แกร็บ ประเทศไทย ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) และ กระทรวงแรงงาน เดินหน้าสานต่อโครงการ “แกร็บวัยเก๋า” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ภายใต้แนวคิด “สูงวัยอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันยุค AI” โดยมุ่งพัฒนาศักยภาพและทักษะทางดิจิทัลให้คนไทยวัยเกษียณ เพื่อให้สามารถปรับตัวให้เท่าทันเทคโนโลยี โดยเฉพาะ AI ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ทั้งในชีวิตประจำวันและการสร้างอาชีพเสริม ควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพทั้งร่างกาย จิตใจและอารมณ์ และการสร้างคุณค่าในตัวเอง เพื่อเตรียมพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสุดยอดในอนาคต พร้อมเปิดตัวคู่มือท่องเที่ยว “Bangkok: Taste, Tour, Treasure” ที่รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารเด็ดในกรุงเทพฯ ที่คัดสรรโดยคนขับแกร็บวัยเก๋า เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันผู้สูงอายุสากล (ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี)
นายวรฉัตร ลักขณาโรจน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ แกร็บ ประเทศไทย กล่าวว่า “แกร็บ ได้ริเริ่มโครงการแกร็บวัยเก๋าเป็นครั้งแรกในปี 2565 โดยร่วมมือกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (หรือ ดีป้า) เพื่อส่งเสริมให้ผู้สูงวัยพัฒนาทักษะทางดิจิทัลเบื้องต้นและเข้าถึงโอกาสในการหารายได้หลังวัยเกษียณอย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการให้บริการเรียกรถผ่านแอปฯ หรือบริการเดลิเวอรีบนแพลตฟอร์มของเรา ซึ่งได้รับความสนใจจากผู้สูงวัย เนื่องจากคนกลุ่มนี้ต้องการใช้เวลาว่างให้เกิดประโยชน์ อยากออกไปพบปะผู้คนและสัมผัสประสบการณ์ใหม่ๆ ในทุกวันเพื่อลดความเบื่อหน่ายในชีวิตและสร้างคุณค่าให้กับตัวเอง ขณะที่บางส่วนต้องการหารายได้เสริมเพราะไม่ต้องการเป็นภาระของลูกหลาน โดยปัจจุบันเรามีคนขับแกร็บที่มีอายุมากกว่า 60 ปีนับหมื่นคน ซึ่งถือเป็นกลุ่มคนขับที่มีประสบการณ์ชีวิต จึงมีความรอบคอบและระมัดระวังในการให้บริการ และให้ความสำคัญอย่างยิ่งกับความปลอดภัย”
“ปัจจุบันประเทศไทยได้เข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสมบูรณ์ (Complete Aged Society) เนื่องจากมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุ (มากกว่า 60 ปี) สูงกว่า 20% และคาดการณ์ว่าจะขยับเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุแบบสุดยอด (Super Aged Society) หรือมีสัดส่วนประชากรผู้สูงอายุสูงมากกว่า 30% ในปี 2576 ซึ่งย่อมส่งผลกระทบต่อทั้งภาคเศรษฐกิจและสังคม ทำให้หลายองค์กรตื่นตัวและเตรียมรับมือกับความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ซึ่งรวมถึงแกร็บ เราจึงได้เดินหน้าสานต่อโครงการแกร็บวัยเก๋า โดยในปีนี้เราได้ร่วมมือกับดีป้า กระทรวงแรงงาน ตลอดจนพันธมิตรจากภาคเอกชน เพื่อส่งเสริมความรู้และพัฒนาทักษะทางดิจิทัล โดยเฉพาะเครื่องมือเทคโนโลยีสมัยใหม่ เพื่อต่อยอดให้คนขับสูงวัยได้นำไปใช้ประโยชน์ในชีวิตประจำวัน รวมถึงเป็นโอกาสในการสร้างอาชีพเสริม ขณะเดียวกันก็พยายามพัฒนาสิทธิประโยชน์เสริมอื่นๆ ให้กับคนขับสูงวัย นอกเหนือไปจากประกันอุบัติเหตุที่ครอบคลุมระหว่างการให้บริการ” นายวรฉัตร กล่าวเสริม
ไฮไลท์สำคัญของโครงการ “แกร็บวัยเก๋า” ปี 2 ภายใต้แนวคิด “สูงวัยอย่างสร้างสรรค์ ก้าวทันยุค AI” ประกอบด้วย
