วันนี้หุ้น GRAMMY ปิดการซื้อขายภาคเช้าที่ราคา 14.20 บาท/หุ้น (@ 12.30น.) ทำราคาสูงสุดระหว่าง วันที่ 14.90 บาท Break เหนือราคาสูงสุดเดิมในรอบ 7 ปี ที่ 14.20บาท/หุ้น เมื่อวันที่ 25 สิงหาคม 2017 ด้วยมูลค่าการซื้อขายสูงสุดในรอบ 6 ปีที่ผ่านมา
ความสนใจที่มีต่อเนื่องจากการกลับมาเข้าร่วม SET Opportunity Day ครั้งแรกของ GRAMMY ในรอบ 5 ปี ประเด็นหลักคงเป็นเรื่องความเชื่อมั่นว่าผลประกอบการได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปี 2020 ซึ่งส่วนใหญ่มาจากค่าใช้จ่ายทางบัญชีจากการปรับโครงสร้างการถือหุ้น JV ใน The ONE Ent และ GMM Channel Holding
ในส่วนของธุรกิจหลักอย่าง Music Business อาจจะมี positive surprise จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมที่มาเร็วกว่าที่คาดไว้เดิมที่อาจต้องรอถึง Q3-Q4/2021 อาจจะเร็วขึ้นมาเริ่มเห็นผลตั้งแต่ Q2/2021 จากการเปิดประเทศ รวมถึงมาตรการผ่อนคลายจากรัฐบาลที่จะทำให้การทำธุรกิจกลับมาภาวะปกติเร็วขึ้น บวกกับการเริ่มใช้วัคซีนกับประชาชนเพื่อจำกัดการระบาดของ COVID-19
ถัดมาหุ้น GRAMMY ถือว่า ราคายังไม่ปรับขึ้นเหมือนหุ้นตัวอื่นๆ (Laggard) ในกลุ่ม Media ถ้าย้อนดูผลตอบแทนย้อนหลัง 1 ปี (ณ ราคาปิดวันที่ 26 ก.พ. 2564) จะเห็นว่า หุ้น Media หลักๆอย่าง BEC และ WORK ต่างปรับตัวขึ้นเกิน 200% และ PLAN B ปรับตัวขึ้นถึง 164% ในขณะที่ GRAMMY พึ่งปรับตัวขึ้นมา 87.05% เลยอาจจะเป็นอีกหนึ่งเหตุผลที่นักลงทุนกลับมาสนใจตัวหุ้น GRAMMY อีกครั้ง จาก Theme Recovery Play ของกลุ่ม Media
อีกคำถามที่สอบถามกันมาเยอะหลังจาก Opportunity Day ก็คือ การจับมือระหว่าง GMM O shopping กับ ROJUKISS ในการบุกธุรกิจ Social Commerce ซึ่งคาดว่าจะสามารถ launch สินค้าตัวแรกได้ภายใน Q2/2021 รวมถึงโดดเข้าตลาดกัญชง โดยจับมือระหว่าง GMM O Shopping x ROJUKISS x DOD โดยหากสินค้าใหม่ๆ สามารถเข้าสู่ตลาดได้แผนงาน เราอาจจะได้เห็นพัฒนาการในผลประกอบการ Q2/2021 ด้วยเช่นกัน
สุดท้ายคือ โอกาสการ Spin-off ONE เข้า IPO ซึ่งส่วนนี้ตามที่ทาง GRAMMY รายงานผ่านทางตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ในฐานะหนึ่งในผู้หุ้นหลักต้องนำวาระนี้เข้าขออนุมัติทำรายการในประชุมผู้ถือหุ้นช่วงปลายเดือน เม.ย. นี้ หลังจากได้รับอนุมัติในการประชุมคณะกรรมการบริษัทในวันที่ 10 มี.ค. ที่ผ่านมา ส่วนความคืบหน้าอื่นๆทางบริษัทจะรายความคืบหน้าเป็นระยะๆโดยผ่านทางตลาดหลักทรัพย์ (SET) เป็นหลัก
