วันพฤหัสบดี, พฤศจิกายน 21, 2024
Home > New&Trend > สยามเซ็นเตอร์ ประกาศจุดยืน DiversCity Building ส่งเสริมทุกความต่างอย่างเท่าเทียม

สยามเซ็นเตอร์ ประกาศจุดยืน DiversCity Building ส่งเสริมทุกความต่างอย่างเท่าเทียม

สยามเซ็นเตอร์ ประกาศจุดยืน DiversCity Building ส่งเสริมทุกความต่างอย่างเท่าเทียม ดึงแม็กเน็ตใหม่ตอกย้ำการเป็นเมืองแห่งไอเดียล้ำเทรนด์ พร้อมชู Micro Retail ค้าปลีกโมเดลใหม่เจาะตรงใจคอมมูนิตี้

สยามเซ็นเตอร์ ศูนย์กลางแห่งจินตนาการและงานสร้างสรรค์ไร้ขีดจำกัดในทุกศาสตร์แห่งสุนทรีย์ของ ศิลปะ แฟชั่น เทคโนโลยี และไลฟ์สไตล์ ตอกย้ำการเป็น The Ideaopolis หรือ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ ประกาศความมุ่งมั่นในนโยบายด้านความหลากหลาย ความเท่าเทียม และการมีส่วนร่วม (Diversity , Equality & Inclusion) โดยมีจุดยืนของ สยามเซ็นเตอร์ คือการเป็น DiversCity Building สถานที่ที่เป็นศูนย์รวมคอมมูนิตี้และให้ความสำคัญต่อผู้คนที่มีความหลากหลายในทุกด้าน อาทิ เพศ เชื้อชาติ สุขภาพ อย่างเท่าเทียม พร้อมนำเสนอเทรนด์และประสบการณ์แปลกใหม่ ระดมแม็กเน็ตดึงดูดใจทั้งเหล่านักช้อปชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ ด้วยไฮไลท์ใหม่ล่าสุด สุดเอ็กซ์คลูซีฟในแบบ Absolute Siam

ประกาศจุดยืนเป็น DiversCity Building

นางสาวชนิสา แก้วเรือน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “สยามเซ็นเตอร์ เมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ เป็นเดสติเนชั่นที่คนทั่วโลกให้ความสนใจในฐานะศูนย์การค้าครบวงจรแห่งแรกของประเทศไทยที่นำเสนอความล้ำเทรนด์มาอย่างต่อเนื่องกว่า 47ปี เป็นศูนย์กลางแห่งแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ที่สร้างสีสันและแรงบันดาลใจใหม่ๆ อย่างไม่หยุดยั้ง เป็นผู้นำเสนอเทรนด์ที่ก้าวล้ำไม่หยุดนิ่ง ไม่ว่าจะเป็นกระแสความสนใจของคนทั่วโลก ไลฟ์สไตล์ชีวิตของผู้คนที่เปลี่ยนแปลงไปทั้งจากหลากหลายปัจจัย อาทิ การพัฒนาเทคโนโลยียุคดิจิตอลที่ไม่หยุดยั้ง แนวความคิดของคนที่ต่างเจนเนเรชั่นที่ต้องอยู่ร่วมกัน รวมทั้งจากผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 สิ่งต่างๆ เหล่านี้ ส่งผลต่อการใช้ชีวิตของผู้คนทั่วโลก

เพื่อตอกย้ำการเป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ วันนี้ สยามเซ็นเตอร์ จึงประกาศจุดยืนเป็น DiversCity Building (Diversity + City) สถานที่แห่งการส่งเสริมและสร้างคุณค่าทุกความต่าง ความหลากหลาย และการมีส่วนร่วมอย่างเท่าเทียม โดยเดินหน้าอย่างเป็นรูปธรรมโดยการสนับสนุนของ สำนักงานโครงการพัฒนาแห่งสหประชาชาติ ประจำประเทศไทย (UNDP Thailand) องค์กรระดับโลกที่ดำเนินงานเพื่อพัฒนาชีวิตของผู้คนตามหลักธรรมาภิบาลในทุกด้าน ได้แก่ การสนับสนุนทางสังคม การรณรงค์ด้านสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาอย่างยั่งยืน และความเท่าเทียมทางเพศ ซึ่งสยามเซ็นเตอร์ นับเป็นศูนย์การค้าแรกในประเทศไทยที่ร่วมกับ UNDP ในการประกาศตัวเป็น DiversCity Building โดยเจตนารมย์และแนวคิดนี้จะอยู่ในทุกมิติของสยามเซ็นเตอร์ที่ลูกค้าจะสัมผัสได้ด้วยตนเอง

