ค่ำวันเสาร์สุดสัปดาห์ของใครหลายคนที่พากันหาความสุขเพื่อผ่อนคลายเรื่องเครียดจากการทำงาน บางคนใช้เวลาส่วนใหญ่ในวันหยุดกับครอบครัว กับเพื่อน หรือคนรู้ใจ แต่มีคนกลุ่มหนึ่งเฝ้ารอให้ถึงราตรีกาลของวันเสาร์ด้วยใจจดจ่อ ผู้ค้าแผงลอยตลาดคลองถม
ตลาดคลองถม หรือที่ใครหลายคนรู้จักกันดีในนาม ตลาดมืด ตลาดไฟฉาย พื้นที่ที่เต็มไปด้วยของแปลก ของสะสมหายาก แหล่งที่รวบรวมร้านค้าเครื่องยนต์ เครื่องมือช่าง ของใช้ในบ้าน เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า โดยมีให้เลือกทั้งมือหนึ่ง มือสอง ถึงมือสาม สี่ ซึ่งกินพื้นที่ของถนนหลายสายด้วยกัน ตั้งแต่ถนนเสือป่า ถนนพลับพลาไชย ถนนมหาจักร ถนนยมราชสุขุม ถนนศรีธรรมราช ถนนเจ้าคำพร ถนนหลวง ถนนวรจักร และถนนเจริญกรุง ที่มีผู้ค้ามากกว่า 2,000 ราย ปักหลักตั้งแผงลอยขายสินค้าตั้งแต่ช่วงเย็นของวันเสาร์กระทั่งเช้าวันอาทิตย์
เสน่ห์ที่สามารถดึงดูดใจนักชอป นักสะสมได้เป็นอย่างดี คงหนีไม่พ้นเรื่องของสินค้าที่มีความแปลก หายาก ซึ่งของเก่าเหล่านี้มีคุณค่าในตัวเอง ส่วนในเรื่องการตรวจสอบว่าของจริงหรือของเก๊นั้น คงต้องอาศัยชั่วโมงบินของแต่ละคน ว่าจะช่ำชองมากน้อยเพียงใด หรืออาจเรียกได้ว่าใครจะซื้อสินค้าจากตลาดคลองถมนั้น ต้องยอมรับว่า “ตาดีได้ ตาร้ายเสีย” นักชอปบางกลุ่มอาจอาศัยความคุ้นชินจากการที่พ่อค้าแม่ขายเห็นหน้าบ่อยๆ ที่ช่วยสร้างความเชื่อใจมากขึ้น และนั่นช่วยให้ง่ายต่อการหาของที่ต้องการ กระนั้นตลาดคลองถมหรือตลาดมืด ก็ยังเป็นหมุดหมายของนักชอปยามราตรี
การค้าที่ปราศจากการตลาด การขายสินค้าแบกะดินไม่ต้องอาศัยหลักการตลาดที่เป็นระบบใดๆ นอกจาก “ถูกตาต้องใจ” เป็นเหตุผลหลักที่นำมาซึ่งรายได้ และสำหรับผู้ค้าบางคนรายได้จากตลาดแห่งนี้สามารถเลี้ยงดูครอบครัวได้ดี มากกว่ารายได้จากงานประจำหลายเท่าตัว ซึ่งในภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันการซื้อมาขายไปแม้จะไม่ได้กำไรมากมายเป็นกอบเป็นกำ เพียงแค่ให้พออยู่ได้ในแต่ละเดือนสำหรับบางครอบครัวก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
หากแต่เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2557 กรุงเทพมหานคร ประกาศมติหลังจากประชุมร่วมกับกองบัญชาการตำรวจนครบาลว่า ให้ผู้ค้าแผงลอยย่านคลองถมสามารถขายสินค้าได้ถึงแค่วันสิ้นปีนี้เท่านั้น โดยมีการหยิบยก พ.ร.บ.รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ.2535 ขึ้นมาเป็นเหตุผลในการออก Action ในครั้งนี้ โดย กทม.จะจัดพื้นที่รองรับผู้ค้าไว้ในจุดต่างๆ ได้แก่ ตลาดสายใต้เก่า ตลาดสนามหลวง2 ตลาดจตุจักร2
ดูจะเป็นเรื่องประหลาดใจไม่น้อยเมื่อ กทม. มีแนวนโยบายจัดระเบียบร้านค้าแผงลอยที่ตั้งกระจัดกระจายอยู่ทั่วกรุงเทพฯ จนเกิดเป็นตลาดนัดกลางคืนในหลายพื้นที่ หลังจากมีผู้ร้องเรียนถึงความเดือดร้อนเรื่องการกีดขวางการจราจร การขายสินค้าละเมิดลิขสิทธิ์ผิดกฎหมาย รวมไปถึงปริมาณขยะจำนวนมากที่ตามมาหลังตลาดเลิก
