วันอาทิตย์, พฤศจิกายน 24, 2024
Home > Cover Story > อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ จาก “ปั๊ม” สู่ “มินิคอมมูนิตี้มอลล์”

อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ จาก “ปั๊ม” สู่ “มินิคอมมูนิตี้มอลล์”

 
 
“ปตท. ไม่ใช่แค่ปั๊มน้ำมัน แต่เป็นมินิคอมมูนิตี้มอลล์…”
 
อรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ หน่วยธุรกิจน้ำมัน บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ย้ำกับ “ผู้จัดการ360 ํ” ถึงเป้าหมายของ ปตท. ในการผลักดันกลุ่มธุรกิจนอนออยล์ (Non-oil) อย่างจริงจังและต่อเนื่องเกือบ 10 ปี นับจากปี 2550 ที่บรรลุดีลประวัติศาสตร์ ฮุบกิจการค้าปลีกน้ำมัน “JET” และร้านสะดวกซื้อแบรนด์ “Jiffy” ในประเทศไทยทั้งหมดจากบริษัท  ConocoPhillips ประเทศสหรัฐอเมริกา   
 
ที่สำคัญ นั่นคือการเดินเกมที่ให้ผลลัพธ์ชัดเจน ทั้งการเป็นผู้นำในตลาดนอนออยล์ มีเครือข่ายธุรกิจเหนือกว่าคู่แข่งทุกค่าย และอัตรากำไรที่พุ่งสูงกว่าธุรกิจน้ำมันโดยเฉพาะปี 2558 ปตท. และบริษัทย่อยมีรายได้จากการขาย 2,026,912 ล้านบาท ลดลง 578,150 ล้าน บาท หรือ 22.2% มาจากปัจจัยด้านราคาน้ำมันที่ลดลงถึง 47% แม้ปริมาณขายน้ำมันยังเติบโตก็ตาม
 
ทั้งนี้ เปรียบเทียบปริมาณรายได้ทั้งหมด กลุ่มธุรกิจนอนออยล์ยังสร้างสัดส่วนรายได้เพียง 1-2% เนื่องจากการซื้อขายในธุรกิจน้ำมันมีมูลค่ามหาศาล แต่หากคำนวณจากผลกำไรแล้วสามารถสร้างสัดส่วนกำไรให้ ปตท. มากถึง 20% จากปัจจุบันที่บริษัทมีสัดส่วนธุรกิจนอนออยล์ราว 24% และยิ่งทำให้ ปตท. ต้องการเร่งขยายสัดส่วนให้ได้ 50-60% ตามเป้าหมายภายใน 5 ปี เพื่อผลักดันผลกำไรชดเชยธุรกิจน้ำมัน  
 
“นอนออยล์มีบทบาทมากขึ้น ทั้งอัตรากำไรและข้อมูลยังสำรวจพบว่า สัดส่วนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. เป็นกลุ่มเติมน้ำมันและไม่ได้เติมน้ำมันใกล้เคียงกัน 50: 50  ดีลเลอร์หลายแห่งบริหารพื้นที่สร้างร้านค้าและบริการที่แตกต่างจากคู่แข่ง เช่น เปิดสนามฟุตบอล เพิ่มลูกค้ากลุ่มใหม่ๆ รายได้มีแนวโน้มเติบโตและเป็นกลยุทธ์ วิน-วิน ทั้ง ปตท. ดีลเลอร์และร้านค้า” อรรถพลกล่าว 
 
ปัจจุบันอาณาจักรธุรกิจนอนออยล์ของ ปตท. มีทั้งธุรกิจภายใต้การบริหารของบริษัทแม่และบริษัทลูกอย่างบริษัท ปตท. บริหารธุรกิจค้าปลีก จำกัด หรือ PTTRM โดยธุรกิจภายใต้บริษัทแม่ ได้แก่ ร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอน ซึ่งล่าสุดมีสาขารวม 1,500 แห่ง และตั้งเป้าเพิ่มเป็น 1,700 แห่งภายในสิ้นปี 2559 
 
ร้านสะดวกซื้อ “เซเว่นอีเลฟเว่น” ซึ่งเป็นคู่ค้าสัญญาแบบเอ็กซ์คลูซีฟ ขณะนี้เปิดสาขาอยู่ในปั๊ม ปตท. รวม 1,273 สาขา สิ้นปีนี้เพิ่มเป็น 1,372 สาขา 
 
ร้านไก่ทอด เท็กซัสชิคเก้น เปิดแล้ว 3 สาขา สิ้นปีนี้จะเปิดครบ 11 สาขา และล่าสุด ปตท. ได้ซื้อสิทธิ์แฟรนไชส์ร้านติ่มซำ ฮั่วเซ่งฮง โดยนำร่องเปิด 5-6 สาขาในปีนี้ เริ่มร้านแรกเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมาในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. ตลิ่งชัน และทยอยเปิดในสาขามอเตอร์เวย์ บรมราชชนนี บางปะอิน วังน้อย และสนามบินอุดรธานี 
 
ส่วนธุรกิจโดนัทระดับพรีเมียม “แด๊ดดี้โด Daddy Dough” ซึ่ง ปตท. ลงนามข้อตกลงเป็นผู้ให้สิทธิ์ Daddy Dough franchise ตามแผนจะขยายสาขาปีละ 5-10  แห่ง 
 
