วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
Home > PR News > ผู้ถือหน่วยกองทรัสต์ WHART ไฟเขียวเพิ่มทุนครั้งที่ 8 

ผู้ถือหน่วยกองทรัสต์ WHART ไฟเขียวเพิ่มทุนครั้งที่ 8 

ผู้ถือหน่วยกองทรัสต์ WHART ไฟเขียวเพิ่มทุนครั้งที่ 8 จ่อลงทุนทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 9 มูลค่าไม่เกิน 3,616 ล้านบาท

ผู้ถือหน่วยไฟเขียวให้กองทรัสต์ WHART เพิ่มทุนครั้งที่ 8 จำนวนไม่เกิน 280 ล้านหน่วย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 9 โดยจะเข้าลงทุนในทรัพย์สินประเภทคลังสินค้าจากกลุ่มดับบลิวเอชเอ จำนวน 3 โครงการ มูลค่าไม่เกิน 3,567 ล้านบาท และทรัพย์สินประเภทพื้นที่เก็บของให้เช่า จำนวน 1 โครงการ มูลค่าไม่เกิน 49 ล้านบาท ตอกย้ำการขยายอาณาจักรกองทรัสต์ด้านโลจิสติกส์ สู่การเป็นผู้นำกองทรัสต์ Industrial ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ที่มีมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ฯ แตะ 55,000 ล้านบาท และมีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็น 1.89 ล้านตารางเมตร

นายอนุวัฒน์ จารุกรสกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ เรียล เอสเตท แมเนจเม้นท์ จำกัด ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์ของทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าดับบลิวเอชเอ พรีเมี่ยม โกรท (กองทรัสต์ WHART) เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้ถือหน่วยได้มีมติอนุมัติการเพิ่มทุนของกองทรัสต์ WHART ครั้งที่ 8 โดยการออกและเสนอขายหน่วยทรัสต์เพิ่มเติม จำนวนไม่เกิน 280 ล้านหน่วย เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเงินลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมครั้งที่ 9 มูลค่า ไม่เกิน 3,616 ล้านบาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวข้อง) โดยทรัพย์สินที่กองทรัสต์ WHART จะลงทุนเพิ่มเติมประเภทคลังสินค้า จำนวน 3 โครงการ ได้แก่

1) โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ เทพารักษ์ กม. 21

2) โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ แหลมฉบัง โปรเจค 1

3) โครงการดับบลิวเอชเอ เมกกะ โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ บางนา-ตราด กม.23 โปรเจค 3 จากทรัพย์สินของกลุ่มบริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (“WHA”) โดยมีพื้นที่เช่าอาคารประเภทคลังสินค้าทั้งหมด ประมาณ 142,583.00 ตารางเมตร และพื้นที่เช่าส่วนหลังคาของอาคารคลังสินค้าทั้งหมด 36,466.00 ตารางเมตร

“ทรัพย์สินทั้ง 3 โครงการที่กองทรัสต์จะทำการเข้าลงทุนในปีนี้ ถือเป็นโครงการที่มีคุณภาพ ไม่ว่าจะเป็นในด้านทำเล โดยทั้ง 3 โครงการอยู่ในทำเลอย่างบางนา-ตราดและพื้นที่ EEC ซึ่งเป็นทำเลสำคัญของระบบโลจิสติกส์และการผลิต นอกจากนี้ยังจะได้ผู้เช่าในกลุ่มธุรกิจที่มีความมั่นคงและเติบโตอย่างกลุ่มผู้ให้บริการด้านโลจิสติกส์ (Third Party Logistics) และกลุ่มผู้ผลิต (Manufacturer) อีกทั้งยังจะมีอาคารที่ได้รับการรับรองเป็นอาคารสีเขียวจาก LEED ด้วย Gold Level อีกด้วย ซึ่งเป็นหัวข้อที่กองทรัสต์เองได้ให้ความสำคัญมาอย่างต่อเนื่อง”

