“น้ำดื่มสิงห์” ชวนผู้บริโภครักษ์โลก ผ่านน้ำดื่มขวดใส รีไซเคิลได้ 100% ส่งเสริมการรีไซเคิลง่ายยิ่งขึ้น พร้อมชวนพันธมิตร “โลตัส” จุดพลุการรับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมกับแคมเปญ “แยก แลก ลุ้น” ที่โลตัสกว่า 30 สาขาทั่วประเทศ หรือร่วมกิจกรรมออนไลน์ผ่านแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART Apps
พรรณทิพย์ ลีตะชีวะ ผู้อำนวยการกลุ่มการตลาดแบรนด์น็อนแอลกอฮอล์ บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด เปิดเผยว่า “น้ำดื่มสิงห์มุ่งมั่นพัฒนาคุณภาพสินค้าอย่างต่อเนื่อง เพื่อตอบสนองความเชื่อมั่นของผู้บริโภคมาอย่างยาวนาน ล่าสุดน้ำดื่มสิงห์สร้างสรรค์บรรจุภัณฑ์ใหม่ “น้ำดื่มสิงห์ขวดใส” ซึ่งเป็นนวัตกรรมบรรจุภัณฑ์ PET 1 สามารถรีไซเคิลได้ 100% ออกแบบโลโก้ลายนูนบนขวดแทนเพื่อช่วยลดการใช้ฉลากพลาสติก และสามารถนำขวดไปรีไซเคิลได้ง่ายขึ้น โดยในการเปิดตัวน้ำดื่มสิงห์บรรจุภัณฑ์ใหม่ขวดใสรักษ์โลกนี้ จะนำร่องด้วยขนาด 1.5 ลิตร และวางจำหน่ายในรูปแบบแพ็กเท่านั้น ผ่านห้างค้าปลีกอย่างโลตัสเป็นช่องทางแรก”
ยุวดี ถาวรไชยโสภณ รองผู้อำนวยการฝ่ายความยั่งยืนและสื่อสารองค์กร โลตัส เปิดเผยว่า “โลตัส ดำเนินธุรกิจภายใต้กลยุทธ์ Vision 2030. Actions every day. ที่มุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนจากการดำเนินงานในทุก ๆ วัน ครอบคลุมทั้งด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแลกิจการ (ESG) โดยหนึ่งในเป้าหมายสำคัญ คือการผลักดันระบบเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ที่มุ่งลดการทิ้งขยะสู่หลุมฝังกลบให้เป็นศูนย์ภายในปี ค.ศ. 2030 ซึ่งรวมถึงบรรจุภัณฑ์พลาสติกด้วย ความร่วมมือในครั้งนี้ สอดคล้องกับแผนงานด้านบรรจุภัณฑ์ที่ยั่งยืน ซึ่งโลตัส มีความยินดีร่วมเดินหน้าจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจอย่าง “น้ำดื่มสิงห์” ขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อมและสังคมที่ดีขึ้น อีกทั้งเป็นตัวกลางในการเข้าถึงชุมชน ช่วยให้ลูกค้าและประชาชนสามารถแยกและรีไซเคิลขยะได้อย่างสะดวกผ่านสาขาของโลตัสกว่า 30 สาขาที่เข้าร่วมกิจกรรม โดยลูกค้าสามารถนำขวดน้ำดื่มสิงห์มาส่งมอบที่จุดรับคืนในโลตัส เพื่อเก็บรวบรวมขวดน้ำที่ใช้แล้วกลับเข้าสู่ระบบและนำไปรีไซเคิลอย่างถูกวิธีต่อไป อีกทั้งยังลดการทิ้งขยะสู่หลุมฝังกลบได้อีกด้วย”
ล่าสุดกับการเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ขวดน้ำสิงห์ สามารถนำเข้าสู่กระบวนการ Recycle และ Upcycling ได้ทันที โดยไม่ต้องผ่านกระบวนการบดคัดแยกฉลาก จึงสามารถประหยัดพลังงานและลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ตั้งแต่กระบวนการผลิต กระบวนการขนส่ง จนไปถึงกระบวนการ Upcycling เพื่อสร้างเป็นผลิตภัณฑ์อื่นๆ ต่อไป โดยเป้าหมายของบริษัทฯ มองว่านอกจากจะช่วยลดปริมาณขยะแล้ว ยังเป็นการช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก บรรเทาวิกฤตภาวะโลกร้อน และร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ความยั่งยืน
