Home > Cover Story (Page 145)

เสือติดปีก คอนเทนต์ใหม่ของแกรมมี่ ท่ามกลางวิกฤตทีวีดิจิตอล

 แม้ว่าวงการทีวีในประเทศไทยที่กำลังเปลี่ยนผ่านจากระบบอนาล็อกสู่ระบบทีวีดิจิตอลนั้นจะยังไม่สมบูรณ์เท่าใดนัก แต่การต่อสู้ฟาดฟันกันบนจอแก้วกำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นและดุเดือด ภายใต้เงื่อนไขแรกที่เป็นเม็ดเงินซึ่งก็นับเป็นปัจจัยสำคัญที่จะสร้างเสถียรภาพความมั่นคงในการทำธุรกิจทีวี หรือเงื่อนไขด้านคอนเทนต์เนื้อหาสาระของรายการที่จะผลิตออกมานำเสนอต่อผู้ชม กระนั้นหนึ่งในผู้ผลิตที่ถือใบอนุญาตประกอบกิจการทีวีดิจิตอลถึงสองช่องอย่าง บริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) มีความพยายามครั้งใหม่ในการสร้างรายการทีวีที่อุดมไปด้วยคอนเทนต์ที่น่าจะแตกต่างไปจากเดิม ซึ่งจะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับช่องได้มากกว่าเดิมที่เน้นหนักไปที่รายการเพลง ซีรีส์ และละคร แต่การสร้างคอนเทนต์ใหม่ในครั้งนี้ไม่ได้ใช้เพียงความชำนาญที่แกรมมี่มีอยู่เท่านั้น หากแต่ยังจับมือกับนักธุรกิจที่หลายคนให้การยอมรับว่าเป็นบุคคลที่มีสไตล์ของตัวเองอย่าง ตัน ภาสกรนที ด้วยการนำดีเอ็นเอของผู้บริหารอิชิตันเข้ามาใส่ในรายการที่มีชื่อว่า “เสือติดปีก”  ทั้งนี้คอนเซ็ปต์ของรายการจะเป็นการเฟ้นหานักธุรกิจสตาร์ทอัพเข้ามานำเสนอธุรกิจเพื่อพิชิตเงินลงทุนร่วมจากรายการ ซึ่งธุรกิจสตาร์ทอัพจะประสบความสำเร็จต้องอาศัยแรงหนุนด้านเงินทุนจากกลุ่ม Venture Capital หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์และวิสัยทัศน์  ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ประธานกรรมการบริษัท จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) และ ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ บริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) จัดตั้งบริษัท ไพบูลย์ แอนด์ ตัน จำกัด โดยตั้งเป้าให้เป็นองค์กรไม่แสวงหาผลกำไร ซึ่งมีจุดประสงค์หลักในการเฟ้นหาธุรกิจใหม่ๆ เพื่อร่วมลงทุนและพัฒนาจนประสบความสำเร็จ ผ่านบริษัท จุดตั้งต้น จำกัด บริษัท จุดตั้งต้น จำกัด

Read More

หวังใช้ SMEs Start Up กระตุ้นเศรษฐกิจประชารัฐ

 สถานการณ์เศรษฐกิจของไทยในศักราชใหม่แม้จะยังมองไม่เห็นทิศทางความเป็นไปที่แน่ชัดนัก หากแต่ภาครัฐก็ยังพยายามอย่างเต็มกำลังที่จะสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนด้วยนโยบายใหม่ๆ  ซึ่งหนึ่งในนโยบายใหม่เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของไทย คือนโยบายที่น่าจะส่งผลดีต่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ได้เคยมอบนโยบายให้ สสว. หรือสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อมุ่งพัฒนากลุ่ม Start Up และเชื่อมต่อ SMEs ไทยกับต่างประเทศ ทั้งนี้ภาคเอกชนที่ขานรับนโยบายจากรัฐบาล และนำมาเป็นคอนเทนต์ใส่ในรายการทีวีคือ รายการเสือติดปีก ภายใต้การดูแลของไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม และ ตัน ภาสกรนที ซึ่งเป็นรายการที่เฟ้นหากลุ่มธุรกิจ Start Up ให้เข้ามานำเสนอแผนธุรกิจและหาความเป็นไปได้ในการเติบโต รวมถึงโอกาสที่จะได้เงินลงทุนเพิ่มเติมจากรายการ การขยับอีกครั้งเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐระลอกใหม่ คือ ลงนามความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ และเอกชนกว่า 60 องค์กร ในโครงการ “สานพลังประชารัฐ ส่งเสริม SMEs Start Up & Social Enterprises” เพื่อเสริมศักยภาพและความเข้มแข็งให้แก่เอสเอ็มอีไทย  อย่างไรก็ตาม จำนวนธุรกิจเอสเอ็มอีของไทยในปัจจุบันคิดเป็น 95 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจทั้งหมด และมีการจ้างงานกว่า 50 เปอร์เซ็นต์ของธุรกิจทั้งหมด ดังนั้นเอสเอ็มอีจึงมีส่วนสำคัญต่อการสร้างงาน