เมื่อเร็วๆ นี้ ปตท. ยังออกมาเผยแผนเตรียมเปิดธุรกิจโรงแรมราคาประหยัด (Budget Hotel) ในสถานีบริการน้ำมัน เพื่อให้บริการลูกค้าอย่างครบวงจร โดยประเมินจากปั๊ม ปตท. ทั่วประเทศกว่า 1,400 แห่ง มีประมาณ 50 แห่งที่มีศักยภาพในการพัฒนาโรงแรม ภายใต้แนวคิดสะอาด สะดวก และปลอดภัย ราคาอยู่ระหว่าง 500-700 บาทต่อคืน หรือไม่เกิน 1,000 บาทต่อคืน เนื่องจากแนวคิดหลักของ Budget Hotel เน้นการพักแบบสะดวก ใช้บริการอาหารและเครื่องดื่มจากร้านกาแฟคาเฟ่อเมซอนและร้านสะดวกซื้อเซเว่นอีเลฟเว่นตลอด 24 ชั่วโมง หรืออาจเพิ่มร้านค้าประเภทอื่นๆ ขึ้นอยู่กับพื้นที่แต่ละแห่ง
 
อรรถพลกล่าวว่า ปตท. กำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจาหาพันธมิตรร่วมทุน โดยนำเสนอ Business Model และคัดเลือกทำเลที่ตั้ง ซึ่งคาดว่าจะเปิดให้บริการราวปี 2561 
 
ก่อนหน้านี้ มีรายงานระบุถึงกลุ่มทุนที่กำลังเจรจากับ ปตท. เช่น บริษัท ดิ เอราวัณ กรุ๊ป ผู้พัฒนาและบริหารโรงแรมราคาประหยัดแบรนด์ HOP INN กลุ่มดุสิต อินเตอร์เนชั่นแนล และบริษัท โกลเบิล พร็อพเพอร์ตี้ คอนเซาท์ติง แอนด์ แมเนจเม้นท์ หรือ จีพีซีเอ็ม กรุ๊ป ผู้บริหารโรงแรมราคาประหยัดแบรนด์ B2 รวมถึงมีบริษัท ซี.พี. แลนด์ ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เสนอตัวขอเจรจาในโครงการนี้ด้วย ซึ่งอรรถพลระบุว่า บริษัทยังเปิดกว้างการเจรจากับทุกกลุ่มรวมถึงดีลเลอร์ในฐานะเจ้าของที่ดินด้วย
 
ด้าน PTTRM ซึ่งเร่งขยายธุรกิจตามยุทธศาสตร์ของบริษัทแม่ พัฒนาธุรกิจร้านสะดวกซื้อจิฟฟี่ เพิ่มโมเดลมินิซูเปอร์มาร์เก็ตและปีนี้ประกาศปรับโฉมร้านจิฟฟี่กว่า 50 สาขาทั่วประเทศ ทั้งภาพลักษณ์และเพิ่มกลุ่มสินค้า โดยเฉพาะสินค้ากลุ่มสุขภาพและความงามเพื่อกลุ่มลูกค้าผู้หญิงและคนรักสุขภาพ มีมุมสินค้านำเข้าราคาสุดประหยัดจากญี่ปุ่น 
 
จิราพร ขาวสวัสดิ์ กรรมการผู้จัดการ PTTRM กล่าวว่า บริษัทมีแผนขยายแบรนด์จิฟฟี่ออกสู่ตลาดอินโดจีน เพื่อยกระดับแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในต่างประเทศรองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) โดยร้านจิฟฟี่เข้าไปเปิดให้บริการใน สปป. ลาว แล้ว 16 สาขา แบ่งเป็นในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. 11 สาขา และนอกปั๊ม ปตท. อีก 5 สาขา ส่วนในกัมพูชามีทั้งสิ้น 5 สาขา
 
ช่วงที่ผ่านมาต้องถือว่า PTTRM รุกธุรกิจอย่างเข้มข้น ผุดรีเทลโมเดลใหม่ ทั้งจิฟฟี่ เรส แอเรีย ในทำเลถนนสายหลัก เพื่อเป็นจุดบริการพักรถสำหรับผู้ที่เดินทางไปยังต่างจังหวัด จับมือกับกลุ่ม เค.อี. แลนด์ ชิมลางตลาดคอมมูนิตี้มอลล์ “เดอะคริสตัล พีทีที” และเปิดคอนวีเนียนสโตร์เซกเมนต์ใหม่ “จอย” คาเฟ่คอนวีเนียนสโตร์ ซึ่งรวมจุดขายร้านสะดวกซื้อบวกร้านในเครืออย่างคาเฟ่อเมซอนและเพิร์ลลี่ที 
 
ขณะเดียวกัน ร้านชานมไข่มุก “เพิร์ลลี่ที” มีแผนขยายสาขาครบ 500 สาขา ใน 5 ปี และเปิดธุรกิจร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ใจดี เจาะกลุ่มลูกค้าคนไทยระดับแมส จากปีก่อน 2 สาขา จะเพิ่มอีก 10 สาขา
 
ทั้งอนาคตและการขยายตัวของนอนออยล์ ปตท. เตรียมยุทธศาสตร์ขั้นต่อไป จะนำธุรกิจค้าปลีกเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปี 2560 นั่นหมายถึงเงินทุนและความแข็งแกร่ง ซึ่งคู่แข่งคงต้องคิดหนักมากขึ้นแน่