ผู้ขายช้อปปี้เผยประสบการณ์จริง โตสวนกระแสพิษโควิด-19 กับแรงสนับสนุนจาก Shopee Seller Support Package
ช้อปปี้ ผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และไต้หวัน เผยความสำเร็จของโปรแกรม “Shopee Seller Support Package” ที่ได้เปิดตัวไปเมื่อปลายเดือนเมษายนที่ผ่านมา (23 เม.ย) เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด-19 จนทำให้ผู้ประกอบการจำนวนมากประสบปัญหาด้านรายได้ที่ลดลง ให้สามารถหันมาขยายช่องทางธุรกิจและเติบโตบนโลกออนไลน์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น เพื่อคงไว้ซึ่งความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ และศักยภาพในการแข่งขันของธุรกิจต่อไปในภายหลัง
โดยโปรแกรม Shopee Seller Support Package ได้รับการตอบรับที่ดีจาก ผู้ประกอบการ SMEs พ่อค้าแม่ค้าจากทั่วประเทศทั้งผู้ขายรายใหม่ที่ไม่เคยขายบนช้อปปี้มาก่อน และผู้ขายช้อปปี้ปัจจุบัน มาร่วมลงทะเบียนเข้าร่วมโปรแกรมฯ เพื่อรับรายการสนับสนุนรวมมูลค่าสูงสุด 5,000 บาท และสิทธิประโยชน์มากมายจากช้อปปี้ เพื่อช่วยลดต้นทุนการดําเนินงานและเพิ่มยอดขาย รวมถึงเพิ่มอัตราการเข้าชมร้านค้า เป็นต้น
ทั้งนี้ส่วนหนึ่งของความสำเร็จได้ถ่ายทอดผ่าน 2 ตัวแทนผู้ประกอบการ SMEs บนช้อปปี้ ที่ได้เข้าร่วมโปรแกรม Shopee Seller Support Package ในการพลิกวิกฤตสู่โอกาสในช่วงสถานการณ์โควิด-19 เข้าสู่ผู้ประกอบการดิจิตัลอย่างเต็มตัว เพื่อมาเป็นแรงใจให้กับผู้ประกอบการที่ต้องการเริ่มต้น และขยายผลไปสู่ความสำเร็จบนโลกธุรกิจออนไลน์
คุณกาน จากร้านแบรนด์ Ordinaryshoe ร้านรองเท้าแฟชั่นดีไซน์เป็นเอกลักษณ์คุณภาพดี เล่าว่า สถานการณ์โควิด-19 ถือเป็นจุดเปลี่ยนแปลงสำคัญของทั้งตัวเองและธุรกิจ เริ่มจากตัดสินใจออกจากงานประจำ เพื่อมาทุ่มเทให้กับธุรกิจออนไลน์ของตนเองอย่างเต็มที่ เพราะมองเห็นถึงการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการซื้อสินค้า ที่คนหันมาช้อปออนไลน์กันมากขึ้น เนื่องจากเป็นทางเลือกที่ปลอดภัยสำหรับตัวลูกค้าเองด้วย ทำให้เราต้องการเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้า อยากให้ลูกค้ามองเห็นว่าสินค้าของเรานั้นคุ้มค่ากับราคาและมอบความสะดวกในการสั่งซื้อให้มากที่สุด จึงมาเข้าร่วมกับโปรแกรม Shopee Seller Support Package เพราะเห็นว่ามีเครื่องมือการตลาดและเทคนิคการตลาดที่น่าสนใจมาสนับสนุนการโฆษณาสินค้า โค้ดส่วนลด ได้ความรู้ใหม่ๆบนแพลตฟอร์มเพื่อเพิ่มทักษะให้ตัวเอง นำมาพัฒนายอดขายของร้านต่อไปเรื่อยๆ รวมถึงมีทีมงานช้อปปี้คอยให้คำแนะนำการจัดโปรโมชั่นต่างๆที่เหมาะกับทางร้านอยู่เสมอ
