ถ้าใครมีโอกาสได้ผ่านไปแถวอำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี อยากขอเชิญชวนให้ไปสักการะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ณ วิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” พื้นที่แห่งความศรัทธาของ “บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” ที่สร้างขึ้นเพื่อหวังให้เป็นศูนย์รวมจิตใจของชุมชน
สำหรับวิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” ตั้งอยู่บริเวณด้านหน้าทางเข้าสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี ตำบลนนทรี อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี ภายในวิหารเป็นที่ประดิษฐาน “องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม” โดยตัววิหารจำลองแบบมาจากหอบูชาฟ้าหรือหอสักการะฟ้าเทียนถาน ในกรุงปักกิ่ง ที่จักรพรรดิราชวงศ์หมิงและราชวงศ์ซิง ใช้เป็นสถานที่บวงสรวงเทพยดาเพื่อขอพรให้ฝนฟ้าตกตามฤดูกาล
โดยออกแบบผังอาคารวิหารเป็นวงกลมตามอาคารต้นแบบ หลังคาซ้อน 3 ชั้น มุงด้วยกระเบื้องสีเขียว ซึ่งเป็นกระเบื้องหลังคาโซลาร์เซลล์ที่ผลิตขึ้นมาเป็นพิเศษชนิดฟิล์มบางประกบด้วยกระจกเทมเปอร์ 2 ชั้น
ตัววิหารประกอบด้วยชั้นใต้ดินและชั้นโถงประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม โดยชั้นใต้ดินจะมีเสาทั้งหมด 25 ตัน และชั้นโถงจะมีเสาทั้งหมด 24 ต้น เรียงรายรอบอาคารวิหาร โดยแบ่งเป็นวงใน 12 ต้น มีความหมายถึงเดือนทั้ง 12 เดือน และวงนอก 12 ต้น หมายถึงเวลา 12 ชั่วยาม
ฝ้าเพดานเป็นรูปมันดาลา หรือ “มณฑล” ในภาษาไทย ซึ่งมีความหมายในพุทธศาสนานิกายวัชรยาน (ทิเบต) ถึงมณฑลศักธิ์สิทธิ์แห่งการตรัสรู้ ภายในวิหารโดยรอบยังมีภาพวาดพระโพธิสัตว์กวนอิมปางต่างๆ 11 ปาง ด้านบนติดตั้งเสาล่อฟ้า เป็นสัญลักษณ์แทนการดึงพลังงานจากฟ้ามายังผู้มีจิตศรัทธาที่มาสักการะองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม
นอกจากนี้ ทั้งภายในและภายนอกวิหาร ยังประดับประดาไปด้วยองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมและภาพเขียนต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์มงคล สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์ ความบริสุทธิ์ ความเจริญ เช่น ตัวอักษรมงคล ที่ประดับเรียงรายบนแผงกันตกรอบระเบียงวิหาร เป็นต้น
สิ่งสำคัญของวิหารคือ “องค์พระโพธิสัตว์กวนอิม” ซึ่งเป็นเทพเจ้าองค์ประธานของวิหาร เป็นองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม ปางประทานพรประทับยืนบนหลังพญามังกรที่เวียนว่ายอยู่กลางมหาสมุทร มือถือแจกันประทานน้ำอมฤต น้ำมนต์ศักดิ์สิทธิ์ และกิ่งหลิว
องค์พระแกะสลักจากหยกขาวชิ้นใหญ่ ที่ได้มาจากเหมืองในป่าลึกของเมืองนับปีตรู ประเทศพม่า แกะสลักโดยช่างชาวจีน องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมมีความสูง 2.62 เมตร หนัก 2.8 ตัน ฐานบัวสูง 0.45 เมตร หนัก 0.78 ตัน ฐานมังกรสูง 1.02 เมตร หนัก 4.95 ตัน และฐานแปดเหลี่ยมสูง 0.91 เมตร หนัก 5.9 ตัน
