วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
Home > New&Trend > สมพัฒน์ ทฤษฎิคุณ ครีเอทีฟระดับตำนานของ ลีโอ เบอร์เนทท์ ประเทศไทย เตรียมลาวงการ ทิ้งรอยเท้าไว้ให้ครีเอทีฟรุ่นหลังเดินตาม     

สมพัฒน์ ทฤษฎิคุณ ครีเอทีฟระดับตำนานของ ลีโอ เบอร์เนทท์ ประเทศไทย เตรียมลาวงการ ทิ้งรอยเท้าไว้ให้ครีเอทีฟรุ่นหลังเดินตาม     

สมพัฒน์ ทฤษฎิคุณ ครีเอทีฟระดับตำนานของ ลีโอ เบอร์เนทท์ ประเทศไทย  หนึ่งในเอเจนซี่เครือ ปับลิซิส กรุ๊ป เตรียมลาวงการ ทิ้งรอยเท้าไว้ให้ครีเอทีฟรุ่นหลังเดินตาม     

ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างสรรค์ สมพัฒน์ ทฤษฎิคุณ หรือพี่เข้ สิงโตรุ่นเก๋าและครีเอทีฟมือรางวัลผู้เป็นเสมือนตำนานประจำเครือเอเจนซี่แถวหน้าของประเทศอย่าง ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย กับความสำเร็จมากมายที่ทิ้งเป็นตัวอย่างและบทเรียนให้กับครีเอทีฟรุ่นหลัง เตรียมตัวเกษียณ ลาวงการหลังจากที่อยู่กับ ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทยมาถึง 20 ปี

กับเดือนสุดท้ายในชีวิตการทำงานที่ ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย คุณสมพัฒน์ ทฤษฎิคุณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างสรรค์  ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “ผมถือว่าเป็นเกียรติอย่างมากที่ผมสามารถพูดได้ว่าผมโตมาอย่างคนเบอร์เนทท์ ตลอดเวลา 20 ปีที่ได้ทำงานมาที่แห่งนี้ได้ดูแลผมอย่างดี ให้อิสระในการสร้างงานดีๆ หลายชิ้น ให้โอกาสผมได้เดินทางพบปะและเชื่อมต่อกับครีเอทีฟต่างชาติต่างภาษามากมายตลอดช่วงเวลาการทำงานเพื่อแลกเปลี่ยนไอเดีย มุมมองและการใช้ชีวิต และนั่นได้ช่วยหล่อหลอมให้ผมกลายเป็นครีเอทีฟที่มีมุมมองที่แตกต่าง ทำให้ผมได้เติบโตไปพร้อมกับครีเอทีฟรุ่นใหม่ๆ มากมาย ต้องขอบคุณ ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย โดยเฉพาะ ลีโอ เบอร์เนทท์ ประเทศไทย ที่ได้ให้การสนับสนุนผมมาตลอดการทำงาน มาถึงวันนี้ขอให้กำลังใจ ครีเอทีฟรุ่นใหม่ที่กำลังจะขึ้นมาว่า ขอให้เชื่อในพลังของความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหน หรือโลกจะผันเปลี่ยนไปแค่ไหนก็ตาม อย่าหยุดคิดที่จะสร้างผลงานที่แตกต่าง ขอให้สนุกกับเทคโนโลยีใหม่ ๆ ซึ่งผมเชื่อว่าครีเอทีฟรุ่นใหม่จะสามารถใช้ประโยชน์จากนวัตกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น AI หรือ ChatGPT และทำให้มันไปไกลและน่าสนใจกว่าเดิม”

