WorkVenture ที่ปรึกษาและผู้นำด้านการสร้างแบรนด์นายจ้างให้แก่องค์กรชั้นนำในไทยและผู้ให้บริการแพลตฟอร์มค้นหางานที่หลายคนรู้จัก ได้ทำแบบสำรวจความคิดเห็นเกี่ยวกับองค์ที่คนรุ่นใหม่ลงความเห็นว่า “เป็นองค์กรที่น่าร่วมงานด้วยมากที่สุดในปี 2022” ด้วยสถานการณ์ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นถือเป็นความท้าทายของหลายองค์กรอย่างมากที่ต้องรับมือ จัดการ ปรับตัวให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การทำงานในปัจจุบัน แทบทุกองค์กรต้องปรับรูปแบบการทำงาน Work From Home สลับกับการเข้าออฟฟิศ ในขณะเดียวกันก็ยังคงต้องรักษามาตราฐานในการทำงานพื่อให้บรรลุเป้าหมายทางธุรกิขององค์กร รวมถึงการรักษาพนักงานให้อยู่กับองค์กรให้ได้ เพราะโจทย์ใหญ่อีกโจทย์หนึ่งที่องค์กรได้รับนั่นก็คือปัญหาภาวะหมดไฟของคนทำงานจจากความกดดันต่าง ๆ ในช่วงนี้ ที่ทำให้เกิดการลาออกครั้งใหญ่ของพนักงานเพื่อแสวงหาองค์กรที่ตอบโจทย์การใช้ชีวิตมากขึ้น
ทางทีม WorkVenture ได้รวบรวมข้อมูลจากทั้งกลุ่มนักศึกษาและหนุ่มสาววัยทำงาน ช่วงอายุระหว่าง 21-35 ปี จำนวนกว่า 10,000 คน ผ่านการทำผลสำรวจแบบออนไลน์ พบว่าปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลือกองค์กรยังคงมีอิทธิพลจากปัจจัยหลัก อย่างผลตอบแทน/เงินเดือน สวัสดิการ วัฒนธรรมองค์กรหรือไลฟ์สไตล์ในที่ทำงานตามลำดับ ส่วนปัจจัยที่คนรุ่นใหม่ให้ความสนใจเป็นพิเศษคือเรื่อง “อิสระในการทำงาน” ทำให้บริษัทที่มีนโยบายการทำงานรูปแบบไฮบริดกลายเป็นทางเลือกอันดับต้น ๆ
หากมองในด้านกลุ่มธุรกิจพบว่ากลุ่มทางด้านเทคโนโลยีได้รับความสนใจมากที่สุดในปีนี้ รองลงมาจะเป็นกลุ่มเครื่องอุปโภคบริโภคที่ผู้คนต้องใช้ทุกวัน ด้วยเหตุผลเรื่องความเติบโตของบริษัทและโอกาสเติบโตในสายงาน และกลุ่มบริษัทขนาดใหญ่ที่เป็นผู้นำในวงการเพราะมีความมั่นคงท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ นอกจากนี้สื่อโซเชียลมีเดียยังทำให้ผู้คนรู้จักกับบริษัทมากขึ้น ยิ่งเป็นบริษัทที่มีผู้ติดตามมากอย่างสายบันเทิงก็ยิ่งเป็นที่น่าสนใจในหมู่คนรุ่นใหม่ เพราะได้เห็นภาพว่าการทำงานที่นั่นเป็นเช่นไร และนี่คือ 50 องค์กรชั้นนำที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดในปี 2022
อันดับ 1 | Google : กูเกิล ประเทศไทย
ครองแชมป์อันดับ 1 สองปีซ้อน สำหรับ “กูเกิล” ผู้ให้บริการข้อมูลในแทบจะทุกมิติที่เกี่ยวข้องกับการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลกในปัจจุบัน การทำงานที่กูเกิลขึ้นชื่อเรื่องสวัสดิการ บรรยากาศในการทำงาน ชื่อเสียงความเก่งกาจของทีม ทำให้คนอยากเข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งเพื่อพัฒนาและยกระดับการทำงานของตัวเองให้ดียิ่งขึ้น จึงทำให้เหล่าคนทำงานร่วมใจกันโหวตให้เป็นองค์กรอันดับหนึ่งในฝันของคนรุ่นใหม่ไปอย่างไร้ข้อกังขา
อันดับ 2 | PTT : ปตท.