ตามประวัติกล่าวว่ามีผู้พบหยกขาวขนาดใหญ่ที่เหมืองในป่าลึกในเขตเมืองนับปีตรู ประเทศพม่า จึงชักลากโดยช้างและรถยนต์เพื่อนำไปส่งให้กับช่างชาวจีนที่ปักกิ่ง เพื่อแกะสลักเป็นองค์พระโพธิสัตว์กวนอิม จากนั้นจึงได้ติดต่อมายังคุณบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ ว่าต้องการมอบองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่แกะสลักจากหยกขาว เมื่อแกะสลักเรียบร้อยได้เดินทางมายังประเทศไทยโดยลงเรือเดินทะเลมาขึ้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2557 ทางมูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา และคุณบุณยสิทธิ์ ได้อัญเชิญองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมไปประดิษฐานชั่วคราว ณ พรหมสถาน เครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี ก่อนจะเริ่มสร้างวิหารเพื่อประดิษฐานองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมในปี 2558
สำหรับเหตุผลของการสร้างวิหารนั้น “บุณยสิทธิ์ โชควัฒนา” ประธานเครือสหพัฒน์ ถือเป็นผู้ที่มีความเลื่อมใสและศรัทธาในองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมอยู่แล้ว เมื่อได้รับองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมที่แกะสลักจากหยกขาวชิ้นใหญ่ จึงนำมาประดิษฐานไว้ที่ด้านหน้าพระพรหม ในสวนอุตสาหกรรมเครือสหพัฒน์กบินทร์บุรี โดยองค์พระโพธิสัตว์กวนอิมได้ประดิษฐานอยู่ ณ ที่นั้นนานถึง 3 ปี ก่อนที่จะอัญเชิญมาประดิษฐานที่ศาลาชั่วคราวด้านหน้าวิหาร
โดยคุณบุณยสิทธิ์จะได้รับแรงบันดาลใจที่จะสร้างวิหารหลังเดินทางกลับจากปักกิ่ง และรู้สึกประทับใจในความงดงามของหอบูชาฟ้าเทียนถาน จึงได้จำลองแบบมาสร้างที่กบินทร์บุรี โดยกันพื้นที่ด้านหน้าสวนอุตสาหกรรมไว้ประมาณ 4 ไร่ สำหรับการก่อสร้างวิหาร “อี่ ทง เทียน ไท้” โดยใช้เงินส่วนตัวและเงินบริจาคจากผู้มีความศรัทธาที่ร่วมแรงร่วมใจกันจนสร้างวิหาร อี่ ทง เทียน ไท้ สำเร็จในที่สุด
ส่วนตัวคุณบุณยสิทธิ์เองแล้วเห็นว่า องค์พระโพธิสัตว์กวนอิมมีคนเคารพนับถือและกราบไหว้บูชาไม่แต่เฉพาะคนไทย แต่คนจีนและคนไต้หวัน หรือคนแถบเอเชียก็รู้จัก นอกจากนี้ เส้นทางกบินทร์บุรีก็มีชาวต่างชาติเดินทางผ่านและแวะเข้ามาสักการะจำนวนหนึ่ง เนื่องจากจุดที่ประดิษฐานอยู่ริมถนน รถที่ขับผ่านไปมาสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจน จึงมีดำริว่าควรต้องมีการสร้างวิหารให้เหมาะสมและสวยงาม เพื่อให้สถานที่แห่งนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ของกบินทร์บุรีได้ในที่สุดและเพื่อให้ชาวกบินทร์บุรีได้ใช้เป็นสถานที่พักผ่อน ทำสมาธิ และเป็นที่ทำกิจกรรมต่างๆ ซึ่งตอนนี้ตัววิหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว เหลือเพียงการตกแต่งสวนโดยรอบที่ยังไม่แล้วเสร็จดี และได้ย้ายองค์พระแม่กวนอิมเข้าไปประดิษฐานภายในวิหารตั้งแต่เดือนตุลาคม 2566 ที่ผ่านมา จากความเลื่อมใสและศรัทธา คุณบุณยสิทธิ์เล่าว่า ตั้งแต่ได้พระโพธิสัตว์กวนอิมองค์นี้มา ทำอะไรก็ราบรื่น เวลาจะสร้างอะไรก็มีคนมาร่วมบริจาค ขออะไรส่วนใหญ่ก็ได้ตามที่ต้องการ
ปัจจุบันวิหารเปิดให้ผู้มีจิตศรัทธาเข้ามาสักการะทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7.00 น. ไปจนถึง 19.00 น. (ภายในวิหาร) และสามารถเยี่ยมชมภายนอกวิหารได้จนถึงเวลา 20.00 น. มีการกำหนดวันสักการะประจำปีไว้คือวันที่ 25 ธันวาคมของทุกปี และมีการจัดกิจกรรมตามวันสำคัญและเทศกาลต่างๆ เช่น การจัดพิธีสวดมนต์ถวายแด่พระโพธิสัตว์กวนอิม และงาน “แขวนโคม ขอพร ปีมังกร สุขสันต์” ในเทศกาลตรุษจีน ฯลฯ โดยสามารถติดตามข่าวสารกิจกรรมต่างๆ ของวิหารได้ทาง Line OA: @Yitongtiantai เฟซบุ๊กวิหารกวนอิมอี่ทงเทียนไท้ https://www.facebook.com/yitongtiantai เว็บไซต์ Yitongtiantai.com