หลังรัฐบาลชุดใหม่เข้ามาบริหารประเทศพร้อมด้วยนโยบายที่กลายเป็นวลีติดปากคนไทยที่ว่า “คืนความสุขให้ประชาชน” ดูจะมีความพยายามให้เห็นว่ารัฐบาลพร้อมแก้ปัญหาที่สั่งสมมานานนับปี ไม่ว่าจะเรื่องการจ่ายเงินค่าจำนำข้าวของชาวนา การแก้ปัญหายาเสพติด รวมไปถึงกวาดล้างบ่อนการพนัน ที่ผลงานดูจะสร้างคะแนนบวกให้กับรัฐบาลใหม่ไม่น้อย อาจจะด้วยเหตุนี้เองที่กลายเป็นตัวช่วยกดปุ่มเปิดสวิตช์การทำงานของกรุงเทพมหานครอีกครั้ง
สำหรับบางคนอาจมองได้ว่า นี่เป็นของขวัญปีใหม่ที่ กทม. มอบให้คนกรุงในรอบหลายสิบปี คืนบาทวิถีที่สะอาด พร้อมเรียกคืนช่องการจราจรที่โดนเบียดบังไปในช่วงเวลาตั้งแต่เย็นวันเสาร์ถึงช่วงสายของวันอาทิตย์ ดูเป็นเรื่องน่าแปลกที่ กทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาออก Action เอาตอนนี้ภายใต้การดูแลของรัฐบาลประยุทธ์ ทั้งที่ได้ปล่อยให้ตลาดคลองถมค้าขายกันอย่างไร้ระเบียบยาวนานกว่า 40 ปี โดยไร้เงาผู้เกี่ยวข้องเข้ามาดูแลหรือจัดระเบียบตั้งแต่ต้น ซึ่งยังปล่อยให้บางเรื่องกลายเป็นปัญหาคาราคาซังมานานนับปี
แต่สำหรับกลุ่มผู้ค้าแล้วนี่อาจเป็นวิบากกรรมที่ กทม. หยิบยื่นให้กับคนหาค่ำกินเช้า เพราะการต้องย้ายออกจากตลาดคลองถม พื้นที่ที่สามารถการันตีรายได้ที่จะเข้ามาได้แล้ว สถานที่ใหม่ที่ กทม. จัดหาไว้ให้นั้นจะมีอะไรรับประกันได้ว่าเหล่านักชอปทั้งขาประจำและขาจรจะตามไปซื้อหรือมีรายได้เท่าเดิม
ก่อนหน้าที่จะมีการออกประกาศเรื่องการจัดระเบียบผู้ค้าย่านคลองถม กทม. เคยมีคำสั่งกับผู้ค้าแผงลอยบริเวณคลองหลอด ตลาดนัดกลางคืนหลังศาลฎีกามาแล้วก่อนหน้านี้ ด้วยเหตุผลที่เข้าใจได้ว่า พื้นที่บริเวณนั้นใกล้กับการก่อสร้างปรับปรุงของศาลฎีกาซึ่งอาจจะไม่ปลอดภัยต่อชีวิตของผู้ค้าและเหล่านักชอปยามค่ำในบริเวณดังกล่าว ทั้งที่ตลาดนัดกลางคืนคลองหลอดก็ไม่ได้สร้างความเดือดร้อนหรือกีดขวางการจราจรแต่อย่างใด
หากแต่ในกรณีของตลาดคลองถมนี่แม้จะมีเหตุผลอันสมควร แต่เนื่องด้วยเวลาที่ได้ปล่อยให้ล่วงเลยมาเนิ่นนานจนสร้างให้เกิดกลุ่มอิทธิพลที่หาผลประโยชน์จากย่านดังกล่าวตักตวงหาผลกำไรจากการอ้างความคุ้มครองจากกลุ่มผู้ค้า และประชาชนที่เดินทางมายังแหล่งชอปปิ้งยามค่ำแห่งนี้ นับเป็นการทำลายกลุ่มมาเฟียในย่านดังกล่าวไปโดยปริยาย
ล่าสุด 23 ธันวาคม 2557 หลังกลุ่มผู้ค้ารวมตัวกันเข้าเจรจากับ กทม. อีกครั้งจนได้ผลสรุปใหม่ที่ทำให้ยิ้มได้ทั้งสองฝ่าย จากเดิมทีเมื่อขึ้นศักราชใหม่ตลาดคลองถมจะกลายเป็นตำนาน แต่ กทม. ต่อลมหายใจให้ผู้ค้าย่านคลองถมออกไปถึงวันที่ 3 มีนาคม 2558 ภายใต้ข้อเสนอใหม่ที่พร้อมให้จัดระเบียบเหมือนถนนคนเดินเช่นเดียวกับพื้นที่สีลม ทั้งนี้บรรดาผู้ค้าพร้อมจะดูแลพื้นที่ดังกล่าวให้เป็นระเบียบเรียบร้อย และหวังว่าอาจจะได้รับการผ่อนปรนขยายเวลาเพิ่มเติมต่อไป
บทเรียนครั้งนี้ไม่ใช่สำหรับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องอย่าง กทม. เท่านั้น ยังเป็นบทเรียนสำคัญสำหรับผู้ค้าแผงลอยตามที่ต่างๆ ที่ทุกคนต้องพึงระลึกถึงหน้าที่ของตัวเองที่มีต่อสังคมส่วนรวมด้วยการแสดงออกถึงวินัยคนละเล็กคนละน้อย ซึ่งอาจช่วยให้ปัญหาเบาบางลงได้