วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
Home > New&Trend > “อาร์เซลิก ฮิตาชิ” เผยกลยุทธ์รับมือเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุค 2024

“อาร์เซลิก ฮิตาชิ” เผยกลยุทธ์รับมือเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุค 2024

“อาร์เซลิก ฮิตาชิ” เผยกลยุทธ์รับมือเทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปในยุค 2024 “Purposeful Design” ปรัชญาการออกแบบผลิตภัณฑ์ของ “อาร์เซลิก ฮิตาชิ” ที่เติมเต็มไลฟ์สไตล์แตกต่างของผู้บริโภคทุกเจเนอเรชัน

ผู้บริโภคทั่วโลกยังคงต้องใช้ชีวิตบนความท้าทายอยู่ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็น ค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากสถานการณ์ความไม่มั่นคงทางการเมืองระหว่างประเทศ ต้นทุนการกู้ยืมและพลังงาน ภัยจากภาวะโลกรวน และการระบาดของโรคอุบัติใหม่ ในขณะเดียวกัน ผู้บริโภคในยุคปัจจุบันหันมาใส่ใจกับสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนมากขึ้นอย่างชัดเจนภายในไม่กี่ปีที่ผ่านมา

ความกังวลต่อคุณภาพชีวิต และการตระหนักรู้ต่อสิ่งแวดล้อมที่เพิ่มขึ้นล้วนส่งผลให้พฤติกรรมการเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าของผู้บริโภคเปลี่ยนไป ความนิยมหรือการให้คุณค่ากับแบรนด์ใดแบรนด์หนึ่ง หรือ Brand Loyalty นั้นลดลงอย่างมีนัยสำคัญ โดยผู้บริโภคหันมาให้น้ำหนักกับผลิตภัณฑ์ที่มีจุดยืนในการสร้างสรรค์มูลค่าชัดเจน (Value Creation) ไม่ว่าจะเป็นด้านความทนทานและอายุการใช้งาน เพื่อลดการสร้างขยะโดยไม่จำเป็น ด้านดีไซน์ที่ช่วยให้ชีวิตประจำวันง่าย สะดวกสบายยิ่งขึ้น รวมถึงด้านฟีเจอร์ที่ช่วยให้ผู้ใช้งานเข้าถึงการมีสุขภาพและสุขอนามัยที่ดี ตลอดจนความสามารถในการประหยัดพลังงาน

“พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไปขนานใหญ่เช่นนี้ ทำให้ตลาดเครื่องใช้ไฟฟ้าคึกคัก เพราะมีผลิตภัณฑ์ประเภทใหม่ ๆ พร้อมนวัตกรรมหลากหลาย ที่ออกแบบมาตอบโจทย์ที่เปลี่ยนไปของผู้ใช้งานโดยเฉพาะ เรียกได้ว่าเป็นทั้งความท้าทายและโอกาสที่ทำให้อาร์เซลิก ฮิตาชิ ได้เรียนรู้และเข้าใจลูกค้าของเรามากยิ่งขึ้น ที่สำคัญไปกว่านั้น เทรนด์ผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปยังตอกย้ำว่าปรัชญาในการออกแบบที่เรายึดถือ อย่าง “Purposeful Design” หรือการคิดวิเคราะห์อย่างรอบคอบ และออกแบบทุกองค์ประกอบของผลิตภัณฑ์ให้ตอบโจทย์ทั้งเรื่องดีไซน์และฟังก์ชัน นั้นเป็นหลักคิดที่ช่วยให้เราเติมเต็มความต้องการของผู้บริโภคยุคปัจจุบันได้อย่างแท้จริง” มร. โทลกา อะคิน – ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดและการบริหารผลิตภัณฑ์ ประจำอาร์เซลิก ฮิตาชิ โฮม แอพพลายแอนซ์ กล่าว

