วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
Home > Life > เดอะ ฟุกเกอร์ไรน์ (The Fuggerei) บ้านเอื้ออาทรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

เดอะ ฟุกเกอร์ไรน์ (The Fuggerei) บ้านเอื้ออาทรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

 
“ที่อยู่อาศัย” หนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ซึ่งมีหลากรูปแบบหลายระดับ ตั้งแต่ กระท่อม แฟลต บ้าน คฤหาสน์ ไปจนถึงพระราชวัง ขึ้นอยู่กับผู้เป็นเจ้าของ การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทำให้เราพบเห็น “บ้าน” ในมิติและลักษณะที่ต่างกันออกไป วันนี้เราจะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักบ้านในอีกลักษณะหนึ่งที่มีทั้งประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจและบรรยากาศที่แสนมีเสน่ห์ อย่าง “เดอะ ฟุกเกอร์ไรน์” บ้านเอื้ออาทรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก
 
เดอะ ฟุกเกอร์ไรน์ (The Fuggerei) คือชุมชนสำหรับผู้มีรายได้น้อยโดยเฉพาะ ตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี อาจมีหลายคนสงสัยว่าชุมชนสำหรับผู้มีรายได้น้อยแห่งนี้น่าสนใจตรงไหนเพราะฟังดูก็เหมือนจะธรรมดา ไม่ใคร่จะมีอะไรดึงดูดใจเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ แต่ขอบอกค่ะว่าที่แห่งนี้ไม่ธรรมดา ส่วนจะไม่ธรรมดาแบบไหน มาสัมผัสพร้อมกันได้เลย
 
ฟุกเกอร์ไรน์ตั้งอยู่ในเมือง Augsburg แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สำหรับตัวเมือง Augsburg เองนั้นถือว่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคโรมัน ราวๆ 15 ปีก่อนคริสตกาล จักรพรรดิ Augustus แห่งโรมัน ได้สร้างค่ายทหารโรมันขึ้นที่นี่ในชื่อ Augusta Vindelicorum นับว่าเป็นเมืองที่ทรงอิทธิพลอย่างมาก เพราะมีชัยภูมิที่เหมาะสมทำให้เมืองเป็นศูนย์กลางทางการค้า ศาสนา และการคมนาคม
 
Augsburg เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันมาอย่างยาวนาน จนเมื่อจักรวรรดิโรมันล่มสลายลง เมือง Augsburg จึงเป็นอิสระในการปกครองตนเองก่อนจะถูกผนวกเข้าเป็นส่วนหนึ่งของราชอาณาจักรบาวาเรีย และกลายเป็นส่วนหนึ่งของประเทศเยอรมนีในที่สุด
 
สองข้างทางของตัวเมือง Augsburg ที่นำเราไปสู่ฟุกเกอร์ไรน์นั้นรายล้อมด้วยตึกสมัยใหม่จนไม่น่าเชื่อว่าจะมีชุมชนอายุหลายร้อยปีฝังตัวอยู่ที่นี่ แต่ทันทีที่เราเดินผ่านประตูโค้งที่ทำหน้าที่ต้อนรับผู้มาเยือนเข้ามาด้านในของฟุกเกอร์ไรน์แล้ว ความรู้สึกราวกับหลุดมาอยู่ในอีกยุคหนึ่ง แค่อาคารเก่าแก่ที่อยู่ด้านหน้าก็ขลังและทำให้เราก้าวเข้าไปสัมผัสกับบรรยากาศภายในของฟุกเกอร์ไรน์ได้อย่างไม่ลังเล
 
จากประตูโค้งด้านหน้า เราได้พบกับอาคารสองชั้นสีส้มทอดตัวยาวเป็นแถวๆ แต่ละแถวมีถนนคั่นกลาง คะเนจากสายตาแล้ว นับว่าชุมชนแห่งนี้มีบริเวณกว้างขวางมากจริงๆ แล้วชุมชนสำหรับผู้มีรายได้น้อยที่มีอาณาเขตกว้างใหญ่ขนาดนี้ มีประวัติและความเป็นมาอย่างไร ทำไมถึงฝังตัวอยู่ในเมืองใหญ่อย่าง Augsburg มายาวนานหลายร้อยปี….เราไปทำความรู้จักที่แห่งนี้กันเลยค่ะ
 