Read More

“เคอีแลนด์” ดันบิ๊กโปรเจกต์ มิกซ์ยูส ทาวน์ เซ็นเตอร์

 แนวรบค้าปลีกเลียบทางด่วนรามอินทราเพิ่มดีกรีความร้อนแรงมากขึ้นและกลายเป็น “รีเทลฮับ” อีกจุดใหญ่ โดยเฉพาะ “เซ็นทรัล” ที่เข้ามาปักหมุดผุด “อีสต์วิลล์” กับเจ้าถิ่น “เค.อี.แลนด์” ซึ่งล่าสุดขยายเฟสใหม่ เปิดตัว “เดอะคริสตัล วีรันด้า” และมีแผนลงทุนบิ๊กโปรเจกต์ต่อเนื่อง ขยาย “คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ (ซีดีซี)” และต่อยอดสู่โครงการ “มิกซ์ยูส ทาวน์ เซ็นเตอร์” มูลค่าหลายหมื่นล้านบาท ทั้งหมดเป็นการทยอยต่อจิ๊กซอว์พลิกที่ดินในมือกว่า 300 ไร่ ตั้งแต่การพัฒนาโครงการที่อยู่อาศัยระดับไฮเอนด์เมื่อ 10 กว่าปีก่อน เริ่มจากทาวน์เฮาส์ “คริสตัลวิลล์” ตามด้วยคฤหาสน์สไตล์เบเวอร์ลี่ ฮิลล์ “คริสตัลพาร์ค” ราคาหลังละ 80 ล้านบาท เปิดบ้านเดี่ยวสไตล์คฤหาสน์ “แกรนด์ คริสตัล”แล้วเติมเต็มคอมมูนิตี้มอลล์ระดับหรู “เดอะคริสตัล” รองรับกลุ่มผู้อยู่อาศัย ทั้งในโครงการและพื้นที่ใกล้เคียงทั้งหมด  จนกระทั่งปี 2553 ลงทุนสร้างโครงการ คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์ ซึ่งถือเป็นศูนย์ดีไซน์ครบวงจรฉีกแนวแห่งแรกที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทยและเอเชีย ณ