การนำเสนอแนวคิด การเป็น DiversCity Building ของสยามเซ็นเตอร์ ปรากฏอยู่ในทุกมิติสอดคล้องกับเทรนด์ของคอมมูนิตี้ซึ่งปัจจุบันสามารถจัดได้เป็น 4 คอมมูนิตี้หลักที่ไม่มีการแบ่งเพศ อายุ เชื้อชาติ รูปร่าง ฯลฯ ได้แก่ กลุ่มคนที่สนใจด้านความงาม ที่ไม่ว่าจะเป็นคนสีผิวแบบไหน อายุ หรือเพศอะไร ก็สามารถมาที่นี่ได้, กลุ่มคนรักแฟชั่นมีสไตล์ ไม่ว่าจะมีรูปร่าง สีผิวอย่างไร เพศ อายุไม่สำคัญ ขอแค่มีอินเนอร์ที่ใช่ ที่สยามเซ็นเตอร์มีสินค้าแฟชั่นที่เหมาะสำหรับทุกคน, กลุ่มคนที่มีชื่นชอบการทำกิจกรรมแอคทีฟ มีความกระฉับกระเฉง ตื่นตัวกับทุกแอคทิวิตี้ สนุกสนานไปกับการเลือกเสื้อผ้ามามิกซ์แอนด์แมทช์ แหล่งรวมตัวของเหล่าคอลเลคเตอร์ทั้งหลายที่ชื่นชอบของสะสมสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และ กลุ่มผู้ชื่นชอบอาหารและคาเฟ่แบบอินเทรนด์ ไม่ว่าคุณจะอายุเท่าไหร่ เพศไหน แค่รู้เพียงว่าเมื่อต้องการหาของอร่อย อินเทรนด์ อัพรูปลงโซเชียล อาหารฮอตฮิตยอดนิยม คาเฟ่ไหนมาแรงต้องมาที่สยามเซ็นเตอร์เท่านั้น

เปิด New Magnets แบรนด์ดังที่เข้ามาร่วมนำเสนอเทรนด์สุดล้ำ

นางณริสาห์ วิวัฒนกิจเจริญ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารกลุ่มงานขาย บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “ในฐานะที่เป็นเมืองแห่งไอเดียที่ล้ำเทรนด์ สยามเซ็นเตอร์ ให้ความสำคัญในการเป็นผู้นำแห่งความคิดสร้างสรรค์ใหม่ๆอยู่เสมอ และไม่หยุดนิ่งในการสรรหาและรังสรรค์ไอเดียใหม่ๆมานำเสนอแก่ผู้บริโภค เราเข้าใจความต้องการของผู้ที่อยู่ในคอมมูนิตี้ที่มีความสนใจต่างกัน ลูกค้าในยุคใหม่ไม่ได้สนใจเพียงสินค้าและบริการ แต่ยังต้องการใช้ชีวิตและมีไลฟ์สไตล์ที่ถ่ายทอดความเป็นตัวตนในคอมมูนิตี้ของตนเอง สยามเซ็นเตอร์จึงให้ความสำคัญในการนำเสนอสิ่งที่ตอบโจทย์คอมมูนิตี้ที่มีอยู่หลากหลาย โดยร่วม Co – Creation กับแบรนด์ชั้นนำต่างๆเพื่อนำเสนอประสบการณ์ใหม่ๆ โดยไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ สยามเซ็นเตอร์ สร้างสีสันด้วยการดึงแม็กเน็ตใหม่ๆ เข้ามาเสริมทัพเพื่อตอบโจทย์ลูกค้าหลากคอมมูนิตี้ ได้แก่

– KIKO Milano แฟลกชิปสโตร์สาขาแรกในประเทศไทยที่สยามเซ็นเตอร์ ตอบโจทย์คอมมูนิตี้ที่ชื่นชอบสินค้ากลุ่มบิวตี้ KIKO Milano เป็นแบรนด์สุดฮอตส่งตรงจากมิลานเมืองหลวงแห่งวงการแฟชั่นโลกที่สาวๆทั่วโลกต่างหลงรัก ไม่ว่าจะเป็นเซเลบริตี้ อินฟลูเอนเซอร์ไปจนถึงเมคอัพอาร์ติสชื่อดัง ให้สาวๆได้ค้นพบและเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ความงามเหนือระดับในราคาที่ซื้อหาได้ พร้อมรับบริการพิเศษไปกับเหล่าเมคอัพกูรูผู้ผ่านการฝึกอบรมมาอย่างดี ให้สนุกไปกับโลกของสีสันและความงาม พร้อมเลือกซื้อคอลเลคชั่นใหม่ๆ ได้ที่นี่ก่อนใคร

