วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
Home > New&Trend > สิงห์ เลมอนโซดา จับเทรนด์บ๊วยญี่ปุ่น เปิดตัว “บ๊วยเลมอนโซดา”

สิงห์ เลมอนโซดา จับเทรนด์บ๊วยญี่ปุ่น เปิดตัว “บ๊วยเลมอนโซดา”

รสชาติใหม่พร้อมเสิร์ฟ สิงห์ เลมอนโซดา เปิดตัว “บ๊วยเลมอนโซดา” เติมความสดชื่น แตกต่างแบบไม่มีน้ำตาล 0% แคลอรี

“สิงห์ เลมอนโซดา” จับเทรนด์บ๊วยญี่ปุ่น (Ume) มาแรงในตลาดเครื่องดื่มเอเชีย เปิดตัวรสชาติใหม่ “บ๊วยเลมอนโซดา” เจ้าแรกในตลาดน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาล พร้อมปลุกความสดชื่น เปรี้ยวซ่าสะใจ ต่อยอดความเป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์น้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลในรูปแบบกระป๋อง

นายธิติพร ธรรมาภิมุขกุล Chief Marketing Officer บริษัท บุญรอดเทรดดิ้ง จำกัด หลังจากการเปิดตัวครั้งแรกของผลิตภัณฑ์ “สิงห์ เลมอนโซดา” เมื่อปลายปี 2563 เพื่อเข้าทำให้ตลาดเครื่องดื่มน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาล ชูจุดเด่นครบเครื่องทั้งผลิตภัณฑ์ที่มีรูปลักษณ์โดดเด่น สีสันสดใส มาพร้อมกับรสชาติที่แตกต่าง จากความเปรี้ยวของเลมอน ผสมกับความซ่าในแบบฉบับของสิงห์ และยังมีจุดเด่นด้วยสูตรไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี มีวิตามินซีสูง ทำให้กลายเป็นเครื่องดื่มที่สามารถครองใจกลุ่มเป้าหมายได้ในเวลาอันรวดเร็ว

ภายในระยะเวลาเพียง 3 ปี สิงห์ เลมอนโซดา เดินหน้าสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์รสชาติใหม่ๆ เพิ่มความหลากหลาย ตอบสนองผู้บริโภคกลุ่มเป้าหมาย หลังก่อนหน้านี้เปิดตัวไปหลากหลายรสชาติ ทั้ง สิงห์ เลมอนโซดา, สิงห์ ยูซุ เลมอนโซดา และสิงห์ เรด เลมอนโซดา ซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จและได้รับเสียงตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี ช่วยสร้างการเติบโตอย่างแข็งแกร่งในหมวดเครื่องดื่มน้ำอัดลมสูตรไม่มีน้ำตาล มีส่วนแบ่งทางการตลาดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

ล่าสุด บริษัทเปิดตัวรสชาติใหม่ “บ๊วยเลมอนโซดา” ด้วยการนำวัตถุดิบคุณภาพบ๊วยญี่ปุ่น (Ume) ให้กลิ่นหอม ผสานกับเลมอน จนได้รสชาติที่เปรี้ยวซ่าอย่างลงตัว ที่สำคัญยังคงสูตรไม่มีน้ำตาล ไม่มีแคลอรี และมีวิตามินซีสูง เพื่อเอาใจผู้บริโภคที่ต้องการเครื่องดื่มดับกระหาย ให้ความสดชื่นที่แตกต่าง อีกทั้งยังตอบโจทย์เทรนด์รักสุขภาพด้วย ทั้งนี้ “บ๊วยเลมอนโซดา” จำหน่ายในรูปแบบกระป๋อง ขนาด 330 มิลลิลิตร ในราคา 17 บาท สามารถซื้อได้ผ่านช่องทาง Singha Online Shop และเซเว่นอีเลฟเว่น (7-Eleven) ทุกสาขาทั่วประเทศ

“การออกรสชาติใหม่ บ๊วยเลมอนโซดา เนื่องจากบ๊วยญี่ปุ่นหรือ Ume เป็นผลไม้ที่มาแรงในเอเชีย ด้วยจุดเด่นรสชาติหวานอมเปรี้ยว มีกลิ่นหอมเป็นเอกลักษณ์ เกิดเทรนด์ที่เครื่องดื่มต่างๆ นำบ๊วยมาเป็นส่วนผสมจนกลายเป็นเมนูยอดฮิต รวมถึงเป็น mixer ขยายโอกาสในการดื่มให้ผู้บริโภคสนุกได้อย่างหลากหลาย ซึ่งสิงห์เห็นโอกาสนี้จึงนำไปต่อยอดพัฒนาโปรดักท์ ยกระดับเครื่องดื่มบ๊วยจากรูปแบบเดิมๆ ให้กลายเป็นความสดชื่นบทใหม่ ที่เชื่อว่าทุกคนจะได้สัมผัสความเปรี้ยวซ่าสะใจในทุกโมเมนต์”

ท่ามกลางการแข่งขันที่ดุเดือด ตลาดรวมน้ำอัดลมแบบไม่มีน้ำตาลในปัจจุบัน มีมูลค่าประมาณ 6,930 ล้านบาท อัตราการเติบโตกว่า 25% โดยสิงห์ เลมอนโซดา ครองส่วนแบ่งทางการตลาด 52% ในรูปแบบกระป๋อง คาดว่าหลังจากการออกรสชาติใหม่อย่าง “บ๊วยเลมอนโซดา” จะช่วยผลักดันยอดขายให้เติบโต 30% และรักษาการเป็นผู้นำตลาดน้ำอัดลมไม่มีน้ำตาลในรูปแบบกระป๋องให้แข็งแกร่งต่อไป