Read More

จาก “เทสโก้” ถึง “คาสิโน กรุ๊ป” ศึกไฮเปอร์มาร์เก็ตพลิกโฉม

 ไม่ว่าจะเป็นการประกาศขายหุ้น “บิ๊กซี ประเทศไทย” ของ “คาสิโน กรุ๊ป” บิ๊กรีเทลสัญชาติฝรั่งเศส หรือกระแสข่าวโละกิจการ “เทสโก้ โลตัส” ของกลุ่มค้าปลีกข้ามชาติจากสหราชอาณาจักร ซึ่งยืดเยื้อยาวนานมากกว่า 1 ปีและยังไร้ข้อสรุปที่แน่ชัด “ขาย-ไม่ขาย” ยิ่งตอกย้ำถึงภาวะ “ดาวน์เทรนด์” ของไฮเปอร์มาร์เก็ตที่เกิดขึ้นทั่วโลก  ที่สำคัญ ธุรกิจค้าปลีกยุคใหม่จะอยู่รอดได้ ต้องสร้างเครือข่ายหลากหลายรูปแบบ เพื่อเจาะตลาดทุกเซกเมนต์ ทั้งไฮเปอร์มาร์เก็ตขนาดใหญ่ เน้นสินค้าราคาถูก  ปรับจากไฮเปอร์มาร์เก็ต เพิ่มแม็กเน็ตกลายเป็น “ไลฟ์สไตล์มอลล์” และไม่ใช่มีแค่ซูเปอร์มาร์เก็ต ต้องเพิ่มฟู้ดฮอลล์ ในบางทำเลต้องเน้นมินิไซส์เป็น “มินิซูเปอร์มาร์เก็ต” รองรับชุมชนเกิดใหม่ ขณะที่คอนวีเนียนสโตร์ต้องเพิ่มพื้นที่คาเฟ่สไตล์ “แฮงก์เอาต์” สนองคนรุ่นใหม่ ซึ่งทั้งหมดเป็นเกมที่ทุนค้าปลีกไทยกำลังเร่งวางยุทธศาสตร์แข่งขันยึดตลาดอย่างเข้มข้น ขณะเดียวกัน ปัจจัยเสี่ยงด้านเศรษฐกิจที่มีผลต่อกำลังซื้อยังบีบให้พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และมีความหลากหลายต่างจากอดีตอย่างสิ้นเชิง ทั้งนี้ หากดูข้อมูลของบริษัท กันตาร์ เวิลด์พาแนล (ไทยแลนด์) จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจการวิจัยพฤติกรรมการจับจ่ายของผู้บริโภคในกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภค โดยวิจัยพฤติกรรมการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2542-2558 จากกลุ่มตัวอย่าง 4,000 ครัวเรือนทั่วประเทศ ทั้งเขตเมืองและต่างจังหวัด

Read More

มวยไทย มาเนีย อคาเดมี ศาสตร์มวยไทยลดน้ำหนักสำหรับคนรุ่นใหม่

 กระแสความนิยมในศิลปะแม่ไม้มวยไทยในช่วงหลายปีที่ผ่านมาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จากเดิมที่เคยเป็นกีฬาเฉพาะผู้ชาย แต่ในปัจจุบันความสนใจขยายวงกว้างไปยังทุกเพศ ทุกวัย ทั้งคนไทยและต่างชาติ ทำให้มีการเกิดใหม่ของโรงเรียนสอนมวยไทยต่างๆ มากมาย เพื่อตอบสนองกระแสความนิยมดังกล่าว แต่ละค่ายต่างชูเอกลักษณ์และงัดจุดขายเพื่อหวังดึงดูดกลุ่มลูกค้า รวมถึง “มวยไทย มาเนีย อคาเดมี” โรงเรียนสอนมวยไทยเพื่อการลดน้ำหนักแห่งแรกของประเทศไทย ที่มาพร้อมคอนเซ็ปต์แหวกแนว “ผอมเร็ว หุ่นดี น้ำหนักลดทันที ด้วยมวยไทยอย่างถูกต้อง” มวยไทย มาเนีย อคาเดมี (Muaythai Mania Academy) หรือ MTM เกิดจากความชื่นชอบและหลงใหลในศาสตร์แห่งมวยไทยและการออกกำลังกายของสุพจน์ ลีลาพิสุทธิ์ ผู้ริเริ่มและเป็นหนึ่งในแกนหลักของมวยไทย มาเนีย อคาเดมี พร้อมหุ้นส่วนอีก 3 คน ที่เริ่มจากเพื่อนร่วมชั้นเรียนจนกลายมาเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ เพราะมีความชอบที่คล้ายกัน เมื่อรู้สึกว่าการทำงานในบริษัทไม่ตอบโจทย์ชีวิต สุพจน์จึงเริ่มมองหาช่องทางใหม่ๆ เพื่อทำในสิ่งที่ต้องการ ด้วยความที่รักการออกกำลังกายและชอบเรียนรู้เกี่ยวกับศิลปะป้องกันตัวต่างๆ ทั้งเทควันโด ยูโด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “มวยไทย” จึงทำให้เกิดความคิดในการเปิดโรงเรียนสอนมวยไทยที่ผสมผสานการออกกำลังกายเพื่อการลดน้ำหนักที่ให้ผลจริงเพื่อตอบสนองความต้องการของคนรุ่นใหม่ เริ่มจากการศึกษา ค้นคว้าทั้งในเรื่องของศาสตร์มวยไทย และวิธีการออกกำลังกาย ทดลองเรียนตามค่ายมวยและยิมต่างๆ เพื่อศึกษาข้อดี ข้อเสีย จนตกผลึกและกลายมาเป็น