คุณสมพัฒน์ ทฤษฎิคุณ หรือเข้ เริ่มงานที่ ลีโอ เบอร์เนทท์ ประเทศไทยในปี 2003 โดยในเวลานั้นได้ดำรงตำแหน่งเป็น Creative Director ในเวลาต่อมา ได้ก้าวขึ้นเป็น Executive Creative Director ในปี 2008 และตำแหน่งล่าสุดคือประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายสร้างสรรค์เอเจนซี่ในเครือปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย ซึ่งที่ผ่านมา เขาได้มีผลงานที่โดดเด่นโดนใจผู้บริโภค และเป็นที่รู้จักมากมาย อาทิ งาน Barriercycle, Railcycle, Polecycle” ของ Clima Bicycle Lock ซึ่งเป็นแคมเปญที่คว้ารางวัล Most Awarded Print Campaign ประจำปีพ.ศ. 2550 จาก The Gunn Report ในปีนั้น โดยคว้ารางวัลไปมากถึงกว่า 40 รางวัลจากเวทีประกวดโฆษณาทั่วโลก งาน Panyee FC ที่โด่งดังของทีเอ็มบีในปีพ.ศ. 2554-2555 ที่พูดถึงสนามฟุตบอลลอยน้ำและทีมลูกหนังปันหยีเอฟซี ซึ่งคว้ารางวัลจากทั่วโลกมาได้ถึงกว่า 20 รางวัล งาน Hair For Hope เส้นผมแห่งความหวังของโรงพยาบาลจุฬาภรณ์ ในปีพ.ศ. 2555 ซึ่งเป็นผลงานศิลปะจากเส้นผมของผู้ป่วยโรคมะเร็ง งาน I Hate Thailand ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ในปีพ.ศ. 2558 ไวรัลวีดีโอที่โด่งดังไปทั่วโลก พูดถึงการเชิญชวนให้คนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดีในการต้อนรับนักท่องเที่ยว ที่สามารถคว้ารางวัลมาได้ถึง 16 รางวัล และล่าสุดงาน Metaverrrrrrr ของกรุงศรีเฟิร์สช้อยส์ ในปีพ.ศ. 2565 ที่มาเล่าถึงความสนุกสนานของชีวิตที่ปรับเปลี่ยนได้อย่างรวดเร็วทันใจคนรุ่นใหม่ ที่คว้ามาได้ถึง 8 รางวัล

ความโดดเด่นของผลงานที่คุณสมพัฒน์ได้สร้างขึ้นนั้นไม่ได้เป็นที่รู้จักแค่ในประเทศเท่านั้น แต่ยังเป็นที่รู้จักท่ามกลางหมู่ครีเอทีฟและนักโฆษณาทั่วโลกอีกด้วย โดยที่ผ่านมา เขาได้รับเชิญให้ไปเป็นกรรมการตัดสินงานประกวดรางวัลโฆษณาใหญ่ๆ ระดับภูมิภาคและระดับโลกมาแล้วมากมาย อาทิ ADFEST ที่ประเทศไทย Spikes Asia ที่ประเทศสิงคโปร์ และงาน Cannes Lions ที่ประเทศฝรั่งเศส

นอกจากจะมีผลงานเป็นที่โดดเด่นแล้ว ตลอดระยะเวลาที่ได้ทำงานอยู่ที่ ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย คุณสมพัฒน์ยังทำหน้าที่เป็นเสมือนครูที่คอยปั้นคอยสอนครีเอทีฟรุ่นใหม่ให้ได้มีความเข้าใจ เพื่อให้ได้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความก้าวหน้าในอาชีพอีกด้วย โดยในปัจจุบัน มีครีเอทีฟแถวหน้ามากมายที่ล้วนแล้วแต่ผ่านการทำงานมากับคุณสมพัฒน์แล้วทั้งสิ้น

ในส่วนของ นายภารุจ ดาวราย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย กล่าวว่า “คุณสมพัฒน์คือครีเอทีฟผู้เป็นเสมือนตำนาน ทั้งสร้างชื่อเสียงและมีคุณูปการให้กับปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทยมาอย่างยาวนาน ตลอดระยะเวลาที่คุณสมพัฒน์อยู่ที่ ปับลิซิส กรุ๊ป ประเทศไทย เขาได้มีผลงานที่โดดเด่นมากมาย อีกทั้งยังได้แสดงตนเป็นแบบอย่างที่ดีให้กับรุ่นน้อง ครีเอทีฟและเพื่อนร่วมงานตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคิดงานหรือจริยธรรมในการทำงาน ซึ่งเรื่องจริยธรรมในการทำงานนั้นมีความสำคัญไม่แพ้การคิดงานเลยทีเดียว ทางกรุ๊ปต้องขอขอบคุณพลังสร้างสรรค์ของคุณสมพัฒน์ที่มีมาตลอดระยะเวลาการทำงาน ผมเชื่อว่าพลังสร้างสรรค์อันมากมายเหล่านี้จะถูกถ่ายทอดส่งต่อไปให้กับครีเอทีฟรุ่นต่อๆ ไปอย่างแน่นอน”