ที่ผ่านมา น้ำดื่มสิงห์ได้ริเริ่มโครงการในหลายด้าน อาทิ โครงการตามหาเด็กหาย Return Heart to Home ร่วมกับมูลนิธิกระจกเงา พิมพ์รูปเด็กหายในฉลากน้ำดื่มสิงห์สร้างการรับรู้ให้สังคมตระหนักถึงปัญหาเด็กหาย ตลอดจนโครงการที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมหลายโครงการ เช่น “เกี่ยวช่วยโลก” ที่สนับสนุนการใช้น้ำดื่มขวดแก้วที่สามารถนำขวดมาใช้หมุนเวียนได้ หรือการเลือกใช้วัสดุ PET1 ที่สามารถรีไซเคิลได้ 100% ในขวดน้ำดื่มพลาสติก เพื่อลดปัญหาทางด้านสิ่งแวดล้อมที่อาจเกิดขึ้น หรือการได้ร่วมทำโครงการสิ่งแวดล้อมกับแบรนด์แฟชั่นของไทยอย่าง “PIPATCHARA” ยังได้สร้างผลงาน Collection พิเศษที่ผลิตจาก ขวดน้ำดื่มสิงห์ PET และฝาขวด PET ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีอีกด้วย และนอกเหนือจากนั้น ล่าสุด น้ำดื่มสิงห์ ยังได้ทำโครงการ Collaboration สุดพิเศษ Singha Drinking Water X Reroute Collection เป็น Special Project จากความตั้งใจของทั้งสองแบรนด์เพื่อขับเคลื่อนความยั่งยืน สู่การนำขวดน้ำดื่มสิงห์มาผลิตเป็นคอลเลกชันเสื้อผ้า เปลี่ยนแปลงคุณค่าของขวดพลาสติกสู่วัสดุรีไซเคิลที่สร้างประโยชน์ต่อไปโดยไม่รู้จบ” พรรณทิพย์ กล่าว
สำหรับแคมเปญ “แยก แลก ลุ้น” ผู้บริโภคที่ซื้อน้ำดื่มสิงห์สามารถเป็นส่วนหนึ่งในการรักษ์โลก ดังนี้ 1. แยก เมื่อน้ำดื่มสิงห์ ขวดใสรักษ์โลก ครบ 3 แพ็ก จะได้รับถุง Recycle Bag สำหรับแยกขวด PET เพื่อนำขวดพลาสติกที่ใช้แล้วมาคืนทุกวันอาทิตย์สิ้นเดือนที่โลตัส 30 สาขาที่ร่วมโครงการ 2.แลก ผู้บริโภคสามารถร่วมสนุกเพื่อต่อยอดการรักษ์โลก โดยขวด PET ทุกขวดที่เก็บกลับมา สามารถนำไปแลกของรางวัล เช่น กระเป๋าผ้า แก้วน้ำ Tumbler หรือลุ้นรับ เสื้อยืดลายน้ำดื่มสิงห์ และ 3.ลุ้น ทุกยอดการซื้อ ยังมีสิทธิ์ลุ้น เสื้อผ้าคอลเลกชัน “Singha Drinking Water X Reroute” และรางวัลอื่นๆ อีกมากมาย ผ่านแอปพลิเคชัน Lotus’s SMART Apps
มีตัวเลขที่น่าสนใจระบุว่า ในปี 2565 ตลาดน้ำดื่มในไทยมีมูลค่าถึง 38,000 ล้านบาท โดยน้ำดื่มสิงห์เป็นผู้นำตลาดด้วยส่วนแบ่งการตลาด 20% ในตลาดน้ำดื่มขวด PET และขวดแก้ว รองลงมาเป็นคริสตับ ครองส่วนแบ่ง 18.6% และอันดับสามคือ เนสท์เล่ ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 11.4% ซึ่งการขยับตัวของเจ้าตลาดอย่างน้ำดื่มสิงห์ในครั้งนี้ เรียกได้ว่าเป็นความเคลื่อนไหวครั้งใหญ่ของตลาดเลยทีเดียว
