วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
Home > PR News > แกรมมี่ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งแรกในรอบ 8 ปี

แกรมมี่ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลครั้งแรกในรอบ 8 ปี

ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ครั้งที่ 3/2562 เมื่อวันที่ 13 สิงหาคม 2562 มีมติอนุมัติจ่ายปันผลระหว่างกาลจากกำไรสุทธิงวด 6 เดือนแรกของปี 2562 (ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2562 – 30 มิถุนายน 2562) ตามงบการเงินเฉพาะกิจการให้แก่ผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 81.99 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 62 ของกำไรสุทธิของงบการเงินเฉพาะกิจการ โดยบริษัทฯ กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิในการรับเงินปันผลระหว่างกาล (Record Date) ในวันที่ 27 สิงหาคม 2562 และกำหนดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล ในวันที่ 12 กันยายน 2562

นางสาวบุษบา ดาวเรือง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า

“ในไตรมาส 2/2562 บริษัทมีรายได้จากการขายสินค้า /บริการ และค่าลิขสิทธิ์จำนวน 1,458 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 13.7 สืบเนื่องจากในไตรมาสนี้ไม่มีกำหนดฉายภาพยนตร์เรื่องใหม่ และธุรกิจเทรดดิ้งลดลงเล็กน้อย ทางด้านธุรกิจดิจิทัลทีวี 2 ช่อง ซึ่งได้รับความสนับสนุนจากมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการดิจิทัลทีวีของภาครัฐ ประกอบกับความสามารถในการพัฒนาช่องอย่างต่อเนื่อง ทำให้ภาระผลขาดทุนการร่วมค้าของบริษัท เปลี่ยนจากผลขาดทุนมาเป็นผลกำไรในไตรมาสนี้

สถานะทางการเงินของบริษัทมีความเข้มแข็งภายหลังการปรับโครงสร้างธุรกิจ ซึ่งส่งผลให้ภาระหนี้สินลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ณ สิ้นไตรมาส 2/2562 บริษัทมีอัตราส่วนหนี้สินที่มีภาระดอกเบี้ยต่อส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับ 0.33 เท่า”

สำหรับธุรกิจเพลง ซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ประกอบด้วยการจำหน่ายสินค้าเพลง (Physical product), ดิจิทัลมิวสิค, การจัดเก็บค่าลิขสิทธิ์, ธุรกิจโชว์บิซ, ธุรกิจบริหารศิลปิน และธุรกิจอื่นที่สนับสนุนธุรกิจหลักของบริษัทในไตรมาส 2/2562 บริษัทมีรายได้จากธุรกิจเพลง 893 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 61 ของรายได้จากการดำเนินงานทั้งหมด ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 3.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน โดยรายได้ในส่วนนี้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจดิจิทัลมิวสิคและธุรกิจบริหารศิลปินซึ่งเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้มีการจัดคอนเสิร์ตใหญ่หลายรายการ เช่น “PECK PALITCHOKE Concert#2 : LOVE IN SPACE”, “What The Fest! Music Festival 2” และ “คอนเสิร์ต ต่าย อรทัย ดอกหญ้ากลางเมืองใหญ่”

ธุรกิจเทรดดิ้ง ประกอบด้วยธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้าโฮมช้อปปิ้ง และธุรกิจจัดจำหน่ายกล่องรับสัญญาณทีวี โดยในไตรมาสนี้ธุรกิจโฮมช้อปปิ้งมีรายได้ 422 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 23.4 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จากภาวะเศรษฐกิจที่ชะลอตัวและการแข่งขันในตลาดที่เพิ่มสูงขึ้น ส่วนธุรกิจกล่องรับสัญญาณทีวีมีรายได้ 72 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32.8 จากงวดเดียวกันของปีก่อน

ธุรกิจภาพยนตร์ ในไตรมาส 2/2562 ไม่มีภาพยนตร์ใหม่เข้าฉาย แต่มีรายได้จากการขายลิขสิทธิ์จำนวน 33 ล้านบาท ในขณะที่ไตรมาส 2/2561 มีภาพยนตร์ใหม่ “น้องพี่ที่รัก” เข้าฉายในช่วงนั้น รายได้รวมของไตรมาสจึงสูงถึง 183 ล้านบาท

ธุรกิจการลงทุน ประกอบด้วย บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ดำเนินธุรกิจดิจิทัลทีวี ‘ช่อง One31’ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในไตรมาสนี้มีละครที่ได้รับกระแสตอบรับดีหลายเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งละครเรื่อง “หัวใจศิลา” “ลูกกรุง” และ “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” ส่วนรายการประเภทวาไรตี้ซิทคอม และข่าวก็ยังคงได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แชนแนล โฮลดิ้ง จำกัด ประกอบด้วยธุรกิจดิจิทัลทีวี ‘ช่อง GMM25’, ธุรกิจวิทยุและโชว์บิซ, ธุรกิจผลิตคอนเทนต์ ในไตรมาสนี้มีละครที่ได้รับความนิยมสูงคือ เรื่อง “เมียน้อย” ส่วนด้านคอนเสิร์ตที่ได้รับความนิยมมากคือ “The Real Nadech Concert” และ “Cassette Festival”

ธุรกิจอื่นๆ ในไตรมาสนี้มีรายได้ 38 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ต้นทุนขายและบริการไตรมาสนี้เท่ากับ 851 ล้านบาท ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 18.6 เนื่องจากไม่มีต้นทุนภาพยนตร์ใหม่และต้นทุนขายของสินค้าลดลง

กำไรขั้นต้นไตรมาสนี้เท่ากับ 606 ล้านบาท หรือคิดเป็นอัตรากำไรขั้นต้นร้อยละ 41 สูงกว่าอัตรากำไรขั้นต้นของไตรมาส 2/2561 ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 38 ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารรวมไตรมาส 2/2562 นี้ เท่ากับ 550 ล้านบาท เพิ่มขี้นร้อยละ 3.8 จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน จำนวน 530 ล้านบาท ส่งผลให้บริษัทมีกำไรสุทธิในไตรมาสนี้เท่ากับ 68 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนถึงร้อยละ 33

ใส่ความเห็น