มุ่งสู่การออกแบบเพื่อทุกเจเนอเรชัน

ในช่วงยุคหนึ่งของการตลาด ความต้องการที่แตกต่างของผู้บริโภคในแต่ละเจเนอเรชันนั้นมีบทบาทสำคัญในการออกแบบผลิตภัณฑ์ แต่แนวโน้มในปี 2024 เราจะได้เห็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นเพื่อจุดประสงค์เดียวกัน คือการยกระดับคุณภาพชีวิต มอบความสะดวกสบายและสุขอนามัยที่ดีให้ผู้ใช้งานทุกเจเนอเรชันเข้ามาลดช่องว่างดังกล่าว ซึ่งสอดคล้องกับปรัชญาการออกแบบของ “อาร์เชลิก ฮิตาชิ” ที่ตีโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานให้ชัดเจน วิเคราะห์ทุกองค์ประกอบและฟีเจอร์อย่างรอบคอบ เพื่อให้ทุกผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าจากฮิตาชิ ทำหน้าที่อำนวยความสะดวกให้ผู้ใช้งานทุกเจเนอเรชันได้สมบูรณ์ รอบด้านที่สุด

3 แนวคิดการออกแบบตามปรัชญา “Purposeful Design” ที่สะท้อนผ่าน 3 ผลิตภัณฑ์ใหม่จากฮิตาชิ

1. เรียบง่ายแต่ทรงพลัง พร้อมคงไว้ซึ่งกลิ่นอายความเป็นญี่ปุ่นอย่างชัดเจน

ในฐานะแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีต้นกำเนิดจากแดนอาทิตย์อุทัย ทุกผลิตภัณฑ์ของฮิตาชิยังคงให้ความสำคัญกับดีไซน์ที่เรียบง่าย แต่ทันสมัย ตอบโจทย์เทรนด์การใช้งานในยุคปัจจุบัน เครื่องทำน้ำอุ่นรุ่นใหม่ของฮิตาชิ (The New Hitachi Shower Heater) ออกแบบมาสำหรับตลาดเอเชียโดยเฉพาะ โดยหยิบยกเอกลักษณ์ทางวัฒนธรรมและสุนทรียศาสตร์ของประเทศแถบเอเชียมาเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ โดดเด่นด้วยรูปทรงกลมบนเครื่องทำน้ำอุ่นที่สื่อถึงพระอาทิตย์ ซึ่งเชื่อมโยงทุกสรรพสิ่งและเป็นที่นับถือของชาวเอเชียในหลายพื้นที่

เครื่องทำน้ำอุ่นรุ่นใหม่ของฮิตาชิ การันตีด้วย Red Dot & iF Design awards 2023 ด้วยการออกแบบที่มีเอกลักษณ์ คุณสมบัติด้านความปลอดภัย และฟังก์ชันการใช้งานที่ครอบคลุม เช่น ไฟ LED สวิตช์เปิด/ปิดแบบสัมผัสเดียว และปุ่มปรับอุณหภูมิที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้ โดยปุ่มกดและลูกบิดทำจากวัสดุที่มองเห็นได้ชัดเจนและติดตั้งในจุดที่เอื้อมถึงและมองเห็นได้ง่าย มาพร้อมระบบควบคุมอุณหภูมิที่สม่ำเสมอ เรียบง่ายแต่เต็มเปี่ยมไปด้วยรายละเอียดที่ใส่ใจต่อสมาชิกทุกเจเนอเรชันในบ้าน

2. สมดุลอันลงตัวระหว่างเทคโนโลยีล้ำสมัยและดีไซน์ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์

อีกหนึ่งหัวใจสำคัญของการออกแบบผลิตภัณฑ์ฮิตาชิ อยู่ที่ฟังก์ชันการใช้งานที่ครบครันเติมเต็มความต้องการที่หลากหลายในครัวเรือน อย่างตู้เย็นระดับพรีเมียมแบบมัลติดอร์ 4 ประตู รุ่น R-WB640VFX (French Bottom Freezer) ที่มีรางวัล iF Design Award 2021 เป็นเครื่องการันตี

