BGRIM รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 3 มีรายได้เติบโต 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ 9,691 ล้านบาทสูงที่สุดเป็นประวัติการณ์ หนุนกำไรสุทธิพุ่ง 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 795 ล้านบาท หลังการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบต่อเนื่อง พร้อมเดินหน้าสร้างโรงไฟฟ้าตามแผนจ่ายไฟเข้าระบบอีก 861 เมกะวัตต์ ทั้งในประเทศและต่างประเทศภายในปีหน้า หนุนรายได้ปี 62 เติบโตต่อเนื่องอีก 15-20%
นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่ บมจ.บี.กริม เพาเวอร์ หรือ BGRIM เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3 มีรายได้เติบโต 20% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 9,691 ล้านบาทจากการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 3 และโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 4 ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ (ระยอง) ที่เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ และ 1 มิถุนายน 2561 ตามลำดับ และความต้องการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นของลูกค้าเดิม ยิ่งไปกว่านั้น บริษัทฯ มีความสามารถในการบริหารจัดการสินทรัพย์และทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ กำไรสุทธิไตรมาส 3 จึงเติบโตสูงถึง 40% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 795 ล้านบาท
ทั้งนี้ บริษัทฯ ยังเดินหน้าขยายธุรกิจทั้งในและต่างประเทศตามแผนขยายกำลังผลิตติดตั้งอีก 861 เมกะวัตต์หรือเติบโตในอัตรา 45% จาก 1,912 เมกะวัตต์ ณ สิ้น ไตรมาส 3/2561 เป็น 2,773 เมกะวัตต์ในปี 2562 โดยเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2561 โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ระยอง) 5 ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะซิตี้ (ระยอง) ซึ่งมีกำลังการผลิตติดตั้ง 133 เมกะวัตต์ได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตามกำหนดแล้ว บริษัทฯ ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างก่อสร้างและพัฒนา ได้แก่ โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนพื้นดิน สำหรับหน่วยงานราชการและสหกรณ์ภาคเกษตร 7 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้ง 31 เมกะวัตต์ กำหนดจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ ภายในเดือนธันวาคม 2561 โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำใน สปป.ลาว กำลังการผลิตติดตั้ง 15 เมกะวัตต์ ในไตรมาส 1/2562 โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศเวียดนาม 2 โครงการ กำลังการผลิตติดตั้งรวม 677 เมกะวัตต์ ในกลางปี 2562 และโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมกำลังการผลิตติดตั้ง 5 เมกะวัตต์ ในปลายปี 2562 อันจะส่งผลให้รายได้ของบริษัทฯ เติบโตต่อเนื่องในอัตรา 15-20% ในปี 2562 โดยบริษัทยังมองหาโอกาสทางธุรกิจใหม่ต่อเนื่องทั้งในประเทศและต่างประเทศ สนับสนุนเป้าหมายกำลังการผลิตติดตั้งที่ 5,000 เมกะวัตต์ ภายในปี 2565
อีกทั้งล่าสุดบริษัทฯ ได้ออกหุ้นกู้และสามารถขายหุ้นกู้ 9,700 ล้านบาทเพื่อรองรับแผนการลงทุนในอนาคตและรีไฟแนนซ์เงินกู้จากสถาบันการเงิน ซึ่งได้รับผลตอบรับจากนักลงทุนอย่างล้นหลาม จากความแข็งแกร่งและแผนธุรกิจของบริษัทฯ ที่มีอนาคตสดใส