ธุรกิจน้ำมันและก๊าซธรรมชาติสัญชาติไทยที่มีชื่อเสียงด้านการทำงานที่สั่งสมประสบการณ์และความน่าเชื่อถือมาอย่างยาวนาน สอดคล้องกับความสนใจของคนรุ่นใหม่ที่ต้องการทำงานในบริษัทที่มีความมั่นคงและมีโอกาสเติบโตในสายงานได้อีกมาก กลุ่ม ปตท. ยังเป็นศูนย์รวมผู้มีความสามารถสูงจากทั่วประเทศไทยมารวมกันที่นี่ ทำให้พนักงานสามารถพัฒนาตัวเองได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้กลุ่ม ปตท. ยังมีผลการดำเนินงานที่ดีอย่างต่อเนื่องทุกปี และดูแลพนักงานเป็นเลิศผ่านสวัสดิการดี ๆ มากมายที่พร้อมมอบโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้แสดงความคิดเห็นและแลกเปลี่ยนไอเดียกันได้อย่างอิสระ สามารถนั่งในอันดับ2 ได้อย่างสมความเป็น ปตท.
อันดับ 3 | Shopee: ช้อปปี้
หนึ่งในแพลตฟอร์ม Online Shopping ที่มีผู้ใช้งานมากที่สุดและตอบโจทย์พฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป โดยการทำงานที่ช้อปปี้จะเน้นเรื่องการทำงานเป็นทีมสนุกสนานและการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย ที่มาพร้อมสวัสดิการ บรรยากาศ สิ่งอำนวยความสะดวก เพื่อให้พนักงานรู้สึกสบายในการทำงานมากที่สุด แต่ถึงอย่างไรนั้นช่วงที่ผ่านมาช้อปปี้ก็เปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำงานอยู่บ้านเพื่อลดความเสี่ยงจากการออกนอกบ้านอีกด้วย
อันดับ 4 | Apple : แอปเปิ้ล
หล่นลงมาจากปีที่แล้วเพียง 1 อันดับ แต่ยังคงความฮือฮาในความน่าร่วมงานอยู่ตลอดอย่าง “แอปเปิ้ล” ที่ไม่ว่าจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์อะไรจะต้องมีเหล่าคนเลิฟเทคโนโลยีมากมายจากทั่วโลกต่อคิวยาวตั้งแต่เช้ามืด ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จก็คือเหล่าพนักงานของแอปเปิ้ลที่ได้คอยช่วยกันสร้างสรรค์ไอเดียใหม่ ๆ และทำให้ไอเดียเหล่านั้นกลายเป็นจริง นอกจากนี้แอปเปิ้ลยังปรับเปลี่ยนรูปแบบการทำงานให้พนักงานเข้ามาทำงานเพียง 3 วันต่อสัปดาห์เท่านั้น นั่นก็คือวันจันทร์ วันอังคารและวันพฤหัสบดี ส่วนในวันพุธและ วันศุกร์ นั้นก็ยังสามารถทำงานอยู่บ้านได้ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับตำแหน่งงานด้วยนะ
อันดับ 5 | LINE: ไลน์
