เรียกว่าเป็น Big Event แห่งปีของวงการกาแฟไทย สำหรับงานมหกรรมกาแฟสุดยิ่งใหญ่ “Thailand Coffee Fest 2020” ได้รับกระแสตอบรับดีเกินคาด มีผู้สนใจเข้าชมงานอย่างคึกคักตลอด 4 วันเต็ม ด้วยการรวมตัวของร้านกาแฟกว่า 200 ร้านค้า ตลอดจนรวมทุกกระบวนการของธุรกิจกาแฟ ตั้งแต่ต้นน้ำ สู่ปลายน้ำ อย่างครบวงจร โดยตลอดการจัดงาน ใช้แนวคิดการสร้างขยะให้เป็นศูนย์ (Zero Waste) ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม นับเป็นการจัดงานในยุคโควิด-19 ที่ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยเตรียมพร้อมจัดต่อปีหน้าช่วงปลายเดือนเมษายน 2564
จากความร่วมมือระหว่าง สมาคมกาแฟพิเศษไทย และ The Cloud (เว็บไซต์ : readthecloud.co) ในการจัดงาน “Thailand Coffee Fest 2020” ที่จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 5 โดยมีจุดมุ่งหมายในการสนับสนุนวงการกาแฟไทย ตั้งแต่ผู้ปลูก ผู้แปรรูป ไปจนถึงผู้บริโภค ทำให้วัฒนธรรมการดื่มกาแฟของคนไทยมีสีสันมากขึ้นทุกปี จนกลายเป็นมหกรรมของคนรักกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และแม้ว่าปีนี้จะเจอวิกฤตโควิด-19 แต่ตลอดการจัดงานทั้ง 4 วัน มีประชาชนให้ความสนใจเข้าชมงานเป็นจำนวนมาก และยังรวมไปถึงผู้ประกอบการที่จับจองพื้นที่เปิดบูทอย่างเนืองแน่น ซึ่งนับเป็นความสำเร็จที่สร้างโอกาสให้กับเกษตรกรไทยได้โชว์ศักยภาพผ่านเวที การประกวดสุดยอดเมล็ดกาแฟไทยประจำปี 2563 จำนวน 29 ตัวอย่างและได้สร้างประวัติศาสตร์การประมูลกาแฟมูลค่าสูงสุดกิโลกรัมละ 27,210 บาท และการประกวดแข่งขัน เอสเย็นชิงแชมป์โลก World EsYenn Championship ครั้งที่ 4 การประลองฝีมือของบาริสต้าในเมนู ‘เอสเย็น’ กาแฟอัตลักษณ์ประจำชาติไทย และกิจกรรมอื่นๆ อีกมากมาย ล้วนแล้วแต่สร้างให้เกิดการเรียนรู้ การแลกเปลี่ยน และการแบ่งปันในทุกเรื่องราวของวงการกาแฟไทยอย่างไม่สิ้นสุด
โดยการจัดงาน “Thailand Coffee Fest 2020” ในครั้งนี้ ถือเป็นมหกรรมกาแฟภายใต้แนวคิด Sustainability ที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อมเป็นอย่างมาก คำนึงในการใช้ทรัพยากรให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้แนวคิดสร้างขยะให้เป็นศูนย์มีระบบการบริหารจัดการขยะโดย The Geen และทีมงาน Chula Zero Waste ที่มีเจ้าหน้าอยู่ประจำจุดทิ้งขยะจุดต่างๆ ให้คำแนะนำในการคัดแยกขยะให้ตรงตามถังขยะแต่ละประเภท เพื่อให้การจัดการขยะที่ปลายทางมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยการเตรียมถังขยะอาหารที่สามารถนำไปทำปุ๋ยได้ ถังขยะรีไซเคิล (Recyclable Waste) เช่น กระดาษ ขวดพลาสติก กระป๋อง และขยะมูลฝอยทั่วไปอย่างเพียงพอและชัดเจน และนำขยะไปกำจัดอย่างถูกวิธีต่อไป ซึ่งถือว่าเป็นการสร้างมาตรฐานที่ดีของการจัดงานอีเวนต์เป็นอย่างมาก
และด้วยกระแสตอบรับที่ดีอย่างล้นหลามของทั้งผู้ประกอบการ และประชาชนผู้ชื่นชอบกาแฟ ทางสมาคมกาแฟพิเศษไทย จึงเตรียมลุยจัดต่อเนื่องในปีหน้าในช่วงปลายเดือนเมษายน 2564 ซึ่งผู้ที่สนใจสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมและติดตามความเคลื่อนไหวของวงการกาแฟพิเศษไทยได้ที่ https://www.facebook.com/ThailandCoffeeFest