ฟุกเกอร์ไรน์คือสถานที่ที่สร้างขึ้นมาเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับผู้ที่มีรายได้น้อยโดยเฉพาะ ผู้ที่สร้างชุมชนแห่งนี้ขึ้นมาคือ จาคอบ ฟุกเกอร์ (Jakob Fugger, Jakob Fugger the Rich) ซึ่งตระกูลฟุกเกอร์ได้ชื่อว่าเป็นตระกูลที่มั่งคั่งและมีบทบาทสำคัญต่อเมือง Augsburg โดยรุ่นแรกของตระกูลฟุกเกอร์ได้เริ่มเข้ามาตั้งถิ่นฐานในเมือง Augsburg ราวๆ ปี ค.ศ.1367 ดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสิ่งทอและค้าขายในตอนต้น ก่อนที่จาคอบจะขยายความสนใจไปยังการทำเหมืองเงินและค้าขายกับทางเมืองเวนิสในระยะต่อมา นอกจากนี้เขายังเป็นนักการเงินและมีสายสัมพันธ์อันดีกับชนชั้นสูงในยุคนั้น
 
มีแล้วเผื่อแผ่….จาคอบแบ่งปันความมั่งคั่งที่เขามีเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ขัดสนและยากไร้ โดยได้สร้างฟุกเกอร์ไรน์ขึ้นให้กับผู้ที่มีรายได้น้อยได้มีที่อยู่อาศัย เปรียบเสมือนบ้านเอื้ออาทรหรือการเคหะในสมัยนี้ เพราะคิดค่าเช่าแสนถูก เพียงแค่ 1 Rheinischer Gulden (หน่วยเงินสมัยนั้น) หรือเทียบเท่ากับ 0.88 ยูโรต่อปีเท่านั้น และยังคงเป็นอัตราค่าเช่าคงที่ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน 
 
โดยผู้ที่สามารถเข้ามาเช่าอยู่ในฟุกเกอร์ไรน์ได้นั้นต้องเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในเมือง Augsburg มาแล้วอย่างน้อย 2 ปี มีความศรัทธาในคาทอลิก และเป็นผู้มีรายได้น้อยแต่ปราศจากหนี้สิน นอกจากนี้ยังต้องปฏิบัติตามกฎที่ฟุกเกอร์ไรน์กำหนดขึ้น คือ ผู้เช่าต้องสวดมนต์วันละสามเวลา
 
โครงการฟุกเกอร์ไรน์ดำเนินการก่อสร้างขึ้นระหว่างปี ค.ศ.1514–1523 ประกอบไปด้วยบ้านจำนวน 67 หลัง และอพาร์ตเมนต์อีก 140 ห้อง บนพื้นที่ขนาดใหญ่ มีกำแพงล้อมโดยรอบ และมีประตูเข้าออก ซึ่งประตูทางเข้าออกนี้จะปิดตอน 22.00 น. ของทุกวัน ลักษณะเหมือนเมืองย่อมๆ ซ้อนอยู่ในเมืองใหญ่อีกที
 
แม้ว่าจะเป็นบ้านพักสำหรับผู้มีรายได้น้อย แต่ก็ไม่ได้สร้างแบบขอไปที กลับสร้างด้วยความประณีตใส่ใจ ภายใต้การกำกับดูแลของสถาปนิกอย่าง Thomas Krebs ทำให้ที่แห่งนี้สวยงามและมีเสน่ห์ เมื่อก้าวเข้ามาในฟุกเกอร์ไรน์เราจะพบกับกลุ่มอาคารสองชั้นสีส้มทอดตัวเป็นแถวยาว คั่นกลางด้วยถนน สีส้มของตัวอาคารตัดกับสีเขียวของบานประตูและหน้าต่าง ขอบหน้าต่างสีขาวสะอาดตายิ่งส่งให้ตัวอาคารดูโดดเด่น ตามอาคารมีเถาไม้เลื้อยอย่างต้น Boston Ivy ขึ้นปกคลุมสร้างลวดลายแปลกตาให้กับอาคาร เมื่อถึงฤดูใบไม้เปลี่ยนสี ใบของต้น Boston Ivy ก็จะเปลี่ยนจากสีเขียว เป็นส้ม เหลือง และแดง ก่อนจะสลัดใบทิ้งสร้างบรรยากาศที่สวยงามดูขลังแบบอาคารสมัยเก่า
 
อาคารเหล่านี้คือ “บ้าน” ของผู้ที่อยู่ในฟุกเกอร์ไรน์นั่นเอง แต่ละยูนิตมีทางเข้าส่วนตัว ประกอบไปด้วยห้องครัว ห้องรับแขก ห้องนอน และห้องสำรองเล็กๆ อีก 1 ห้อง ทั้งหมดนี้อยู่ในพื้นที่ราวๆ 60 ตารางเมตร นอกจากนี้ชั้นล่างยังมีสวนเล็กๆ และมีห้องใต้หลังคาอยู่ชั้นบนอีกด้วย ให้ความรู้สึกเป็นบ้านจริงๆ ภายในบ้านประกอบด้วยเครื่องอำนวยความสะดวกที่ทันสมัย เช่น โทรทัศน์ น้ำประปา เป็นต้น
 