Read More

ตลาดลูกอม 8 พัน ลบ. “ฮอลล์” ขอเป็นที่หนึ่ง

 แม้จะเป็นข่าวขนมๆ เรื่องลูกอม ซึ่งหลายคนอาจมองข้าม หากแต่ในความเป็นจริงธุรกิจลูกอมเช่นว่านี้กลับมีมูลค่าทางการตลาดมากถึงกว่า 8,000 ล้านบาทในช่วงปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเติมโตขึ้นอีกในแต่ละช่วงปีแม้จะด้วยสัดส่วนไม่หวือหวาไปสู่ระดับ 8,200 ล้านบาทก็ตาม การดำรงอยู่ของตลาดลูกอมในระดับ 8,000 ล้านบาทไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยหรือควรละเลยมองข้าม แม้ข้อเท็จจริงที่อาจสร้างความประหลาดใจให้กับผู้คนจำนวนไม่น้อยอยู่ที่ตลาดหลักของผลิตภัณฑ์ลูกอมนี้เกิดขึ้นและดำเนินไปภายใต้โครงข่ายของร้านขายของชำ และพฤติกรรมการจำหน่ายแบบ 3 เม็ด 2 บาท ที่กลายเป็นกลไกหลักและตลาดใหญ่ในการสร้างมูลค่ารวมนับ 8 พันล้านบาท “ตลาดค้าปลีก (Traditional Trade) ตามร้านของชำ ร้านโชวห่วย ที่ขายในราคา 3 เม็ด 2 บาท ยังคงถือเป็นหลักและตลาดใหญ่ แต่ในขณะเดียวกันฮอลล์ได้มุ่งหวังขยายฐานผู้บริโภคไปยังกลุ่มลูกค้าคนเมืองด้วย” กรกต วุฒิหิรัญธำรง ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กลุ่มผลิตภัณฑ์ลูกอมและหมากฝรั่ง บริษัท มอนเดลิซ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต “ฮอลล์” ระบุ ฮอลล์พยายามเจาะกลุ่มพรีเมียมเซกเมนต์ ด้วยการเปิดตัวฮอลล์ เอ็กเอส เมื่อช่วงเดือนกันยายน 2557 เพื่อขยายกลุ่มเป้าหมายผู้บริโภควัยทำงานในเมือง ที่มีอายุระหว่าง 25-34