– FABLAB Multi Brand Store แหล่งรวมแบรนด์แฟชั่นเสื้อผ้าและเครื่องแต่งกายที่จะทำให้ทุกคนได้มาทดลองค้นหาสไตล์ที่เป็นของตัวเอง และสนุกไปกับการมิกซ์แอนด์แมทช์ FABLAB เป็นเหมือนห้องปฏิบัติการที่รวบรวมแบรนด์แฟชั่นออนไลน์สดใหม่ และยังก์ ดีไซเนอร์ ที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันมาไว้ด้วยกัน เป็นร้านมัลติแบรนด์ที่รวมเสื้อผ้า แอคเซสเซอรี่ เครื่องประดับ กระเป๋า รองเท้ามากมาย ครอบคลุมแฟชั่น 4 สไตล์ ทั้ง Street สินค้าสไตล์สตรีทแฟชั่นตั้งแต่เสื้อยืด กางเกงยีนส์ งาน Hand-made ต่างๆ, Every Day สินค้าใส่ง่ายที่สามารถมิกซ์แอนด์แมทช์ได้ในทุกๆวัน , Active สินค้าสำหรับการออกกำลังกาย และชุดว่ายน้ำ และ Boutique สินค้าสำหรับวันพิเศษหรือโอกาสพิเศษ ประเภทเดรส สูทที่ระดับคัตติ้งสูงขึ้นมา

– THE GUNDAM BASE THAILAND แฟล็กชิปสโตร์ของกันพลายิ่งใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เอาใจคอมมูนิตี้คนรักและนักสะสมหุ่นกันดั้มโดยเฉพาะ โดยสยามเซ็นเตอร์ ร่วมกับ บริษัท บันได นัมโค เอเชีย จำกัด และบริษัท ดรีมทอย จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายของเล่นและโมเดลสะสมภายใต้แบรนด์ BANDAI จากประเทศญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ร่วม Co-Create สร้างสุดยอดปรากฏการณ์ เปิด “THE GUNDAM BASE THAILAND” ออริจินัลแฟล็กชิปสโตร์แห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นี่คือออริจินัลตัวจริงเสียงจริงของ THE GUNDAM BASE ท็อปเดสติเนชั่นในประเทศญี่ปุ่นที่สาวกกันดั้มต้องไปเยือน และวันนี้สยามเซ็นเตอร์นำเสนอเซอร์ไพรส์พิเศษสุดสำหรับคนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติ นำมาเปิดร้านที่ชั้น 1 สยามเซ็นเตอร์ บนพื้นที่กว่า 360 ตารางเมตร ในเดือนพฤศจิกายน 2564 นี้ จุใจกับสินค้าลิมิเต็ดอิดิชั่น โดยที่ผ่านมา THE GUNDAM BASE เปิดให้บริการทั่วโลก 15 สาขา และ Bandai Spirits เลือกสยามเซ็นเตอร์เป็นสถานที่เปิดตัวสาขาล่าสุด เป็นแห่งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

– Vans Flagship Store สาขาแรกที่มีขนาดพื้นที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยขนาดพื้นที่ 320ตารางเมตร ที่เข้ามาร่วมในคอมมูนิตี้สำหรับกลุ่มคนรักสตรีทสไตล์และเหล่าแฟนสนีกเกอร์ใจกลางสยาม ที่ชั้น G สยามเซ็นเตอร์ ด้วยสินค้าสตรีทสไตล์แฟชั่น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า กระเป๋า ถุงเท้า และรองเท้า นอกจากนี้ยังมีสินค้าคอลเลคชั่นพิเศษที่จำหน่ายเฉพาะที่นี่ในแบบ Absolute Siam รวมถึงยังเปิดโอกาสให้ศิลปินไทยได้แสดงออกถึงความสามารถทางด้านศิลปะ สตรีทกราฟิกให้กับ Vans ประเทศไทย ผ่านจอ LED ขนาดใหญ่ 2 จอกลางร้าน ไม่เพียงเท่านี้ยังมีโซน customization area ให้ลูกค้าสามารถนำสินค้า Vans มาตกแต่ง เพ้นท์ ป้าย ปัก ให้เป็นสไตล์ตัวเองสุดยูนีค โดยจะเปิดให้สัมผัสประสบการณ์ใหม่ ในเดือนธันวาคม 2564 นี้

