Column: From Paris
The Appeal of Conscience Foundation เป็นมูลนิธิที่แรบไบ อาร์เธอร์ ชไนเออร์ (Arthur Schneier) เป็นผู้ก่อตั้งในปี 1965 เป็นมูลนิธิที่เน้นเสรีภาพทางศาสนาและสิทธิมนุษยชนทั่วโลก เป็นมูลนิธิที่รวมผู้นำทางศาสนาและนักธุรกิจที่ต้องการเห็นสันติภาพ ความมีขันติธรรม และการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างชนชาติ
อาร์เธอร์ ชไนเออร์เห็นว่าอาชญากรรมที่ก่อในนามของศาสนาเป็นอาชญากรรมที่ก่อความเสียหายแก่ศาสนา นับตั้งแต่เกิดการก่อการร้ายถล่มตึกเวิล์ดเทรดที่นิวยอร์กเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2001 The Appeal of Conscience Foundation เรียกร้องให้ผู้นำทางศาสนาทั่วโลกลุกขึ้นต่อต้านการก่อการร้าย และใช้อิทธิพลที่ตนมีหยุดยั้งความรุนแรงและโปรโมตความมีขันติธรรม
The Appeal of Conscience Foundation มีผลงานในหลายประเทศ อาทิ จีน อินเดีย อังกฤษ แอลเบเนีย อาร์เจนตินา เยอรมนี วาติกัน สาธารณรัฐเชค เป็นต้น
อาร์เธอร์ ชไนเออร์เกิดที่เวียนนา แล้วเดินทางไปสหรัฐอเมริกาในปี 1974เป็นแรบไบคนแรกที่ได้รับเหรียญ Presidential Citizen Award จากประธานาธิบดีบิล คลินตัน
ในปี 2016 The Appeal of Conscience Foundation มอบ Appeal of Conscience World Statesman Award รางวัลรัฐบุรุษของโลกแก่ประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ (François Hollande) ของฝรั่งเศส พิธีมอบมีขึ้นที่นิวยอร์กเมื่อวันที่ 19กันยายน 2016
Appeal of Conscience World Statesman Award เป็นรางวัลที่มอบแก่ผู้นำประเทศที่สนับสนุนสันติภาพ ความมีขันติธรรม ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์และสิทธิมนุษยชน เป็นผู้นำที่ทำงานร่วมกับผู้นำประเทศอื่นในโลกเพื่อสร้างอนาคตที่ดีขึ้นสำหรับทุกคน
อาร์เธอร์ ชไนเออร์และเฮนรี คิสซิงเจอร์สรรเสริญความเป็นผู้นำและความกล้าหาญของฟรองซัวส์ โอลลองด์ในการจัดการสถานการณ์ที่มีการก่อการร้าย และการต่อสู้กับการก่อการร้าย
ฝรั่งเศสเผชิญกับการก่อการร้ายตั้งแต่ต้นปี 2015 โดยในวันที่ 7 มกราคม ผู้ก่อการร้ายบุกเข้าไปยิงนักหนังสือพิมพ์ของ Charlie Hebdo ขณะกำลังประชุม นักหนังสือพิมพ์เสียชีวิต 12 คน
ฟรองซัวส์ โอลลองด์เกิดในครอบครัวคาทอลิกที่มีอุดมการณ์ฝ่ายซ้าย แต่ฟรองซัวส์ โอลลองด์ประกาศตนว่าไม่ศรัทธาศาสนาใดเลย เขาจบกฎหมายที่ปารีส แล้วเรียนการบริหารจัดการที่ Ecole des Hautes Etudes Commerciales ที่ปารีส รวมทั้งเรียนรัฐศาสตร์ที่ Institut des Etudes Politiques และเข้าเรียนที่ Ecole Nationale de l’Administration (ENA) อันเป็นสถาบันผลิตชนชั้นสมองของประเทศ ในรุ่นที่ชื่อว่า promotion Voltaire และที่ ENA นี่เองที่ได้พบรักกับเซโกแลน รัวยาล (Ségolène Royal)
ระหว่างรับราชการทหาร ฟรองซัวส์ โอลลองด์ได้รู้จักฌอง-ปิแอร์ ฌูเยต์ (Jean-Pierre Jouyet) ซึ่งเป็นเลขาธิการทำเนียบเอลีเซ (Elysée) ในยุคของประธานาธิบดีฟรองซัวส์ โอลลองด์ และมิเชล ซาแปง (Michel Sapin) รัฐมนตรีงบประมาณ
