จวื้อ อีวี (ZHI EV) จับมือ ไมเนอร์ ฟู้ด ตอบเทรนด์รักษ์โลก ส่งจักรยานยนต์ไฟฟ้าคุณภาพ เพื่อให้บริการส่งอาหารแบบ “Green Delivery” แก่ลูกค้าเดอะ พิซซ่า คอมปะนี
จวื้อ อีวี (ZHI EV) เปิดฉากบุกตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในไทย มั่นใจตลาดยังเติบโตต่อเนื่อง ล่าสุดผนึกพลังกลุ่มไมเนอร์ ฟู้ด พัฒนาโครงการความร่วมมือทดลองใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์จวื้อ อีวี (ZHI EV) บริการส่งอาหารแบบ Green Delivery ให้แก่ลูกค้าเดอะ พิซซ่า คอมปะนี ในเขตพื้นที่ กทม. โดยมีนายสุวัชร ชัยมูลมั่ง หัวหน้าฝ่ายปฎิบัติการ บริษัท เดอะ ไมเนอร์ ฟู้ด กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ร่วมรับมอบและนำทีมไรเดอร์เข้าร่วมการฝึกอบรมการใช้งานแบบเจาะลึกเพื่อให้ได้ศักยภาพสูงสุด
นายวีระพงศ์ อรฤทธิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท พีเคดี ออพพอร์ทูนิตี้ จำกัด ผู้จัดจำหน่ายนวัตกรรมรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแบรนด์ จวื้อ อีวี (ZHI EV) เปิดเผยว่า ความร่วมมือในครั้งนี้ ถือเป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่บริษัทฯ มุ่งมั่นตั้งใจพัฒนาเพื่อตอบโจทย์ความต้องการและไลฟ์สไตล์ของกลุ่มลูกค้าตลาดรถมอเตอร์ไซค์ อีวีในไทยที่มีโอกาสเติบโตอีกมาก นำร่องด้วยการจับมือกับพาร์ทเนอร์แบรนด์ที่แข็งแกร่ง “ไมเนอร์ ฟู้ด” ร่วมทดสอบสมรรถนะของรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจวื้อ อีวี (ZHI EV) เพื่อใช้ในบริการเดลิเวอรีรักษ์โลก ซึ่งสร้างผลลัพธ์ที่ดีทั้งต่อโลกด้วยการลดปริมาณก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ผลลัพธ์ต่อองค์กรด้วยการลดค่าใช้จ่ายในการส่งมอบสินค้าสู่มือผู้บริโภค และต่อพนักงานไรเดอร์ที่ช่วยลดต้นทุนจากการเปลี่ยนมาใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าแทน เพราะมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่ารถจักรยานยนต์เครื่องยนต์สันดาป
ด้านขอบข่ายความร่วมมือระหว่าง จวื้อ อีวี (ZHI EV) และกลุ่มไมเนอร์ ฟู้ด ในครั้งนี้นั้น นายวีระพงศ์กล่าวเสริมว่า “รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จวื้อ อีวี (ZHI EV) จะถูกนำไปใช้เพื่อสานต่อนโยบาย Green Delivery ของกลุ่มไมเนอร์ ฟู้ด ด้วยการนำร่องที่แบรนด์ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี ซึ่งถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ธุรกิจอาหารในเครือ ไมเนอร์ ฟู้ดที่ประสบความสำเร็จด้านเดลิเวอรีสูงสุด พร้อมทั้งสานต่อเจตนารมณ์ในการช่วยโลกลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ อีกทั้งยังสอดรับกับนโยบายภาครัฐในการผลักดันพลังงานสะอาดเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินธุรกิจ เพื่อช่วยลดผลกระทบทางด้านมลพิษสิ่งแวดล้อม โดยบรรดาไรเดอร์จะใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าของ จวื้อ อีวี (ZHI EV) ทั้งในการขับส่งอาหารตลอดจนขับกลับบ้านเสมือนการใช้งานจริงในชีวิตประจำวัน เพื่อมุ่งหวังให้ได้ผลการทดสอบประสิทธิภาพที่สมบูรณ์ในแง่การใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ซึ่งเป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับไรเดอร์ ในฐานะผู้ใช้งานจริงขององค์กรพันธมิตร โดย จวื้อ อีวี (ZHI EV) จะนำข้อมูลที่ได้กลับมาพัฒนาผลิตภัณฑ์ทั้งในส่วนของตัวรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ตู้ชาร์จแบตเตอรี่ และแอปพลิเคชันต่อไป โดยในการทดสอบครั้งนี้ ได้เลือกทั้งสาขาในเขตใจกลางเมือง และพื้นที่ชานเมือง เพื่อให้ครอบคลุมลักษณะการใช้งานที่หลากหลายตามสภาพแวดล้อมการขับขี่ที่ต่างกัน โดยได้มีการจัดฝึกอบรมการใช้งานให้แก่ไรเดอร์และผู้เกี่ยวข้องของ เดอะ พิซซ่า คอมปะนี เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพการใช้งานสูงสุด”