คุณกานได้กล่าวเพิ่มเติมว่า “เราเคยมองว่าการไม่มีหน้าร้านอาจทำให้เสียโอกาสถ้าลูกค้าจับต้องและเห็นสินค้าจริงไม่ได้ แต่ด้วยแพลตฟอร์มของช้อปปี้ที่ง่ายต่อการเข้าถึงสินค้าเปรียบเสมือนเป็นหน้าร้าน เพียงเราลงภาพสินค้าและใส่รายละเอียดสำคัญของสินค้าครบถ้วน เช่น ราคา สี ไซส์ วัสดุที่ใช้ รวมถึงมีระบบขนส่งและช่องทางการชำระเงินที่ลูกค้าเลือกได้ตามความสะดวก ลูกค้าก็สามารถเลือกซื้อสินค้าได้ง่าย ตัดปัญหาความกังวลว่าต้องมีหน้าร้านไปได้เลย ส่วนในเรื่องยอดขายนั้นต้องยกให้ฟีเจอร์อย่าง Shopee Live รวมถึงการทำโปรโมชั่นจากการเข้าร่วมโปรแกรมฯครั้งนี้ ซึ่งสามารถเพิ่มยอดขายประมาณ 2 เท่าต่อวันหรือมากกว่าจากเดิม ส่วนตัวคิดว่าการทำธุรกิจออนไลน์ต้องคอยพัฒนาอย่างต่อเนื่อง นำคำติชมของลูกค้ามาปรับปรุงร้านของเราให้ตอบโจทย์มากที่สุด ก็จะช่วยเพิ่มความมั่นใจให้ลูกค้าหันมาซื้อของบนออนไลน์มากขึ้นค่ะ”
อีกหนึ่งผู้ประกอบการ คุณศรัณยู จากร้าน KT SHOP อุปกรณ์งานฝีมือ D.I.Y ที่ผลิตและจัดจำหน่ายสินค้างานฝีมืออย่างครบวงจร เผยว่า เดิมทีสินค้าประเภทงานฝีมือ อุปกรณ์ตกแต่ง D.I.Y งานประดิษฐ์ต่างๆ ลูกค้าจะนิยมซื้อสินค้าผ่านหน้าร้าน แต่ตัวเองนั้นกลับมองว่าปัจจุบันนี้มีเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มออนไลน์เข้ามา ที่จะช่วยลดต้นทุน และขยายช่องทางการขายให้เข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น จึงตั้งใจที่จะขายสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์เป็นหลักและเลือกเปิดร้านบนช้อปปี้เพราะมีแคมเปญและโปรโมชั่นต่างๆให้แก่ผู้ซื้อและผู้ขายอยู่เรื่อยๆ อีกทั้งยังมีระบบหลังบ้านที่ทันสมัยสามารถตรวจสอบสินค้าได้ว่าสินค้าชนิดไหนขายดี สินค้าชนิดไหนขายไม่ดีในแต่ละช่วง เพื่อเป็นการวิเคราะห์ธุรกิจในอนาคตได้ เพิ่มศักยภาพในการหาสินค้า มาให้ตรงตามความต้องการของผู้บริโภค
“จากสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในตอนนี้ ผมมองว่าการปรับตัวให้เข้าสู่วิถีชีวิตใหม่หรือ new normal เป็นสิ่งสำคัญที่สุด จากเมื่อก่อนเน้นขายส่งอย่างเดียว พอมาเปิดร้านบนช้อปปี้ก็เพิ่มช่องทางการจัดจำหน่ายจึงขยายมาทั้งขายส่งและขายปลีกด้วย จึงตัดสินใจเข้าร่วมโปรแกรม Seller Support Package เพื่อเรียนรู้วิธีต่างๆในการดำเนินธุรกิจออนไลน์ได้อย่างรวดเร็ว มีผู้เชี่ยวชาญจาก Shopee University มาให้ความรู้ แนะนำเครื่องมือต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการขายสินค้า เครดิตโฆษณาที่ทำให้ผู้ซื้อเห็นสินค้าของทางร้านเพิ่มขึ้น และยังได้โค้ดลดไปแจกให้กับลูกค้าเพื่อกระตุ้นการสั่งซื้อสินค้า เห็นได้จากระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา สามารถสร้างยอดขายเพิ่มขึ้น 30% และมียอดผู้เยี่ยมชมมากขึ้น 58% จากการเข้าร่วมโปรแกรมฯ” คุณศรัณยู กล่าวทิ้งท้าย
ความท้าทายของผู้ประกอบการ SMEs เพื่อต่อสู้กับผลกระทบจากวิกฤตการณ์โควิด-19 ในครั้งนี้ จึงจำเป็นจะต้องเปิดโอกาสให้แก่ธุรกิจของตนเองเข้าสู่การปรับเปลี่ยนครั้งสำคัญ เพื่อรองรับกลุ่มลูกค้าออนไลน์และความต้องการของสินค้าที่หลากหลายมากขึ้น รวมทั้งเข้าใจสถานการณ์และบริบทการทำธุรกิจภายใต้สังคมรูปแบบใหม่ที่แท้จริง
