วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Home > PR News > เมืองไทยประกันชีวิต ชูแคมเปญ “รักใครให้ประกัน” ตอบโจทย์ความรักครบวงจร เดินหน้ากวาดเบี้ยรับรวมสู่เป้าหมาย

เมืองไทยประกันชีวิต ชูแคมเปญ “รักใครให้ประกัน” ตอบโจทย์ความรักครบวงจร เดินหน้ากวาดเบี้ยรับรวมสู่เป้าหมาย

 
 
 
สาระ ล่ำซำ กรรมการผู้จัดการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2559 บริษัทฯ มีผลงาน เบี้ยประกันภัยรับรวม 51,783 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า 12% ขณะเดียวกัน ยังคงความเป็นอันดับ 1 ด้านผลงานเบี้ยประกันภัยรับใหม่ ด้วยจำนวน 18,447 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาดถึง 22.9% และหากพิจารณาเฉพาะผลงานเบี้ยประกันภัยรับปีแรก ยังคงอันดับ 1 ด้วยจำนวน 13,271 ล้านบาท คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 23.1% โดยขณะเดียวกันผลงานเบี้ยประกันภัยรับปีต่อไป มีอัตราการเติบโตสูงถึง 30% ด้วยจำนวน 33,336 ล้านบาท เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า คิดเป็นส่วนแบ่งการตลาด 16.8%
 
“อัตราการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวมของบริษัทฯ ที่สูงถึง 12% ด้วยส่วนแบ่งทางการตลาด 18.6 % สามารถเติบโตได้สูงถึงเท่าตัวของอุตสาหกรรม โดยข้อมูลจากสมาคมประกันชีวิตไทย พบว่า ในช่วง 6 เดือนแรกของปี 2559 ธุรกิจประกันชีวิตมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 278,598 ล้านบาท เติบโตขึ้น 6% ซึ่งถือว่าผลงานของบริษัทฯ เป็นระดับที่น่าพึงพอใจ และนับว่าเกินครึ่งทางแล้ว จากเป้าหมายเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ได้ตั้งไว้”
 
สำหรับในครึ่งหลังของปี 2559 สาระกล่าวว่า บริษัทฯ ได้จัดแคมเปญ “รักใครให้ประกัน” เพื่อตอบโจทย์การส่งมอบความรักให้แก่คนสำคัญอย่างครบวงจร ทั้งการวางแผนการเงินและการบริหารความเสี่ยงผ่านประกันชีวิตแบบครอบคลุม “ความรัก” ทั้ง4 รูปแบบ ดังนี้
 
“รักตัวเอง” ด้วยการวางแผนการเงินสำหรับการเกษียณอายุอย่างมีความสุข สามารถเก็บออมผ่านประกันชีวิตแบบบำนาญ เช่น เมืองไทย 8560 จี15 (บำนาญแบบลดหย่อนได้) และ เมืองไทย 8501 ดี60 (บำนาญแบบลดหย่อนได้)
 
ซึ่งทั้งสองแบบนี้จะให้เงินบำนาญเมื่อเกษียณปีละ 12% ของเงินเอาประกัน ณ วันเริ่มสัญญา รวมถึงแบบประกันชีวิตที่สามารถซื้อร่วมกับสัญญาเพิ่มเติมด้านสุขภาพรูปแบบต่างๆ เช่น แบบสมาร์ทเฮลท์ ที่ให้ผลประโยชน์ค่ารักษาพยาบาลรวมสูงสุดถึง 5 ล้านบาทต่อปี (สำหรับแผน 5) หรือแบบเอ็กซ์ตร้า แคร์ ที่คุ้มครองค่ารักษาส่วนเกินจากสวัสดิการที่มีอยู่
 
นอกจากนี้ยังมีสัญญาเพิ่มเติมเพื่อคุ้มครองโรคร้ายแรง เช่น ซีไอ เพอร์เฟค แคร์ ซึ่งให้ความคุ้มครองตั้งแต่ระยะเริ่มต้นสูงสุด 36 โรคร้ายแรง และมัลติเพิล ซีไอ ที่คุ้มครอง 4 กลุ่มโรคร้าย ซึ่งผู้เอาประกันจะได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้น หากตรวจพบว่าเป็นโรคร้ายแรงที่อยู่ในแต่ละกลุ่ม
 