Read More

เครื่องเงินวัวลายภูมิปัญญาล้านนา เสน่ห์แห่งหัตถศิลป์เชียงใหม่

 แม้ว่าเชียงใหม่จะมีสินค้าหัตถกรรมพื้นเมืองขึ้นชื่อหลายอย่าง ทั้งร่มจากบ้านบ่อสร้าง งานแกะสลักไม้ของบ้านถวาย ผลิตภัณฑ์ผ้าทอจากอำเภอแม่แจ่ม แต่ยังมีอีกหนึ่งหัตถศิลป์ที่แอบซ่อนอยู่บนถนนสายสั้นๆ อย่างถนนวัวลาย คือเครื่องเงินที่หลายคนเรียกขานกันว่า “เครื่องเงินวัวลาย” นับเป็นอีกหนึ่งภูมิปัญญาจากล้านนาที่ถูกส่งต่อกันมาหลายร้อยปีแล้ว ตั้งแต่พญามังรายสร้างเมืองเชียงใหม่ ในครั้งที่สร้างความสัมพันธ์กับดินแดนพุกาม พร้อมทั้งมีการเจรจาขอช่างฝีมือเพื่อฝึกอาชีพให้กับชาวเชียงใหม่ นับแต่นั้นช่างฝีมือหัตถกรรมพื้นเมืองได้รับการฝึกฝนและสืบทอดกันมาอย่างต่อเนื่อง ช่วงปี พ.ศ. 2310 ภายหลังจากเชียงใหม่ตกเป็นเมืองขึ้นของพม่า พระเจ้ากาวิละ พระเจ้าตากสินมหาราช และพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช ร่วมกันขับไล่พม่าออกจากเมืองเชียงใหม่ ในเวลานั้นเชียงใหม่กลายเป็นเมืองร้างร่วม 20 ปี (พ.ศ. 2319-2339) เนื่องจากประชาชนหนีภัยสงครามไปอาศัยอยู่ตามป่าเขา นโยบาย “เก็บผักใส่ซ้า เก็บข้าใส่เมือง” จึงเกิดขึ้นเพื่อเป็นการประกาศให้ประชาชนกลับเข้ามาอยู่ในเมืองเช่นเดิม หลังสงครามมีการกวาดต้อนผู้คนให้เข้ามาตั้งรกรากในเมืองเชียงใหม่ ทั้งหมอ โหร ช่างฝีมือ ทั้งนี้ยังมีการฝึกอาชีพให้ประชาชน ในครั้งนั้นเจ้าขันแก้ววัวลายในฐานะผู้นำของชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกรอบๆ วัดหมื่นสาร ได้ส่งชาวบ้านวัวลายให้เข้าไปเรียนรู้การทำเครื่องเงินในคุ้มหลวงและทำสืบต่อกันมาจนกระทั่งปัจจุบัน ในอดีตชาวบ้านในชุมชนวัวลายซึ่งส่วนใหญ่มีอาชีพทำนา ทั้งนี้เมื่อหมดช่วงฤดูทำนาชาวบ้านมักจะทำเครื่องเงินเป็นอาชีพเสริมซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาจากบรรพบุรุษ และแน่นอนว่าทำให้เกือบทุกหลังคาเรือนมีโรงงานขนาดเล็กที่เรียกว่า “เตาเส่า” สำหรับทำเครื่องเงิน ในยุคนั้นสมาชิกในครอบครัวจะช่วยกันทำเครื่องเงินเพื่อใช้ในชีวิตประจำวันและเพื่อการค้า โดยหาซื้อแร่เงินจากพ่อค้าชาวจีนจากตัวเมืองเชียงใหม่นำมาตีขึ้นรูป ทั้งนี้ในระยะแรกผลิตภัณฑ์จากเครื่องเงินทำขึ้นเพื่อเป็นส่วยตามความต้องการของเจ้านาย ต่อมาเศรษฐกิจดีขึ้นมีการขยายตัวทางการค้ากับชาติอื่นมากขึ้น เครื่องเงินจึงถูกนำมาเป็นสินค้าแลกเปลี่ยน และเมื่อเจ้านายชั้นสูงเริ่มเปลี่ยนมาใช้เครื่องทอง ทำให้สามัญชนสามารถใช้เครื่องเงินได้ อย่างไรก็ตาม เครื่องเงินวัวลายในอดีตมักจะทำออกมาในรูปแบบของภาชนะ เช่น สลุง พาน

Read More

พีเอฟพีเปิดเกมรุก AEC ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมือง

 หลังจากที่ประมงไทยได้รับเทียร์ 3-ใบเหลือง จากคณะกรรมการจากสหภาพยุโรปไปเมื่อวันที่ 21 เมษายน 2558 และให้เวลาในการแก้ไขปรับปรุงมาตรฐานการทำประมงไทย 6 เดือน ดังนั้นเป็นที่น่าจับตามองว่าระหว่างวันที่ 18-23 มกราคม 2559 ที่ผ่านมานั้น การตรวจสอบเพื่อประเมินผลงานการแก้ปัญหาการทำประมงผิดกฎหมาย ขาดการรายงานและไร้การควบคุม หรือ ไอยูยู ฟิชชิ่ง อียูจะสรุปผลออกมาเป็นอย่างไร ขณะที่บริษัทชั้นนำอย่าง พี.เอฟ.พี. ออกมาแถลงข่าวและตั้งเป้าหมายทิศทางการดำเนินงานทางธุรกิจว่าจะทำให้กลุ่มธุรกิจอาหารทะเลแช่แข็งโตขึ้น 15-20 เปอร์เซ็นต์ พร้อมลุยตลาดอาเซียนอย่างเต็มตัวเนื่องในโอกาสครบรอบ 30 ปี ทวี ปิยะพัฒนา ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัท พี.เอฟ.พี. ออกมายอมรับว่าภาพรวมเศรษฐกิจของไทยไม่ค่อยสวยนัก พร้อมทั้งเข้าใจภาครัฐเพราะการแก้ปัญหาต้องใช้เวลา เพราะไม่ใช่ประเทศไทยประเทศเดียวที่ประสบปัญหาด้านเศรษฐกิจ อีกทั้งรัฐบาลยังอัดเม็ดเงินเข้าระบบซึ่งทำให้มั่นใจมากขึ้นที่จะเดินหน้าธุรกิจต่อไป ซึ่งในปีนี้บริษัทยังตั้งเป้ายอดขายรวมที่ประมาณ 6,000 ล้านบาท ที่มาพร้อมกลยุทธ์ทางการตลาดที่สร้างให้ครอบคลุมและเข้าถึงผู้บริโภคได้มากยิ่งขึ้น ทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ โดยสัดส่วนการจำหน่ายภายในประเทศอยู่ที่ 60 เปอร์เซ็นต์ และส่งออกต่างประเทศ 40 เปอร์เซ็นต์  แต่ทั้งนี้ประมาณการณ์ดังกล่าวไม่ใช่สิ่งตายตัว ซึ่งต้องอาศัยการคาดการณ์สภาวะเศรษฐกิจและสภาพคล่องของตลาดเป็นหลัก โดยสัดส่วนตัวเลขดังกล่าวยังสามารถปรับเปลี่ยนได้ตามที่เห็นสมควร เมื่อดูคำอธิบายจากนายใหญ่ของ พี.เอฟ.พี. แล้วเห็นได้ชัดว่าลึกๆ แล้วก็ยังคงมีความไม่มั่นใจในสภาวะเศรษฐกิจทั่วโลก