ขณะศึกษาที่ Institut des Etudes Politiques ฟรองซัวส์ โอลลองด์เป็นประธานสหพันธ์นักศึกษาแห่งชาติ (Union nationale des étudiants de France) ในปี 1979 เข้าเป็นสมาชิกพรรคสังคมนิยม (Parti socialiste–PS) และเป็นประธานของคณะทำงานเพื่อสนับสนุนการสมัครเลือกตั้งประธานาธิบดีของฟรองซัวส์ มิตแตรองด์ (François Mitterrand)
ในขณะที่เซโกแลน รัวยาลได้รับแต่งตั้งเป็นรัฐมนตรี ฟรองซัวส์ โอลลองด์เป็นแค่ที่ปรึกษาประธานาธิบดี ทำงานที่ได้รับมอบหมายเป็นเรื่องๆ
ในปี 1997 เมื่อลิโอเนล โจสแปง (Lionel Jospin) ได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรี ฟรองซัวส์ โอลลองด์ขึ้นเป็นเลขาธิการพรรคสังคมนิยมแทน และดำรงตำแหน่งนี้จนถึงปี 2008 ในฐานะเลขาธิการพรรคสังคมนิยม ฟรองซัวส์ โอลลองด์มีความชอบธรรมในการเป็นตัวแทนพรรคลงเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2007 แต่ต้องถอยออกมาเมื่อเซโกแลน รัวยาลต้องการลง เธอเป็นนักการเมืองพรรคสังคมนิยมที่มีคะแนนนิยมสูงมากในขณะนั้น มากกว่าสมาชิกระดับนำอื่นๆ อย่างโดมินิค สโตรส-กาห์น (Dominique Strauss-Kahn) โลรองต์ ฟาบีอุส (Laurent Fabius) มาร์ติน โอบรี (Martine Aubry) จึงได้รับเลือกเป็นตัวแทนพรรคสังคมนิยมในการเลือกตั้งประธานาธิบดี แต่พ่ายแพ้แก่นิโกลาส์ ซาร์โกซี (Nicolas Sarkozy)
ฟรองซัวส์ โอลลองด์เป็นเทศมนตรีเมืองตุล (Tulle) และเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดกอแรซ (Corrèze) เมื่อมีกฎห้ามมีสองตำแหน่ง จึงลาออกจากตำแหน่งแรก
ในปี 2011 ฟรองซัวส์ โอลลองด์ประกาศจะสมัครรับเลือกตั้งประธานาธิบดีในปี 2012 ราวกับไม่เกรงบารมีของโดมินิค สโตรส-กาห์น (Dominique Strauss-Kahn) ผู้อำนวยการกองทุนการเงินระหว่างประเทศ แต่แล้วโดมินิค สโตรส-กาห์นก็แพ้ภัยตนเอง ถูกจับที่นิวยอร์กฐานละเมิดทางเพศ เป็นข่าวฉาวไปทั่วโลก ถูกห้ามออกจากสหรัฐอเมริการะหว่างคดีความยังไม่สิ้นสุด จึงไม่สามารถสมัครในการคัดเลือกตัวแทนพรรคสังคมนิยมที่เรียกว่า primaire ผลก็คือฟรองซัวส์ โอลลองด์ได้เป็นตัวแทนพรรคสังคมนิยม และได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีในที่สุด
ฟรองซัวส์ โอลลองด์เป็นประธานาธิบดีที่ได้คะแนนนิยมต่ำกว่าประธานาธิบดีคนก่อนๆ ตั้งแต่เข้ารับตำแหน่ง ไม่สามารถลดอัตราการว่างงาน นโยบายเก็บภาษี 75% กับผู้ที่มีรายได้มากกว่า 1 ล้านยูโรทำให้การแข่งขันของฝรั่งเศสน้อยลง จนต้องเลิกนโยบายนี้ในที่สุด ไม่สามารถดำเนินนโยบายตามที่หาเสียงไว้ ความนิยมยิ่งตกต่ำลง ความนิยมของเขากระเตื้องขึ้นเมื่อเกิดการก่อร้ายในเดือนมกราคม 2015 และพฤศจิกายน 2015 เพราะบริหารจัดการกับสถานการณ์ได้ดีมาก และในวันที่ 11 มกราคม 2015 ได้จัดให้มีการเดินไว้อาลัยผู้เสียชีวิตจากการก่อการร้าย โดยมีผู้นำของนานาประเทศมาร่วมด้วย
ฟรองซัวส์ โอลลองด์เป็นประธานาธิบดีที่ชาวฝรั่งเศสปฏิเสธตลอดมา ความนิยมที่ไม่กระเตื้องขึ้นทำให้เขาประกาศไม่ลงเลือกตั้งอีกสมัย