ถึงแม้ว่าจะถูกแซงทำให้หล่นลงจากอันดับ 2 จากปีที่แล้ว แต่ไลน์ แอปพลิเคชั่นที่เชื่อมผู้คนให้สนิทกันยิ่ง กว่าเดิมก็ยังเป็นบริษัทที่เป็น Top of Mind ของใครหลาย ๆ คน ด้วยชื่อเสียงเรื่องการดูแลพนักงานให้มีความสนิทกัน การออกแบบไลฟ์สไตล์การทำงานที่เปิดโอกาสให้เกิดความคิดสร้างสรรค์และการสร้างกิจกรรม ที่สนุกสนานเพื่อกระชับความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน สำหรับจุดเด่นของไลน์ในปีนี้คือเรื่องของความสามารถในการปรับตัวทางด้านเทคโนโลยีเพราะไลน์มีเทคโนโลยีที่สามารถสนับสนุนให้การทำงานยืดหยุ่นได้อย่างไม่มีปัญหา ทำให้พนักงานสามารถทำงานที่บ้านได้และยังมอบสวัสดิการด้านสุขภาพสุดคูลอย่างแพทย์และจิตแพทย์ สำหรับปรึกษาส่วนตัวที่จะช่วยให้พนักงานลดความกังวลในช่วงที่ต้องห่างไกลเพื่อน ๆ ที่ทำงาน เรียกได้ว่าเอาใจใส่พนักงาน สุด ๆ ไปเลย
อันดับ 6 | SCG: ปูนซีเมนต์ไทย
อีกหนึ่งองค์กรขนาดใหญ่ที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในประเทศไทยอย่าง SCG ได้ก้าวขึ้นมาจากอันดับที่ 14 เนื่องด้วยธุรกิจของ SCG อย่างเช่น ผลิตภัณฑ์ก่อสร้าง กระดาษ โลหะ เครื่องจักรกล อีกทั้งอุตสาหกรรมปิโตรเคมียังคงแข็งแกร่งและเติบโตอย่างมาก และยังได้ขยายธุรกิจออกไปครอบคลุมหลายอย่าง แต่ในส่วนของการดูแลพนักงานก็ยังคงดีเช่นเดิม โดยในช่วงนี้ SCG กระตุ้นเรื่ององค์กรนวัตกรรมอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่การปรับตัวมาใช้เทคโนโลยีในการทำงานมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเพราะการทำงานอยู่บ้านหรือเป็นเพราะใช้สำหรับวิเคราะห์ข้อมูลต่างๆ เพื่อประสิทธิภาพของบริษัท ด้วยศักยภาพต่าง ๆ ทำให้ภาพการทำงานของ SCG ยังคงติดอยู่ในใจของคนทำงาน แถมปีนี้ได้เพิ่ม Hybrid Workplace Work ที่ผสมผสานรูปแบบการทำงานที่ยืดหยุ่น โดยไม่ต้องเข้าสำนักงานตลอดอีกด้วย
อันดับ 7 | ThaiBev : ไทยเบฟ
ยังคงรักษาคุณภาพของการดูแลพนักงานได้อย่างยอดเยี่ยมเหมือนเดิม ทำให้ปีนี้ “ไทยเบฟ” สามารถครองอันดับไว้ได้อย่างเหนียวแน่น ก็เป็นเพราะการดูแลพนักงานเป็นอย่างดีจากนโยบายที่ใส่ใจความปลอดภัยของพนักงาน ทั้งการจัดตั้งศูนย์ตรวจ COVID-19 ภายในบริษัทและยังมีชุดตรวจ ATK ให้เมื่อพนักงานกลับมาทำงานที่บริษัท ในส่วนของเรื่องการทำงานไทยเบฟมุ่งมั่นให้พนักงานทำงานโดยเน้นใช้เทคโนโลยีมากขึ้นและทำงานแบบเป็น project-based เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในการทำงานกับคนเก่ง ๆ มากขึ้น และได้โอกาสแสดงความสามารถภายใต้นโยบาย Limitless Opportunity โอกาสที่ไร้ขีดจำกัดในการเติบโตไปกับไทยเบฟ จนพนักงานเกิดความรักต่อบริษัททำให้บริษัทมีค่าเฉลี่ยอัตราการลาออกของพนักงานต่ำและยังติดอยู่ในใจคนทำงานรุ่นใหม่
อันดับ 8 | Agoda : อโกด้า