Read More

อิชิตันเดินหน้าเต็มกำลัง สร้างกลยุทธ์รุกทุกช่องทาง

  หลังจากโออิชิแถลงผลประกอบการ รวมไปถึงกลยุทธ์การตลาดสำหรับศักราชใหม่ไปก่อนหน้านี้ไม่นาน ซึ่งเห็นได้ชัดว่าสำหรับโออิชิแล้วยังคงมุ่งมั่นไปที่ตลาดชาผลไม้ที่มีอัตราการเติบโตอยู่ในเกณฑ์ที่ดี อีกทั้งยังยืนยันความเป็นผู้นำตลาดรวมชาพร้อมดื่มด้วยส่วนแบ่ง 45 เปอร์เซ็นต์ และอีกค่ายที่ตัดสินใจแถลงข่าวตามมาติดๆ ซึ่งถือเป็นคู่แข่งที่เรียกได้ว่ามักจะสร้างสีสันให้กับวงการชาพร้อมดื่มได้อย่างสนุก อิชิตันเองออกมาประกาศเป้าหมายในปีนี้ รวมถึงการเคลมว่าตนเองนั้นก็เป็นผู้นำของตลาดชาพร้อมดื่มด้วยส่วนแบ่ง 43.4 เปอร์เซ็นต์  กระนั้นสิ่งที่น่าสนใจของอิชิตันคือเป้าหมายที่ตั้งเอาไว้ในเรื่องของยอดขาย 7,500 ล้านบาท ที่จะต้องทำให้ได้เมื่อสิ้นสุดปี 2559 ซึ่งปี 2558 อิชิตันสรุปรายได้ประมาณที่ 6,400 ล้านบาท หากดูจากเป้าประสงค์ของอิชิตันแล้ว คล้ายจะแสดงให้เห็นว่าผู้บริหารของอิชิตันจะมั่นใจในนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา โดยภาพรวมการแข่งขันของตลาดชาพร้อมดื่มในช่วงปีที่ผ่านมาดำเนินไปอย่างเข้มขัน และพบว่าจากข้อมูลตัวเลขการบริโภคชาพร้อมดื่มล่าสุดตลอดปี 2558 มีปริมาณการบริโภคชาพร้อมดื่ม (Volume) 470.7 ล้านลิตร ซึ่งขยายตัวขึ้น 0.7 เปอร์เซ็นต์  แม้ว่าในแง่มูลค่าของตลาดชาพร้อมดื่มปี 2558 อยู่ที่ 15,574 ล้านบาท ลดลงจากปี 2557 ถึง 2.5 เปอร์เซ็นต์ โดยมีอิชิตันถือครองส่วนแบ่งการตลาดไป 43.4 เปอร์เซ็นต์ โออิชิ 35.9 เปอร์เซ็นต์ เพียวริคุ 5.7 เปอร์เซ็นต์