นอกจากนี้ ที่ประชุมผู้ถือหน่วยมีมติอนุมัติให้ กองทรัสต์ WHART ลงทุนเพิ่มเติมในสินทรัพย์ประเภทพื้นที่เก็บของให้เช่า (Self-storage) ได้แก่ โครงการไอ สโตร์เซลฟ์ สตอเรจ สาขาสุขุมวิท 71 ซึ่งถือเป็นการลงทุนในทรัพย์สินอื่นที่ไม่ใช่คลังสินค้าและโรงงานเป็นครั้งแรก โครงการนี้ถือเป็นอีกหนึ่งโครงการที่มีศักยภาพ ตั้งอยู่ในบริเวณถนนสุขุมวิท 71 มีการเข้าถึงการคมนาคมที่สะดวกโดยตั้งอยู่ใกล้รถไฟฟ้าและทางด่วน นอกจากนี้โครงการนี้ยังตั้งอยู่ในทำเลรายล้อมไปด้วยชาวต่างชาติและจำนวนคอนโดมิเนียมมากกว่า 6,000 ยูนิต รวมถึงโรงเรียนนานาชาติ Community Mall และสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อีก ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายการใช้งานพื้นที่เก็บของให้เช่า

โครงการไอ สโตร์เซลฟ์ สตอเรจ สาขาสุขุมวิท 71 นี้ มีพื้นที่อาคารรวม 1,831.00 ตารางเมตร โดยมีพื้นที่เช่าที่เป็นอาคารประเภทพื้นที่เก็บของให้เช่า ประมาณ 816.07 ตารางเมตร กองทรัสต์เองจะรับสัญญาเช่าจากผู้เช่าได้แก่ Storage Asia เป็นระยะเวลานานถึงประมาณ 22 ปี 6 เดือน จะทำให้กองทรัสต์มีความมั่นคงทางรายได้ในระยะยาว ภายหลังการเข้าลงทุนจะทำให้กองทรัสต์ WHART ถือครองทรัพย์สินที่หลากหลาย เพิ่มการกระจายความเสี่ยงในทรัพย์สินที่ลงทุน สอดคล้องกับนโยบายหลักของกองทรัสต์ได้เป็นอย่างดี

ภายหลังการลงทุนเพิ่มเติมในทรัพย์สินหลักในครั้งนี้ จะส่งผลให้ WHART มีมูลค่าทรัพย์สินรวมของกองทรัสต์ แตะที่ระดับกว่าประมาณ 55,000 ล้านบาท มีพื้นที่เช่าภายใต้การบริหารเพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 1,887,382.87 ตารางเมตร พื้นที่เช่าหลังคา 487,243.29 ตารางเมตร ซึ่งเป็นอาคารคลังสินค้า ศูนย์กระจายสินค้า อาคารโรงงาน และอาคารพื้นที่เก็บของให้เช่าที่พัฒนาขึ้นตามความต้องการของลูกค้า (Built-to-Suit) และแบบสำเร็จรูป (General Warehouse) ที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าทั้งชาวไทย และต่างชาติ ดังนั้นการลงทุนเพิ่มเติมในครั้งนี้ จะสร้างมูลค่าเพิ่มในส่วนของรายได้ค่าเช่า ภาพรวมผลประกอบการของกองทรัสต์ WHART รวมถึงคาดการณ์ประโยชน์ตอบแทนแก่ผู้ถือหน่วยให้เติบโตอย่างมั่นคง และยิ่งเป็นการตอกย้ำให้เห็นถึงการขยายอาณาจักรกองทรัสต์ด้านโลจิสติกส์สู่การเป็นผู้นำกองทรัสต์ Industrial ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย โดยกองทรัสต์ WHART ได้ยื่นไฟลิ่งในการเพิ่มทุน ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เมื่อวันที่ 27 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมาเป็นที่เรียบร้อยแล้ว