ปัจจัยบวกหนุนธุรกิจค้าปลีก ลุ้นไฮซีซัน-มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรัฐบาลใหม่ ด้าน อินฟอร์มา รุกเปิดโซนใหม่ Shop & Retail Thailand ครั้งแรกในงาน Food & Hospitality Thailand 2023 สร้างศักยภาพธุรกิจค้าปลีกด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่
ธุรกิจค้าปลีกแนวโน้มดี หลายปัจจัยบวกหนุน ทั้งคนจับจ่ายไฮซีซั่นปลายปี ท่องเที่ยวฟื้น และลุ้นมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาลใหม่ ด้าน อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน Food & Hospitality Thailand 2023 รุกเดินหน้าเสริมศักยภาพธุรกิจค้าปลีกไทยเปิดโซนใหม่ Shop & Retail Thailand ครั้งแรก พร้อมดึงบริษัทชั้นนำไทยและนานาชาติร่วมจัดแสดงเทคโนโลยีอุปกรณ์และโซลูชั่นการบริหารจัดงานธุรกิจค้าปลีกที่ครบวงจรที่สุดของภูมิภาค
นางสาวสุภาภรณ์ อังศรีสุรพร ผู้จัดการฝ่ายบริหารโครงการอาวุโส อินฟอร์มา มาร์เก็ตส์ ประเทศไทย ผู้จัดงาน Food & Hospitality Thailand 2023 กล่าวถึงทิศทางของธุรกิจค้าปลีก ร้านค้า ร้านอาหารและธุรกิจบริการว่า ยังมีแนวโน้มดีจากหลายปัจจัยบวกทั้งการเริ่มเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นปลายปี การฟื้นตัวของการท่องเที่ยว และการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่คาดว่าจะมีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายรายการ โดยธุรกิจกลุ่มบริการด้านอาหาร-เครื่องดื่ม คาดว่าจะมูลค่าตลาดอยู่ที่ประมาณ 4.25 แสนล้านบาท (ไม่รวมธุรกิจผับและบาร์) ซึ่งข้อมูลจากศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (SCB EIC) มองไปในทิศทางเดียวกันว่าธุรกิจค้าปลีกปี 2566 น่าจะเติบโตได้ประมาณ 10% หรือคิดเป็นมูลค่าประมาณ 3.7 ล้านล้านบาท แต่อย่างไรก็ตาม ยังต้องเฝ้าระวังปัจจัยลบไม่ว่าจะเป็นต้นทุนธุรกิจที่สูงขึ้น อัตราเงินเฟ้อ และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้นจนอาดส่งผลกระทบต่อธุรกิจและการใช้จ่ายของประชาชนได้
แม้จะมีสัญญาณการเติบโตที่ดี แต่การแข่งขันในธุรกิจค้าปลีกก็มีความรุนแรงทั้งจากธุรกิจค้าปลีกรายใหญ่ ร้านสะดวกซื้อ ร้านแบรนด์ดัง และร้านค้าออนไลน์ ดังนั้น เครื่องมือและอุปกรณ์ที่มีเทคโนโลยีทันสมัย จึงมีความจำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจค้าปลีกและร้านค้าสมัยใหม่ เพราะสามารถเป็นทั้งอุปกรณ์อำนวยความสะดวกรวดเร็วในการชำระเงิน การคำนวณและเก็บข้อมูลการขาย บันทึกค่าใช้จ่าย นับสต๊อกสินค้า เก็บข้อมูลลูกค้า ระบบสมัครสมาชิก ตรวจสอบยอดขายและรายงานยอดขาย ฯลฯ ซึ่งอุปกรณ์และเทคโนโลยีเหล่านี้นอกจากจะช่วยธุรกรรมหน้าร้านแล้ว ยังนำข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์ วางแผนในการดำเนินธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ดังนั้น เพื่อเสริมศักยภาพพัฒนาผู้ประกอบการในทุกกลุ่มธุรกิจค้าปลีก ให้เข้าถึงเทคโนโลยี เครื่องมือ และอุปกรณ์ในการดำเนินธุรกิจจากบริษัทผู้ผลิตและให้บริการโซลูชั่นต่างๆ ชั้นนำของโลก งาน Food & Hospitality Thailand 2023 ในครั้งนี้ จึงเปิดโซนธุรกิจร้านค้าและค้าปลีก (Shop & Retail Thailand : SRT) โดยเป็นโซนงานใหม่ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรก การจัดแสดงภายในโซนนี้จะมีทั้งอุปกรณ์และเครื่องอำนวยความสะดวกด้านการขายและบริการ เครื่องพิมพ์ใบเสร็จ เครื่องคิดเงิน เครื่องและระบบรับออร์เดอร์ จอ Touch Screen โปรแกรม ซอฟต์แวร์ และโซลูชั่นบริหารจัดการร้าน ฯลฯ พร้อมทั้งกิจกรรมสัมมนาและการบรรยายแบบเจาะลึกของธุรกิจค้าปลีกเพื่อให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการและผู้สนใจ อาทิ สัมมนาหัวข้อ ติดอาวุธ เตรียมความพร้อม รับมือ การค้ายุค Post Modern Trade สงครามค้าปลีกค้าส่งรูปแบบใหม่ของโลก และพื้นที่จัดแสดง Future Hospitality Showcase จึงอยากเชิญให้ผู้ประกอบการและผู้สนใจเข้าร่วมเยี่ยมชมโซนจัดงานใหม่ครั้งนี้
ด้าน นางสาวอภิรดา พัวพรพงษ์ หัวหน้ากลุ่มธุรกิจผลิตภัณฑ์จอภาพ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ตลาด Shop & Retail มีการแข่งขันกันสูง สถานการณ์โควิดทำให้เทรนด์ธุรกิจการบริการเปลี่ยนเป็น Self service มากขึ้น ใช้อุปกรณ์มือถือและแทปเลตในการให้บริการเพื่อลดการสัมผัสระหว่างบุคคล ด้านการสื่อสารกับลูกค้านั้น เลือกใช้จอ Signage เป็นเครื่องมือเพิ่มขึ้น ทั้งในการสร้างภาพลักษณ์ ให้ข้อมูลผลิตภัณฑ์และกิจกรรมส่งเสริมการขาย
ผลิตภัณฑ์จอภาพและอุปกรณ์สื่อสารของซัมซุง นอกจากจะมีคุณสมบัติในการแสดงผลและช่วยในการสื่อสารแล้ว ยังช่วยให้ธุรกิจบริหารการสื่อสารได้ง่ายขึ้น ด้วยโซลูชั่นการบริหารงาน Content ที่สะดวก เพิ่มเติม แก้ไข ปรับเปลี่ยนข้อมูลเพื่อนำเสนอแก่ลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โดยผลิตภัณฑ์ของซัมซุนในกลุ่มจอ Signage แบ่งเป็นสองกลุ่มหลัก คือ 1. จอ Signage ซึ่งมีหลายขนาดตั้งแต่ 13 นิ้ว จนถึง 98 นิ้ว ที่มีความสว่างแตกต่างกันทำให้ตอบโจทย์แก่ทุกธุรกิจ สามารถใช้ได้ทั้งภายในและภายนอกอาคาร 2. จอ LED Technology นั้นเหมาะกับธุรกิจร้านค้าที่ต้องการจอขนาดใหญ่ ซึ่งลูกค้าหลักของซัมซุงสำหรับผลิตภัฑณ์กลุ่มนี้เป็นกลุ่มธุรกิจค้าปลีก (Retail) ที่มีสาขาเยอะ ต้องการการบริหารและโซลูชั่นการจัดการอย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนการร่วมงาน Food & Hospitality Thailand 2023 ครั้งนี้ จะเน้นการจัดแสดงโซลูชั่นและเทคโนโลยีของผลิตภัณฑ์ที่เพิ่มความสามารถการแข่งขันให้แก่ธุรกิจของกลุ่มโรงแรมและค้าปลีกได้ เช่น สินค้าในกลุ่มจอภาพสำหรับธุรกิจโรงแรม (Hospitality TV) และธุรกิจค้าปลีก ทั้ง LFD Signage และ LED technology สินค้ากลุ่มเครื่องปรับอากาศชนิดฝังฝ้า ซึ่งมี 360 cassette และเครื่องปรับอากาศชนิดฝังฝ้าที่มาพร้อมเทคโนโลยี WindFree™, WindFree™ 1Way Cassette, WindFree™ 4 Way Cassette รวมถึงสินค้ากลุ่มอุปกรณ์สื่อสาร Samsung Galaxy Rugged Series ซึ่งคาดว่าจะได้รับความสนใจจากผู้ประกอบการจำนวนมาก
นายทวีพล โสภณพันธุ์ชื่น ผู้จัดการฝ่ายการตลาดและพัฒนาธุรกิจ บริษัท บีเอสซี อินเตอร์เนชั่นแนล เทคโนโลยี จำกัด กล่าวว่า ระบบการบริหารจัดการธุรกิจโรงแรม ร้านอาหาร และธุรกิจค้าปลีกปรับตัวไปอย่างมาก โดยระบบขายหน้าร้าน หรือ POS (Point of sale system) เป็นสิ่งจำเป็น ระบบ POS ที่มีประสิทธิภาพต้องใช้งานได้จริง คล่องตัว ถูกต้องแม่นยำ และเหมาะกับธุรกิจแต่ละประเภท โดยบริษัทฯ มีความเชี่ยวชาญทั้งการพัฒนาซอฟต์แวร์และได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้ให้บริการและจัดจำหน่ายอุปกรณ์จากแบรนด์ชั้นนำ อาทิ POSBANK P2C Xprinter จากหลายประเทศ เช่น อเมริกา ไต้หวัน เกาหลีใต้ และ จีน สำหรับทิศทางการพัฒนาระบบ POS นั้น มีในหลายรูปแบบ ระบบ Mobile POS เหมาะกับร้านค้า SME ที่มีข้อมูลไม่มาก สามารถหาโหลดได้ฟรีหรือมีราคาถูก ต่างจากระบบ Windows POS ที่มีความเสถียรและฟังก์ชันที่ครบกว่า ตอบสนองความต้องการผู้ใช้งานและมีประสิทธิภาพดีกว่า ซึ่งร้านค้าและแบรนด์ชั้นนำส่วนใหญ่จะเลือกใช้งานระบบนี้
ส่วนการเติบโตของตลาดนั้น หลังโควิดธุรกิจร้านค้า ร้านอาหาร โรงแรม ธุรกิจเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ เป็นกลุ่มที่เติบโตสูง โดยกลุ่มอาหารและเครื่องดื่มเติบโตกว่า 300% มูลค่าตลาดรวมสูงกว่า 40,000 ล้าน ส่งผลให้ตลาดของ POS เติบโตตามไปด้วย โดยกลุ่มลูกค้าของบริษัทฯ เป็นกลุ่มที่ต้องการระบบ POS ที่มีฟังก์ชันการใช้งานที่มีประสิทธิภาพและการออกแบบเครื่องที่แตกต่างจากเครื่อง POS เดิม อาทิ KAMU, Dakasi, S&P, BlackCanyon, iBerry, WhiteStory, ชาบูอู๊ดเป็นต่อ เป็นต้น สำหรับการร่วมจัดแสดงงาน Food & Hospitality Thailand 2023 ครั้งนี้ ทางบริษัทฯ จะมีการนำผลิตภัณฑ์ใหม่ POSBANK และ P2C ที่ผลิตและออกแบบจากประเทศเกาหลี 3 รุ่น มาร่วมเปิดตัวครั้งแรก พร้อมโปรโมชั่นและของชำร่วยพิเศษสำหรับผู้แวะชมสินค้าและทดสอบผลิตภัณฑ์อีกด้วย
งาน Food & Hospitality Thailand 2023 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-26 สิงหาคม 2566 ณ ฮอลล์ 1-3 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ผู้สนใจรายละเอียดการจัดงานฯ สามารถติดตามข้อมูลได้ที่ www.fhtevent.com