จุดเด่นของฟุกเกอร์ไรน์อีกอย่างหนึ่งคือ ที่ประตูทางเข้าของบ้านแต่ละหลัง เราจะเห็นแท่งเหล็กเรียวยาวห้อยอยู่ข้างประตูทุกบ้าน แท่งเหล็กนี้ที่จริงแล้วคือกระดิ่งที่มีไว้สำหรับเรียกคนในบ้านนั่นเอง และที่สำคัญตรงปลายที่จับของแท่งเหล็กเหล่านี้ไม่ซ้ำกันสักอัน ทุกอันได้รับการออกแบบให้แตกต่างกัน เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละบ้าน เหตุผลไม่ใช่เพื่อความสวยงามหรือความเก๋ไก๋ไม่เหมือนใครเท่านั้น 
 
แต่ที่ต้องทำให้ไม่เหมือนกันเพราะเมื่อก่อนตามทางเดินในฟุกเกอร์ไรน์ยังไม่มีไฟให้แสงสว่าง เวลาเจ้าของบ้านกลับบ้านตอนกลางคืนจะมองบ้านตัวเองไม่ถนัดเพราะมันมืด จึงใช้วิธีคลำที่ปลายแท่งเหล็กนี้เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นบ้านของตัวเองจะได้ไม่เข้าผิดบ้านนั่นเอง แค่เดินดูเจ้ากระดิ่งของบ้านแต่ละหลังก็สร้างความเพลิดเพลินเจริญใจให้กับเราเกินคาดหมายแล้ว แต่ปัจจุบันไม่ต้องคลำกระดิ่งนี้แล้วค่ะ เพราะเขามีไฟตามทางเดินเรียบร้อย ภายในฟุกเกอร์ไรน์ยังมีโบสถ์ประจำหมู่บ้าน สถานพยาบาล และร้านค้าอยู่ด้วย ยิ่งสมัยนี้มีเบียร์การ์เด้นให้บริการนักท่องเที่ยวอีกด้วย
 
Franz Mozart ปู่ของโมสาร์ท (Wolfgang Amadeus Mozart) นักดนตรีชื่อก้องโลก ก็เคยอาศัยอยู่ที่แห่งนี้ ช่วงระหว่างปี ค.ศ.1681-1694 โดยฟุกเกอร์ไรน์ได้จัดแสดงบ้านหลังดังกล่าวไว้เป็นอนุสรณ์อีกด้วย ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง ฟุกเกอร์ไรน์ได้รับความเสียหายจากแรงระเบิดอย่างมาก แต่ก็ได้รับการบูรณะในเวลาต่อมาโดยคงสภาพเดิมไว้มากที่สุด ดังนั้นเราจะยังคงเห็นหลุมหลบภัยสมัยสงครามโลกอยู่ตามส่วนต่างๆ ของฟุกเกอร์ไรน์
 
ปัจจุบันฟุกเกอร์ไรน์เปิดให้นักท่องเที่ยวได้เข้าไปเยี่ยมชม โดยจัดเป็นพิพิธภัณฑ์แสดงประวัติความเป็นมา การจัดตกแต่งภายในบ้าน และความเป็นอยู่สมัยก่อน คิดค่าเข้าชมคนละประมาณ 4 ยูโร แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ฟุกเกอร์ไรน์ยังคงมีผู้อยู่อาศัยอยู่เหมือนเดิม ดังนั้นการเข้าไปเยี่ยมชมก็เหมือนกับเราเข้าไปในบ้านของผู้อื่นกลายๆ จึงควรระวังกันสักนิด 
 
ฟุกเกอร์ไรน์คือ “บ้าน” ในอีกมิติหนึ่ง ที่เราอาจจะเรียกได้ว่าเป็นบ้านเอื้ออาทรที่เก่าแก่ที่สุด ค่าเช่าถูกที่สุด แถมสวยงามมีเสน่ห์ ได้เห็นแนวคิดของคนที่ร่ำรวยมั่งคั่ง แต่รู้จักที่จะเผื่อแผ่สิ่งที่ตนมีเพื่อช่วยเหลือผู้ที่ขัดสนกว่า อย่างจาคอบ ฟุกเกอร์ไรน์ ผู้ก่อตั้งที่แห่งนี้ขึ้น ยังประโยชน์ให้กับผู้อื่นได้อีกมาก
 
ฟุกเกอร์ไรน์อาจจะไม่ใช่จุดหมายหลักของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวที่เยอรมนี แต่ถ้าผู้อ่านที่คิดจะมาเที่ยวเยอรมนีได้ปักหมุดที่แห่งนี้ไว้ในแผนที่ท่องเที่ยวของคุณและลองมาเยือนดูสักครั้ง ผู้เขียนเชื่อว่า คุณจะประทับใจ