“รักครอบครัว” บอกรักได้โดยเตรียมวางแผนทางการเงินเพื่อเป็นหลักประกันความมั่นคงให้แก่ครอบครัว รวมถึงการสร้างหลักประกันให้แก่ลูกหลาน กลุ่มสินค้าที่ตอบโจทย์นี้ได้ดี ประกอบด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตแบบคุ้มครองระยะยาวหรือตลอดชีพ เช่น โครงการ เมืองไทย คุ้มครองพิเศษ 1 ให้ความคุ้มครองตลอดชีวิต แต่จ่ายเบี้ยประกันชีวิตเบาๆ โครงการ เมืองไทย คุ้มครองพิเศษ 2 อีกทางเลือกที่จ่ายเบี้ยประกันชีวิตเพียง 10 ปี แต่คุ้มครองชีวิตจนถึงอายุ 80 ปี หรือโครงการเมืองไทย คุ้มครองพิเศษ 3 ที่จ่ายเบี้ยประกันชีวิตระยะสั้นเพียง 7 ปี แต่คุ้มครองยาวจนถึงอายุ 90 ปี พร้อมรับเงินจ่ายคืนตลอดอายุสัญญา
 
“รักลูก” ด้วยการวางแผนอนาคตทางการศึกษา เพื่อให้แน่ใจว่าลูกรักจะมีเงินก้อนสำหรับศึกษาต่อในสิ่งที่ชอบ และสามารถเดินทางตามความฝันได้ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มนี้ เช่น โครงการเมืองไทย ซุปเปอร์ เซฟเวอร์ 25/16 ที่ตอบโจทย์การออมเงินระยะยาว ให้ผลประโยชน์เป็นเงินจ่ายคืนรายปี และเงินก้อนเมื่อครบสัญญา พร้อมกับความคุ้มครองชีวิตผู้เอาประกันด้วย ไม่ว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร การันตีได้ว่าลูกรักของคุณจะมีเงินพร้อมสนับสนุนด้านการศึกษาได้ดังที่คุณวางแผนไว้
 
“รักพ่อแม่” ให้ประกันชีวิตเป็นทางเลือกแสดงออกถึงความรัก ความห่วงใย และการดูแลเอาใจใส่ ทั้งยังเป็นโอกาสได้ตอบแทนพระคุณท่าน ผ่านโครงการ เมืองไทยวัยเก๋า คุ้มครองทั่วไทย (เพื่อผู้สูงอายุ) ที่ให้ความคุ้มครองกรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุและเจ็บป่วย สูงสุดถึง 500,000 บาท และรับเพิ่มเป็น 2 เท่า กรณีเสียชีวิตจากอุบัติเหตุสาธารณะ สูงสุดถึง 1,000,000 บาท (สำหรับแผน 5)สมัครได้ง่ายโดยไม่ต้องตรวจสุขภาพ และไม่ต้องตอบคำถามสุขภาพ หรือสามารถเลือกแบบประกันภัยคุ้มครองอุ่นใจ จ่ายเบี้ยประกันสั้นเพียง 10 ปี รับความคุ้มครองสูงถึง 150% ของจำนวนเงินเอาประกัน ณ วันเริ่มสัญญา
 
“การยึดลูกค้าเป็นศูนย์กลาง (Customer Centric) เป็นนโยบายที่เมืองไทยประกันชีวิตให้ความสำคัญเสมอมา ทั้งการมุ่งมั่นพัฒนาผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต รวมถึงสัญญาเพิ่มเติมรูปแบบต่างๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของลูกค้า เครือข่ายช่องทางที่ครอบคลุม เข้าถึง และเป็นมืออาชีพ ควบคู่ไปกับการยกระดับการบริการที่หลากหลาย
 
ตลอดจนโครงการ “เมืองไทย Smile Club” ที่สร้างสรรค์กิจกรรมแห่งความสุขและรอยยิ้ม รวมถึงสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่ตรงใจลูกค้า สอดคล้องกับการนำเสนอแคมเปญ “รักใครให้ประกัน” ที่สามารถตอบโจทย์การแสดงความรักแก่บุคคลต่างๆ ในชีวิตได้อย่างครบถ้วน รวมถึงมุ่งส่งเสริมให้คนไทยตระหนักถึงความสำคัญของการประกันและเริ่มวางแผนการเงินสำหรับอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย” สาระกล่าว