ถึงแม้ธุรกิจการท่องเที่ยวและการโรงแรมอาจจะซบเซาลงไปบ้างในปีที่ผ่านมา ทำให้เหล่าคนทำงานรุ่นใหม่หันไปโฟกัสอุตสาหกรรมอื่นมากกว่า แต่สำหรับอโกด้ายังคงเป็นองค์กรที่ท้าทาย โดยเฉพาะสำหรับคนทำงานด้านสายเทคโนโลยี เพราะอโกด้าได้วางตัวเองเป็น Silicon Valley แห่งเอเชียที่เน้นการใช้เทคโนโลยีที่ล้ำสมัย การพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรให้มีความคล่องตัวและปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีได้ทันเวลาพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยอโกด้าได้พัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ขึ้นมามากกว่าการจองโรงแรมอย่างเดียว ไม่ว่าจะเป็น Agoda Special Offers (ASO) การผลักดันการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ที่ให้โรงแรมกลายเป็นจุดท่องเที่ยวเสียเองแทนที่จะเป็นเพียงที่พัก
รวมถึงการร่วมมือกับรัฐบาลหาที่กักตัวให้คนไทยที่ต้องการเดินทางกลับประเทศ
อันดับ 9 | Bitkub : บิทคับ
นับได้ว่าเป็นปีที่ร้อนแรงของบิทคับเป็นอย่างมากทำให้หลายคนพูดถึงการทำงานที่บิทคับ จนสามารถก้าวขึ้นติดชาร์ต Top 10 บริษัทที่คนรุ่นใหม่อยากทำงานด้วยมากที่สุดของปีนี้ โดยบิทคับเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขาย สินทรัพย์ดิจิทัลหรือ Cryptocurrency ที่มีผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จุดเด่นของการทำงานที่บิทคับคือ ออฟฟิศที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อเอาใจคนรุ่นใหม่จริง ๆ ทั้งการเป็นออฟฟิศแบบเปิด มีโต๊ะทำงานร่วมกันโดยไม่มีอะไรมากั้น นอกจากนี้ยังมีสวัสดิการเก๋ ๆ อีก เช่น ห้อง Nap Room สำหรับนอนพัก ห้องตัดผมให้พนักงาน จะได้ไม่ต้องไปรอคิวร้านข้างนอก อีกทั้งยังจัดเตรียมอาหารเช้าและอาหารกลางวัน รวมไปถึงของว่างให้พนักงานและถ้าทำงานจนรู้สึกเมื่อยล้าก็สามารถไปใช้บริการที่ห้องนวดได้อีกด้วย ฟินสุดๆไปเลย
อันดับ 10 | Mitr Phol : กลุ่มมิตรผล
กลุ่มมิตรผลเป็นผู้ส่งออกน้ำตาลรายใหญ่ของโลกที่ได้ใจคนรุ่นใหม่ไปครองเต็ม ๆ จนสามารถอยู่ใน 10 บริษัทแรกที่คนนึกถึงมากที่สุดจนได้ เพราะนอกจากความเป็นเลิศในเรื่องการดูแลพนักงาน บริษัทยังเน้นเรื่องของการสร้างความมั่นคงในอาชีพการงานและเน้นย้ำว่าไม่มีการเลิกจ้าง รวมถึงรับประกันการจ่ายเงินเดือนเต็มจำนวนเพื่อให้พนักงานมั่นใจว่าจะได้รับการดูแล นอกจากนี้ยังทำประกันโควิดและมีมาตรการป้องกันการระบาดในที่ทำงาน พร้อมทั้งมอบโอกาสให้พนักงานได้เรียนรู้ในช่วงที่ต้องทำงานอยู่บ้านผ่านหลักสูตรการเรียนออนไลน์ที่สามารถเรียนเมื่อไหร่ก็ได้ สร้างโอกาสที่ดีที่พนักงานจะได้ใช้เวลาในการพัฒนาตัวเอง สร้างไอเดียและโอกาสใหม่ ๆ เพราะที่มิตรผลมีหลากหลายธุรกิจย่อยมากมายที่พร้อมจะสนับสนุนให้พนักงานเติบโต