– KFC New Concept @ Siam Center ปรากฏการณ์แห่งการ Co-Create ระหว่าง KFC และ สยามเซ็นเตอร์ นำเสนอร้าน KFC รูปแบบใหม่ บนพื้นที่ 237 ตารางเมตร ภายใต้แนวคิด Urban Digital Life ด้วยการออกแบบตกแต่งดีไซน์ทันสมัยในแบบดิจิตอลไลฟ์สไตล์ ลดการสัมผัส สอดคล้องกับการใช้ชีวิตวิถีใหม่นิวนอร์มัล ให้ทุกคนสนุกสนานกับการออเดอร์อาหารผ่านระบบดิจิตอล และจ่ายเงินโดยไม่ต้องใช้เงินสด (Cashless) พร้อมบริการเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ ตามช่วงเวลาที่กำหนด เติมความพิเศษกับ Pick Up Box ล็อกเกอร์รับสินค้าอัตโนมัตที่แรกในเมืองไทย เพียงสั่งสินค้าผ่านแอปพลิเคชั่น หรือ เครื่องสั่งอาหารอัตโนมัติ ก็สามารถมารับสินค้าด้วยตนเองได้ที่ Pick Up Box เพียงสแกนคิวอาร์โค้ด นอกจากนี้ ภายในร้านยังมีมุมป๊อปอาร์ต คัลเจอร์ ให้ทุกคนได้อิ่มอร่อยกับอาหารจานโปรดพร้อมดื่มด่ำไปกับผลงานศิลปะที่ตกแต่งภายในร้านให้ได้ถ่ายรูปสวยๆอีกด้วย โดยจะเปิดต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขในเดือนธันวาคม 2564 นี้

ชูแนวคิดธุรกิจแบบ Micro Retail เจาะกลุ่มคอมมูนิตี้

นายเอกวิทย์ ชัยวรานุรักษ์ ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายกิจกรรมการตลาด บริษัท สยามพิวรรธน์ จำกัด กล่าวว่า “เพื่อตอบสนองไลฟ์สไตล์ของผู้คนที่มีชีวิตวิถีใหม่ในยุคสมัยปัจจุบัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากผลกระทบจากโควิดที่ทำให้ภาคธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลง เทรนด์ที่กำลังมาแรงในธุรกิจค้าปลีก คือ การหันมานำเสนอรูปแบบค้าปลีกที่ตอบสนองความต้องการของคอมมูนิตี้ที่มีความสนใจในเรื่องเฉพาะกลุ่ม เพื่อนำเสนอสินค้าและบริการ รวมทั้งสร้างคอมมูนิตี้และสร้างประสบการณ์ได้อย่างตรงใจ สยามเซ็นเตอร์ จึงชูแนวคิดการทำธุรกิจแบบ Micro Retail ส่งเสริมพันธมิตรธุรกิจที่มีความคิดสร้างสรรค์ และเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เข้ามามีโอกาสนำเสนอผลงานและไอเดียผ่านพื้นที่โชว์เคสที่สยามเซ็นเตอร์ ขณะเดียวกันยังเป็นการตอบสนองความต้องการของลูกค้ากลุ่มคอมมูนิตี้ที่มีหลากหลายซึ่งจะมีความสนใจให้สิ่งต่างๆ ก็จะแตกต่างกันออกไป โดยประเดิมคอนเซปต์แรก ด้วย K- Culture Market จับกลุ่มตลาดคอมมูนิตี้ผู้ชื่นชอบโคเรียนสไตล์ เนรมิตพื้นที่ให้เป็นโซน Korean Town ยกขบวนทั้งสินค้าแฟชั่น บิวตี้ ซาลอน สไตล์เกาหลี มารวมไว้ในที่เดียว รวมไปถึงคาเฟ่สไตล์เกาหลีที่ฮอตฮิตอยู่ในกระแส ให้สาวก เค – ป๊อปได้มานั่งชิลด์ ตอบโจทย์กลุ่มคนทุกเพศทุกวัย ที่ K- Culture Market ทุกอย่างจะต้องเป็นของอินเทรนด์ เป็นศูนย์รวมความเป็นสิ่งที่กำลังฮอตฮิตได้รับความนิยมสูงนำมาอยู่เป็นที่แรก คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ในควอเตอร์แรกของปี 2565 ที่จะถึงนี้

“สยามเซ็นเตอร์เชื่อมั่นว่า ทุกเทรนด์ที่นำเสนอ ทั้งด้านการประกาศจุดยืนเป็น DiversCity Building และนำเสนอเทรนด์ที่ตอบโจทย์อย่างตรงใจในกลุ่มคอมมูนิตี้ต่างๆ ผ่านการนำเสนอร้านค้าแม็กเน็ตใหม่ๆเหล่านี้ จะเปิดประสบการณ์สุดเอ็กซคลูซีฟความเป็น Be The First และ สร้างแรงบันดาลใจ Be Inspired ให้กับลูกค้าทั้งชาวไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติได้เป็นอย่างดี และคาดว่าจะช่วยเพิ่มทราฟฟิคและกระตุ้นยอดขายให้สยามเซ็นเตอร์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องไปจนถึงปี 2565 ได้อย่างแน่นอน” นายเอกวิทย์กล่าว

ใส่ความเห็น