• การพัฒนาทักษะทางดิจิทัลและส่งเสริมการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องให้คนขับสูงวัย ผ่านการจัดกิจกรรมฝึกอบรมเพื่ออัพสกิลแบบออฟไลน์ พร้อมเสริมทัพด้วยคอร์สอบรมออนไลน์ภายใต้โครงการ GrabAcademy โดยปีนี้ได้เพิ่มหัวข้อคอร์สอบรมที่ครอบคลุม 3 มิติ คือ 1) มิติด้านเทคโนโลยีผ่านคอร์ส “ก้าวทัน AI เพื่อนใหม่วัยเก๋า” ซึ่งได้คุณสุชนา สินธวถาวร วิทยากรผู้ทรงคุณวุฒิจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) มาร่วมให้ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยี AI เบื้องต้น ซึ่งสามารถนำมาใช้ประโยชน์ในการอำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวัน การวางแผนกิจกรรม หรือแม้แต่เป็นประโยชน์ในการสร้างรายได้หรือเสริมประสิทธิภาพการทำงาน 2) มิติด้านสุขภาพกายผ่านคอร์ส “สุขภาพดี 100 ปีคุณก็มีได้” โดย นพ.เก่งพงศ์ ตั้งอรุณสันติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์และการดูแลผู้สูงวัย ที่มาเผยเคล็ดลับการดูแลสุขภาพและแนะนำวิธีการออกกำลังกายสำหรับคนขับผู้สูงวัย และ 3) มิติด้านสุขภาพใจผ่านคอร์ส “สุขมากขึ้นทุกปี รู้สึกดีมากขึ้นทุกวัน” โดยดีเจพี่อ้อย-นภาพร ที่มาช่วยปรับมุมมองและวิธีคิดให้คนขับสูงวัยให้สามารถวางใจและรู้สึกดีกับตัวเองได้ในทุกๆ วัน
• การพัฒนาสิทธิประโยชน์เสริมต่างๆ ให้คนขับสูงวัย โดยได้รับการสนับสนุนจากพันธมิตรในภาคเอกชนที่มีความเชี่ยวชาญในด้านสุขภาพหรือผลิตภัณฑ์สำหรับผู้สูงวัย อาทิ แพ็คเกจตรวจสุขภาพจากดอกเตอร์ เอนีแวร์ (Doctor Anywhere) ผู้ให้บริการคำปรึกษาด้านสุขภาพ โปรแกรมยืดกล้ามเนื้อและกายภาพบำบัดจากคลินิกกายภาพบำบัดรีบาลานซ์ (Rebalance Clinic) ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพจากแบรนด์ไลฟ์ทูน (Lifetune) ในเครือบริษัท อังกฤษตรางู จำกัด ส่วนลดพิเศษสำหรับการตัดแว่นตาเลนส์โปรเกรสซีฟจากร้านแว่นตามองเด้ (Monde Eyewear) นอกจากนี้ ยังมีส่วนลดพิเศษจาก บิ๊กซีออนไลน์ (Big C Online) สำหรับการสั่งซื้อสินค้าหมวดหมู่ผู้สูงวัย
• การส่งเสริมให้ผู้สูงวัยเข้าถึงโอกาสในการหารายได้ผ่านการให้บริการบนแพลตฟอร์มของแกร็บ โดยการประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่างๆ ของแกร็บและเครือข่ายของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (ดีป้า) เพื่อสร้างการรับรู้ในวงกว้างของโครงการแกร็บวัยเก๋า พร้อมนำเสนอตัวอย่างที่น่าสนใจของคนขับแกร็บสูงวัยเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้กับผู้สูงวัยในสังคม
นอกจากนี้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองวันผู้สูงอายุสากล ซึ่งตรงกับวันที่ 1 ตุลาคมของทุกปี แกร็บยังได้จัดทำคู่มือท่องเที่ยวชื่อ “Bangkok: Taste, Tour, Treasure” ที่ได้รวบรวมสถานที่ท่องเที่ยวและร้านอาหารเด็ดในกรุงเทพฯ ซึ่งถูกคัดสรรและแนะนำโดยคนขับแกร็บวัยเก๋า เพื่อส่งต่อประสบการณ์การท่องเที่ยวที่น่าประทับใจและประสบการณ์ความอร่อยในแบบฉบับแกร็บให้กับนักท่องเที่ยวต่างชาติ โดยจัดทำเป็นไกด์บุ๊คฉบับภาษาอังกฤษเท่านั้น ซึ่งสามารถรับได้ที่จุดรับ-ส่ง Grab ชั้น 1 ประตู 4 (ด้านนอกอาคาร) ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และเคาน์เตอร์ศูนย์บริการ Grab ชั้น 1 อาคารในประเทศ ท่าอากาศยานดอนเมือง ทั้งยังสามารถดาวน์โหลดไกด์บุ๊ครูปแบบดิจิทัลได้ที่ https://www.grab.com/th/blog/bkk-travel-guidebook-2024/
“แกร็บจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาโครงการและกิจกรรมต่างๆ เพื่อช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลและสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม พร้อมเดินหน้าเพิ่มพื้นที่แห่งโอกาสให้คนไทยสามารถสร้างรายได้ผ่านแพลตฟอร์มของเราโดยไม่จำกัดเพศ วัย หรือการศึกษา ซึ่งเป็นไปตามพันธกิจ GrabForGood หรือ แกร็บ…เพื่อชีวิตที่ดีกว่า ที่มุ่งใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตและขับเคลื่อนภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ไปข้างหน้าพร้อมกัน” นายวรฉัตร กล่าวปิดท้าย