Read More

Thailand Tourism Festival เมื่อการท่องเที่ยวคือตัวช่วยสุดท้าย

 ข่าวการลงทุนในโครงการเพื่อสร้างสวนสนุกและศูนย์การเงินนานาชาติที่เขตเศรษฐกิจพิเศษท่าแขก แขวงคำม่วน สปป. ลาว ในนาม Thakhaek Ehsan International Financial Centre มูลค่านับหมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยบริษัท Akane Farm Sole เมื่อไม่นานมานี้ ดูจะกระตุ้นความสนใจและการรับรู้ในความเป็นไปของประเทศเพื่อนบ้านรับศักราชใหม่แห่ง AEC ไม่น้อยเลย แม้ว่ารายละเอียดของรายงานข่าวดังกล่าว จะยังไม่สามารถให้รายละเอียดที่บ่งบอกกำหนดระยะเวลาและรูปธรรมที่ชัดเจนของโครงการที่กำลังจะเกิดขึ้นได้มากนัก หากแต่กรณีที่ว่านี้สามารถบ่งบอกทิศทางของการพัฒนาในอนาคตได้อย่างชัดเจน เพราะนอกเหนือจากการยกระดับการพัฒนาทางเศรษฐกิจด้วยการเสริมสร้างศักยภาพการแข่งขันในระบบพาณิชย์ อุตสาหกรรมและการเพิ่มผลผลิตแล้ว ดูเหมือนว่าการท่องเที่ยวได้กลายเป็นแหล่งรายได้ที่สามารถดึงดูดเงินตราต่างประเทศอย่างสำคัญของทุกประเทศใน AEC ไปแล้ว การเปิดพื้นที่ของเพื่อนบ้านใน AEC ซึ่งต่างมีทรัพยากรธรรมชาติและรากฐานทางศิลปะ วัฒนธรรมหลากหลายให้นักท่องเที่ยวจากทั่วทุกมุมโลกได้ร่วมเก็บรับและเรียนรู้ประสบการณ์ความเป็นไปของชุมชนในภูมิภาคนี้ กำลังขยับใกล้เข้ามาท้าทายธุรกิจท่องเที่ยวไทยอย่างไม่อาจละสายตา เนื่องเพราะกรณีเช่นว่านี้ ไม่เพียงแต่จะช่วงชิงจำนวนนักท่องเที่ยวในตลาดระดับนานาชาติ หากยังพร้อมที่จะกลายเป็นทางเลือกใหม่ๆ ให้เกิดขึ้นรองรับกับตลาดภายในของ AEC ที่กำลังขยายตัวจากการก้าวสู่การเป็นประชาคม AEC ที่มีความเข้มข้นขึ้นด้วย กรณีดังกล่าวได้ส่งผลให้การแข่งขันในระดับสากลของธุรกิจการท่องเที่ยวมีสภาพไม่แตกต่างจากการแข่งขันเพื่อส่งออกสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ในเชิงธุรกิจอุตสาหกรรมชนิดอื่นๆ เพียงแต่ “การซื้อ” ในมิติของการท่องเที่ยวอาศัยการไหลเข้าของผู้คนในฐานะที่เป็นแหล่งที่มาของรายได้เข้าสู่ประเทศเท่านั้นเอง ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจประการหนึ่งอยู่ที่พฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปของนักท่องเที่ยว มิได้จำกัดอยู่เฉพาะในมิติที่จะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในเชิงรูปแบบเท่านั้น หากในอีกด้านหนึ่งกรณีดังกล่าวกำลังส่งสัญญาณให้เกิดการปรับเปลี่ยนในมิติของการกำหนดกลุ่มเป้าหมายนักท่องเที่ยวในระยะยาวด้วย สถิติของจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยในช่วงที่ผ่านมาได้สะท้อนให้เห็นการเติบโตขึ้นอย่างมีนัยสำคัญของนักท่องเที่ยวที่เป็นชาวเอเชียด้วยกัน ซึ่งสามารถครองส่วนแบ่งได้มากถึงกว่า 45-50% ของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติทั้งหมดที่เข้ามาในประเทศไทย โดยในจำนวนนี้เป็นนักท่องเที่ยวจากประเทศสมาชิกอาเซียนมากถึงกว่า 20-30% เลยทีเดียว ข้อมูลจากการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยระบุว่า ในปี 2558 ที่ผ่านมาประเทศไทยมีรายได้จากนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศสูงถึง 1.44

Read More