริษัทฯ มีการปรับกิจกรรมส่งเสริมการขายให้เหมาะสมกับผู้บริโภคในทุกช่องทาง อีกทั้งยังไม่หยุดมองหาช่องทางการขายใหม่ ๆ ที่ทำให้ช่วยขยายฐานลูกค้า เพิ่มการเข้าถึงและสะดวกกับผู้บริโภคมากขึ้น เช่น HORECA และ Brand Collaborations นอกจากนี้ ยังให้ความสำคัญกับกลยุทธ์การขายผ่านช่องทางออนไลน์ เพราะเป็นช่องทางที่ผู้บริโภคได้รับความสะดวกสบายในการสั่งซื้อและได้ข้อเสนอพิเศษต่าง ๆ ซึ่งผู้บริโภคสามารถสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ https://glicothai.com และร้านค้าทางการ (Official Store) ในแพลตฟอร์มออนไลน์ของกูลิโกะได้เช่นกัน โดยสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ป๊อกกี้คิดค้นพัฒนา ต้องตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคเรื่องคุณค่า คุณภาพ และรสชาติที่ถูกปาก รวมถึงตอบโจทย์เทรนด์เรื่องการใส่ใจสุขภาพ การเติมเต็มด้านอารมณ์ และการมอบโมเมนต์ความสุขให้เกิดขึ้นระหว่างผลิตภัณฑ์และผู้บริโภค เพื่อสร้างให้เกิดประสบการณ์ใหม่ที่น่าจดจำ ทำให้ป๊อกกี้เป็นแบรนด์ที่ผู้บริโภคจดจำว่า มีความเทรนดี้ ทันสมัย ไม่ตกยุคอยู่เสมอ

“สำหรับกูลิโกะเรามองว่าเทรนด์สุขภาพคือโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ ที่ทำให้เกิด segment ใหม่ ๆ ขึ้นโดยจะไม่มีการขายขนมของกูลิโกะที่ไม่ดีต่อสุขภาพต่อผู้คน นอกจากจะผลิตสินค้าที่ดีต่อผู้บริโภคแล้ว กูลิโกะยังดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืนควบคู่กันไป โดยมีการใช้น้ำมันปาล์ม RSPO ในผลิตภัณฑ์ป๊อกกี้มาตั้งแต่ปี 2564 และครอบคลุมทุกผลิตภัณฑ์ในหมวด Confectionery ตั้งแต่ปี 2566 อีกทั้งยังมีนโยบายมุ่งมั่นจัดหาผลิตภัณฑ์ Cacao ที่ผลิตอย่างยั่งยืนโดยคำนึงถึงปัญหาสังคมที่เกี่ยวข้อง เช่น แรงงานเด็ก ความยากจนของครอบครัวเกษตรกร และการตัดไม้ทำลายป่า สำหรับบรรจุภัณฑ์ กระดาษที่นำมาใช้ทำกล่องบรรจุภัณฑ์มี FSC Certificate และพร้อมนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ ที่ช่วยทำให้อร่อยขึ้น กินแล้วมีความสุข และยังคงรักษามาตรฐานคุณภาพของสินค้าให้น่าเชื่อถือ และได้รับความไว้วางใจดังเช่นที่ผ่านมา และที่สำคัญต้องตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาด้วย” นางสาวสาริน กล่าวสรุป