ทั้งนี้ รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าจวื้อ อีวี (ZHI EV) ถูกพัฒนาขึ้นภายใต้แนวคิด “ยานยนต์ใส่ใจสิ่งแวดล้อม” ลดมลภาวะทางอากาศจากการเผาไหม้ ลดมลภาวะทางเสียงของเครื่องยนต์สันดาป และสนับสนุนนโยบายรัฐบาล รวมทั้งช่วยลดต้นทุนจากค่าน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้นในปัจจุบัน ทั้งยังมีค่าบำรุงรักษาที่ต่ำกว่า ในขณะที่มีสมรรถนะและประสิทธิภาพในการใช้งานที่เพิ่มขึ้นจากแรงบิดมหาศาลที่สามารถตอบสนองผู้ขับขี่ได้อย่างทันใจ “ความแตกต่างที่จะได้รับจากจักรยานยนต์ไฟฟ้า จวื้อ อีวี (ZHI EV) คือ รูปแบบธุรกิจที่ผู้ซื้อไม่ต้องกังวลเรื่องระยะทางต่อการชาร์จ ด้วยการจัดจุดบริการสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ตามแหล่งชุมชนอย่างทั่วถึงที่กระจายอยู่ในทุกระยะทาง 5 กิโลเมตร เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการใช้งาน โดยในระยะแรกได้วางแผนติดตั้งสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ 100 แห่งทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร และวางแผนขยายธุรกิจไปยังพื้นที่ต่างจังหวัดต่อไป
จวื้อ อีวี (ZHI EV) ได้กำหนดแนวคิดในการบริหารจัดการธุรกิจแบบครบวงจร (Total Solution) เริ่มจากการนำเข้ารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าทั้งคัน ต่อเนื่องด้วยการลงทุนโรงงานผลิตชิ้นส่วนบางประเภทในประเทศ จนถึงขั้นตอนการประกอบและจำหน่าย รวมถึงการให้บริการสถานีสับเปลี่ยนแบตเตอรี่ และการพัฒนาแพลตฟอร์มที่รองรับทั้ง mobile application และ web application เพื่อการใช้งานที่สะดวกยิ่งขึ้นของลูกค้า” นายวีระพงศ์ อธิบายถึงแนวทางการขยายธุรกิจจากปัจจุบันสู่อนาคต
“ปัจจุบันตลาดรถจักรยานยนต์ของไทยในภาพรวมมียอดจดทะเบียนประมาณ 2 ล้านคันต่อปี โดยรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามีอัตราเติบโตสูงอย่างต่อเนื่องทั้งที่เพิ่งเข้าสู่ตลาดได้ไม่นาน โดยปี 2565 ที่ผ่านมา ประเทศไทยมียอดจดทะเบียนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ากว่า 10,000 คัน และคาดว่าในปี 2566 จะมียอดขายและยอดจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 30,000 คัน ประกอบกับภาครัฐให้การสนับสนุนรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าโดยการให้เงินสนับสนุนและลดภาษีสรรพสามิต ทั้งยังตั้งเป้าหมายผลักดันให้ตลาดรถจักรยานยนต์ไฟฟ้ามีส่วนแบ่งตลาดประมาณ 30% ของตลาดรถจักรยานยนต์โดยรวม หรือคิดเป็นประมาณ 650,000 คันภายในปี 2573
จวื้อ อีวี (ZHI EV) มุ่งเน้นที่การพัฒนาเทคโนโลยีและคุณภาพในการผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุด เพื่อให้ลูกค้าได้รับประสบการณ์การขับขี่ที่มีความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและคุณสมบัติที่เหนือกว่า ในราคาที่สมเหตุสมผล อีกทั้งบริการแพลทฟอร์มครบวงจรทั้ง mobile application สำหรับลูกค้าทั่วไป และ web application ที่สามารถ customize ให้เหมาะสมกับความต้องการในรูปแบบขององค์กรด้วยเช่นกัน” นายวีระพงศ์ กล่าวสรุป