มาพร้อมนวัตกรรมการออกแบบเอกสิทธิ์หนึ่งเดียวจากฮิตาชิ ไม่ว่าจะเป็น ช่องแช่อาหารระบบสุญญากาศ ที่คงความสดใหม่ของอาหารด้วยการควบคุมความดันภายในช่องแช่ไว้ที่ 0.8 atm ระบบเปิดประตูอัตโนมัติพร้อมไฟส่องสว่าง พร้อม IoT Connected ที่ให้ผู้ใช้งานสามารถตั้งค่าและตรวจสอบการทำงานของตู้เย็นได้ทุกเวลาผ่านสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ยังล้ำหน้าด้วย เทคโนโลยีแผงฉนวนสุญญากาศ ช่วยป้องกันความร้อนจากภายนอก จึงทำให้ตู้เย็นประหยัดพลังงานได้มากขึ้น เก็บความเย็นได้นานสูงสุดถึง 15 ชั่วโมงแม้ไฟดับ พร้อม Inverter x Dual Fan Cooling ระบบทำความเย็นแบบพัดลมคู่ ทำงานควบคู่กับเซ็นเซอร์ตรวจจับอุณหภูมิ ช่วยควบคุมการเปลี่ยนแปลงของอุณหภูมิแต่ละช่องแช่ให้คงค่าตามความเหมาะสม

การออกแบบของผลิตภัณฑ์ฮิตาชิยังคำนึงถึงหลักสรีระศาสตร์และความสะดวกต่อการใช้งานจริงสำหรับผู้ใช้ทุกช่วงวัย อย่างช่องแช่เย็นที่ใช้งานบ่อยที่สุด มักออกแบบให้อยู่ส่วนบนของตู้ ช่วยให้มองเห็นชัดเจนและง่ายต่อการเปิดใช้งาน เน้นการแบ่งช่องแช่อย่างเป็นระเบียบ จึงมองเห็นอาหารได้ทั้งหมด และหยิบสิ่งที่ต้องการได้อย่างสะดวก ตู้เย็นระดับพรีเมียมแบบมัลติดอร์ มาพร้อมการออกแบบช่องแช่ที่ปรับได้ดั่งใจ (Selectable Zone) ทั้งตามประเภทอาหารและไลฟ์สไตล์ของผู้ใช้งาน

3. การออกแบบที่คำนึงถึงการใช้งานของผู้ใช้งานเป็นหลัก

ดีไซน์ที่เน้นผู้ใช้งาน (User-Oriented Design) เป็นอีกหนึ่งแนวคิดสำคัญที่สะท้อนผ่านทุกผลิตภัณฑ์ของฮิตาชิ อย่าง เครื่องดูดฝุ่นไร้สายแบบด้ามจับน้ำหนักเบารุ่นใหม่ของฮิตาชิ (ซีรีส์ PV-X95N) ที่ได้รับรางวัล Red Dot Award Design 2023 จากการออกแบบอย่างพิถีพิถันครอบคลุมทั้งฟังก์ชันและการใช้งาน ด้ามจับถูกออกแบบมาให้ยึดจับได้ง่ายด้วยดีไซน์ทันสมัย และมีน้ำหนักเบาเพียง 1.8 กิโลกรัม และ 1.2 กิโลกรัมหากถอดใช้เฉพาะด้ามจับ โดดเด่นด้วยเทคโนโลยีไซโคลนและมอเตอร์ไร้แปรงแบบดิจิทัล (BLDC) สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 40 นาที ทำให้การทำความสะอาดทุกวันง่ายและสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในยุคที่สุขภาพและสุขอนามัยสำคัญเป็นอันดับต้น ๆ การหยิบเครื่องดูดฝุ่นที่ใช้งานง่ายและน้ำหนักเบามาใช้งานได้บ่อย ๆ จึงตอบโจทย์ผู้ใช้งานเป็นอย่างมาก