วันพุธ, ธันวาคม 4, 2024
Home > New&Trend > ยูโอบีหนุนสินเชื่อกลุ่มบางจาก เดินหน้าขยายธุรกิจน้ำมันและพัฒนาเชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ

ยูโอบีหนุนสินเชื่อกลุ่มบางจาก เดินหน้าขยายธุรกิจน้ำมันและพัฒนาเชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ

ธนาคารยูโอบี สนับสนุนสินเชื่อทางการเงินให้แก่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) เดินหน้าขยายการดำเนินธุรกิจการกลั่นน้ำมัน และร่วมผลักดันวิสัยทัศน์การพัฒนาด้านพลังงานอย่างยั่งยืนจากการผลิตเชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ

บางจาก คอร์ปอเรชัน เป็นบริษัทแรกในไทยที่ธนาคารได้สนับสนุนด้านการเงิน ภายใต้กรอบแนวคิดสินเชื่อเพื่อการเปลี่ยนผ่าน (UOB’s Transition Finance Framework) ซึ่งออกแบบมาเพื่อสนันสนุนการเปลี่ยนผ่านของบริษัทที่มีการใช้พลังงานสูงในการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน ภายใต้กรอบแนวคิดนี้ธนาคารมุ่งสนับสนุนการดำเนินกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนผ่านเช่น การผลิตเชื้อเพลิงทางเลือกคาร์บอนต่ำ การเพิ่มประสิทธิภาพในกระบวนการผลิต การดักจับ ใช้ประโยชน์และกักเก็บคาร์บอน (CCUS) และการชดเชยคาร์บอนเครดิต โดยธนาคารมีโซลูชันทางการเงินที่ครอบคลุมให้แก่บริษัทและเครือข่ายในภาคอุตสาหกรรมที่ร่วมสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านการดำเนินธุรกิจ

ปัจจุบัน ธนาคารยูโอบีปล่อยสินเชื่อด้านการค้าและการเปลี่ยนผ่านรวม 290 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้แก่กลุ่มบริษัทบางจากได้แก่ บริษัทบางจาก คอร์ปอเรชัน จำกัด (มหาชน) บริษัท BCP Trading Pte. Ltd. (BCPT) และบริษัทเอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด ที่ทางกลุ่มฯได้มีการเข้าซื้อหุ้นเมื่อเร็วๆ นี้สำหรับขยายธุรกิจการกลั่นน้ำมัน ซึ่งประกอบด้วยวงเงินสำหรับนำเข้าน้ำมันดิบเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิต และเงินทุนหมุนเวียนจำนวน 30 ล้านดอลลาร์สหรัฐเพื่อดำเนินธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ

นายตัน ชุน ฮิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย กล่าวว่า “ความร่วมมือในครั้งนี้ช่วยกระชับความสัมพันธ์ที่มีมาอย่างยาวนานในฐานะพันธมิตรทางการเงินกับกลุ่มบริษัทบางจากให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ธนาคารพร้อมสนับสนุนการขยายธุรกิจและขับเคลื่อนอุตสาหกรรมพลังงานของกลุ่มบางจาก ที่ทำให้บริษัทกลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมการกลั่นน้ำมันของประเทศ ธนาคารมีโซลูชันทางการเงินแบบครบวงจรที่จะช่วยผลักดันให้ธุรกิจเติบโตไปข้างหน้าพร้อมกับการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม”

โดยวงเงินสินเชื่อที่กลุ่มบริษัทบางจากได้รับสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่มีร่วมกันของทั้งสององค์กร ในการรักษาสมดุลระหว่างการเติบโตทางธุรกิจและความยั่งยืน กลุ่มบริษัทบางจากเป็นผู้นำด้านการกลั่นน้ำมันของประเทศที่มุ่งขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานอย่างยั่งยืนโดยคงไว้ซึ่งสมดุลแห่งความมั่นคงทางพลังงาน

ธนาคารยูโอบีเป็นผู้นำในวงการธนาคารที่มีโซลูชันทางการเงินเพื่อสนับสนุนการเปลี่ยนผ่านของธุรกิจที่ผลิตก๊าซคาร์บอนสูง ใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และอุุตสาหกรรมลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้ยาก โดยเมื่อเดือนตุลาคมปีที่แล้ว ยูโอบีได้ประกาศคำมั่นในการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net Zero) ครอบคลุม 6 ภาคอุตสาหกรรมภายในปี 2050 หรือ พ.ศ. 2593 ซึ่งรวมอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซที่เป็นส่วนหนึ่งของห่วงโซ่ด้านพลังงานที่ธนาคารพร้อมมอบบริการทางการเงินเพื่อสนับสนุนบริษัทที่สนใจหันมาดำเนินกิจกรรมอันเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น

นายชัยวัฒน์ โควาวิสารัช ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัทบางจากและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “กลุ่มบริษัทบางจากยินดีที่ได้รับการสนับสนุนวงสินเชื่อด้านการค้าและการเปลี่ยนผ่านจากยูโอบี ธนาคารยูโอบีมีความเข้าใจอย่างลึกซึ้งเกี่ยวกับการดำเนินธุรกิจของเรา และความต้องการที่จะสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อสนับสนุนการใช้ยานยนต์ด้วยพลังงานสะอาด สอดคล้องกับแนวทางของอุตสาหกรรมพลังงานที่ต้องการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอน

ในฐานะผู้นำการเปลี่ยนผ่านทางพลังงาน บางจากฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนานวัตกรรมธุรกิจอย่างยั่งยืนไปกับสิ่งแวดล้อมและสังคมมาโดยตลอด บางจากฯ กำหนดแผนงาน BCP316NET เพื่อมุ่งสู่เป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน (Carbon Neutrality) ภายในปี 2030 หรือ พ.ศ. 2573 และเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050 หรือ พ.ศ. 2593 โดยได้มีการดำเนินการตามแผนงานครอบคลุมทุกด้าน โดยส่วนแรกคือ B หรือ Breakthrough Performance ได้ปรับปรุงประสิทธิภาพ กระบวนการทำงาน การปล่อยคาร์บอนและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสะท้อนเป็นรูปธรรมที่ชัดเจนในหลายด้าน อาทิ การบุกเบิกหน่วยผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน SAF และ 5 ผลิตภัณฑ์ของโรงกลั่นน้ำมันบางจากพระโขนงมีค่าการปลดปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของธุรกิจโรงกลั่นของประเทศไทย วงเงินสินเชื่อและเงินทุนหมุนเวียนจากยูโอบีครั้งนี้ จะช่วยต่อยอดการขับเคลื่อนการดำเนินงานต่างๆ ที่มุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำของกลุ่มบริษัทบางจาก และสร้างการเติบโตของธุรกิจควบคู่กับความยั่งยืนให้กับสังคมและสิ่งแวดล้อม”