เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป กางแผน 5 ปี ก้าวเต็มขั้น “โรงหนังรักษ์โลก GREEN CINEMA” ทุ่มงบกว่า 1,000 ล้านบาท เปลี่ยนเครื่องฉายหนังเป็น “Laser Projector” ทุกโรง ทุกสาขา ปักธง Green เปลี่ยนเครื่องฉายครบ 300 โรง ในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายนนี้
เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ก้าวเต็มขั้น “โรงหนังรักษ์โลก Green Cinema” ตั้งเป้าเปลี่ยนเครื่องฉายเป็นระบบ Laser Projector ครบทุกโรง ทุกสาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ภายใน 5 ปี ตั้งแต่ปี 2568-2572 ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท ปักธง Green เปลี่ยนเครื่องฉายระบบ Laser Projector ได้ครบ 300 โรง ในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน 2567 ช่วยลดขยะจากการใช้หลอดไฟ Xenon ได้ถึง 1,200 หลอดต่อปี ลดการใช้ไฟฟ้าลง 3.71 ล้าน Kwh/ปี และที่สำคัญช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1.80 ล้าน Kg Carbon รวมทั้งทำให้ลูกค้าที่ได้สัมผัสการดูหนังในโรง Laser Projector ได้รับอรรถรสจากการดูหนังที่สมจริงด้วยภาพที่คมชัดและสว่างมากกว่าเครื่องฉายระบบอื่น
นรุตม์ เจียรสนอง รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการตลาด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ตั้งเป้าหมายที่จะเป็น “โรงหนังรักษ์โลก หรือ Green Cinema” อย่างเต็มรูปแบบ โดยปัจจุบันได้เปลี่ยนขั้นตอนการส่งสื่อภาพยนตร์จากระบบขนส่งโดยยานพาหนะ เป็นการส่งผ่านระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง 5G ของเอไอเอส ส่งตรงไปยังโรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ทุกสาขา เพื่อลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเป้าหมายภายใน 5 ปี นับตั้งแต่ปี 2568-2572 จะเปลี่ยนระบบเครื่องฉายหนังทุกโรง ทุกสาขา ทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นระบบ Laser Projector ครบ 100% ด้วยงบลงทุนกว่า 1,000 ล้านบาท
เครื่องฉายระบบ Laser Projector เป็นระบบเครื่องฉายหนังที่มีเทคโนโลยีที่ดีที่สุดและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพราะช่วยลดขยะจากระบบการฉายแบบเดิมที่ต้องใช้หลอดไฟซีนอน อีกทั้งยังช่วยลดการใช้พลังงานจากไฟฟ้า และช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้อย่างชัดเจน นอกจากนี้ ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการจะสัมผัสความพิเศษของเครื่องฉายระบบ Laser Projector ได้โดยตรงจากการดูหนังในโรง Laser จะให้อรรถรสอารมณ์ความรู้สึกถึงความสมจริงจากภาพที่คมชัดยิ่งกว่าและแสงที่สว่างมากกว่าระบบการฉายอื่น ๆ เนื่องจากแหล่งกำเนิดแสงเป็นแสง Laser มีความแม่นยำของสีที่เหนือกว่า ทำให้ได้ภาพที่สดใสและสมจริงมากกว่าเมื่อเทียบกับ Xenon Projector แบบเดิม และยังรักษาความสว่างและประสิทธิภาพที่สม่ำเสมอตลอดอายุการใช้งาน
นรุตม์ กล่าวว่า บริษัทฯ เป็น “โรงหนังรักษ์โลก” ที่พยายามช่วยลดภาระและรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายนนี้ บริษัทฯ ได้เปลี่ยนระบบเครื่องฉายหนังเป็นระบบ Laser Projector ครบ 300 โรง ทั้งกรุงเทพและต่างจังหวัด โดยมีโรงภาพยนตร์ 32 สาขาที่เป็นโรงภาพยนตร์ที่ใช้เครื่องฉายระบบ Laser Projector ครบทุกโรง อาทิ พารากอน ซีนีเพล็กซ์, ไอคอน ซีเนคอนิค, เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ สุขุมวิทและรัชโยธิน, อีสต์วิลล์ ซีนีเพล็กซ์, เมกา บางนา, บางกะปิ ซีนีเพล็กซ์
สำหรับการเปลี่ยนเครื่องฉายหนังเป็นระบบ Laser Projector ครบ 300 โรง กับ Major Go Green with 300 LASER PROJECTORS สามารถลดขยะและลดภาระให้กับสิ่งแวดล้อมได้อย่างชัดเจน ดังนี้
– ลดการใช้หลอดไฟ Xenon ได้ 1,200 หลอดต่อปี
– ลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ 3.71 ล้าน Kwh/ปี เมื่อเทียบกับการใช้เครื่องฉายแบบ Xenon Lamp
– ลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้ถึง 1.80 Kg Carbon
อย่างไรก็ตาม เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ เป็นโรงภาพยนตร์ที่นำนวัตกรรมและเทคโนโลยีใหม่ ๆ มาให้บริการลูกค้าอย่างต่อเนื่อง ได้เริ่มเปลี่ยนระบบการฉายหนังจากระบบ Digital มาเป็นระบบ Laser Projector ตั้งแต่ปี 2559 จนถึงปัจจุบัน ซึ่งช่วยลดขยะจากการใช้หลอดไฟ Xenon ได้มากถึง 5,952 หลอด, ลดการใช้ไฟฟ้าลงได้ 18.40 ล้าน Kwh และลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ลงได้ 8.92 Kg Carbon