วันศุกร์, พฤศจิกายน 22, 2024
Home > New&Trend > ศาสตราจารย์วิจัยดีเด่นสร้างนวัตกรรมสีเขียว วิเคราะห์ทางเคมีจากภูมิปัญญาบรรพชนฝาง

ศาสตราจารย์วิจัยดีเด่นสร้างนวัตกรรมสีเขียว วิเคราะห์ทางเคมีจากภูมิปัญญาบรรพชนฝาง

ศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น ม.เชียงใหม่ พัฒนาภูมิปัญญามากกว่า 100 ปีของบรรพชนชาวฝางสู่ “นวัตกรรมสีเขียว” ในการวิเคราะห์ทางเคมี สร้างเครือข่ายความร่วมมือ เกิดตัวอย่างการใช้จริง รวมถึงใช้ในการศึกษาแนวใหม่-ปฏิบัติการวิเคราะห์ทางเคมีที่บ้านผ่านระบบออนไลน์

ศ.ดร. เกตุ กรุดพันธ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยทางนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ตนได้ริเริ่มพัฒนาการวิเคราะห์ทางเคมีโดยใช้รีเอเจนต์จากธรรมชาติ ซึ่งบุกเบิกการสร้างนวัตกรรมจากภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีมากว่า 15 ปี อย่างต่อเนื่องมาจนถึงปัจจุบัน ได้รับการยอมรับในระดับชาติและนานาชาติ และได้รับทุนศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น จากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.) ภายใต้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ให้ดำเนินโครงการ “นวัตกรรมสีเขียวในการวิเคราะห์ทางเคมีกับภูมิปัญญาท้องถิ่น” โดยมีวิสัยทัศน์และเป้าหมาย “Local issues- Global impact- Sustainable world” มุ่งเน้นการนำภูมิปัญญาท้องถิ่นมาต่อยอดเป็นการวิเคราะห์ทางเคมีแบบสะอาดสมัยใหม่ รวมถึงการสร้างและขยายเครือข่ายเพื่อการพัฒนาต่อยอดงานวิจัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบสนองการพัฒนาอย่างยั่งยืนในหลายมิติ

จากภูมิปัญญาท้องถิ่นมากกว่า 100 ปี ของบรรพชนชาวฝาง นำมาสู่การศึกษาวิจัยทางวิทยาศาสตร์ ร่วมกับศูนย์วิจัยทางนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ และคลัสเตอร์ความเป็นเลิศด้านเศรษฐกิจและสังคมบนฐานความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมี ดร.กนกวรรณ คิวฝอ เข้าร่วมพัฒนาต้นแบบรีเอเจนต์ธรรมชาติแบบพร้อมใช้ และขยายเครือข่ายการใช้งานเริ่มต้นไปยังมหาวิทยาลัยทั้งในและต่างประเทศ 8 แห่ง ได้แก่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี มหาวิทยาลัยพะเยา มหาวิทยาลัยขอนแก่น มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ (วิทยาเขตเฉลิมพระเกียรติ สกลนคร) University of Malaya ประเทศมาเลเซีย และ Hamburg University of Applied Science สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี ซึ่งได้ปรับใช้รีเอเจนต์ธรรมชาติแบบพร้อมใช้งานที่พัฒนาขึ้นกับการเรียนการสอนในมหาวิทยาลัยเป็นครั้งแรกในกระบวนวิชาเภสัชควบคุมคุณภาพ ก่อนต่อยอดและพัฒนาเป็นการทดลองที่บ้านโดยความร่วมมือกับคณะวิจัยของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี และการอบรมเชิงปฏิบัติการออนไลน์ร่วมกับคณะวิจัยมหาวิทยาลัยนเรศวร ซึ่งถือเป็นการริเริ่มการใช้นวัตกรรมสีเขียวเพื่อการวิเคราะห์ทางเคมีกับการเรียนการสอนแบบออนไลน์ในยุควิถีใหม่เป็นครั้งแรกของโลก

“มีพืชหลายชนิดที่สามารถนำมาใช้เป็นรีเอเจนต์ธรรมชาติเพื่อใช้วิเคราะห์ทางเคมีสำหรับสารต่าง ๆ ได้หลากหลาย เช่น การวิเคราะห์หาปริมาณเหล็กซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้สารเคมีที่ปลอดภัย ในปฏิบัติการเคมีแบบเดิมจะเกี่ยวข้องกับสารเคมีบางตัวที่เป็นสารก่อมะเร็ง เป็นสารประกอบของไนโตรเจน ซึ่งจะต้องนำเข้าจากต่างประเทศ อาจใช้เวลามากกว่า 3 เดือน และมีราคาสูงกว่ารีเอเจนต์ธรรมชาติที่สามารถผลิตได้ในท้องถิ่นประมาณ 4 เท่า หากนำปฏิบัติการนี้มาใช้ในการเรียนการสอนทั่วประเทศ คาดว่าจะช่วยประหยัดงบประมาณได้ในหลัก 10 ล้านบาทในแต่ละปีการศึกษา และมีความปลอดภัยในการกำจัดของเสียที่เป็นสารก่อมะเร็ง ขณะนี้ได้ยื่นขอจดอนุสิทธิบัตรเรื่อง “สารทดสอบปริมาณเหล็กและกรรมวิธีการเตรียม” ไปเรียบร้อยแล้ว”

ศาสตราจารย์วิจัยดีเด่น สกสว. ระบุว่า การใช้จริงในศึกษาแบบวิถีใหม่ได้รับผลตอบรับอย่างดีจากทั้งผู้เรียนและอาจารย์ผู้สอน โดยเพิ่มความสามารถในการเรียนการสอนแบบออนไลน์ได้เป็นอย่างมาก ขณะนี้ได้ขยายไปยังมหาวิทยาลัยและสถานศึกษาต่าง ๆ มากขึ้น โดยพยายามปรับสมรรถนะขององค์ความรู้ให้เข้ากับบริบทของแหล่งเรียนรู้แต่ละแห่ง นอกจากนี้ยังได้นำวิธีการวิเคราะห์ทางเคมีที่พัฒนาขึ้นเพื่อการวิเคราะห์ในตัวอย่างต่าง ๆ เช่น ยาบำรุงเลือด น้ำบาดาล โดยการวิเคราะห์ทางเคมีเพื่อหาปริมาณเหล็กทำได้โดยนำสารละลายมาผสมกับสารสกัดอย่างง่ายของใบฝรั่งในสภาวะที่ควบคุม จะเกิดสีม่วงน้ำเงิน ซึ่งความเข้มของสีจะสัมพันธ์กับปริมาณเหล็กในตัวอย่าง ทั้งนี้สามารถใช้กล้องของโทรศัพท์มือถือถ่ายภาพ และประมวลผลโดยใช้แอปพลิเคชั่นที่สามารถส่งข้อมูลผ่านทางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศสมัยใหม่ นอกจากนี้คณะวิจัยยังได้พัฒนาการวิเคราะห์ทางเคมีเพื่อหาปริมาณสารอื่น ๆ โดยใช้พืชที่หลากหลาย เช่น การหาปริมาณอะลูมิเนียมที่ใช้รีเอเจนต์ธรรมชาติจากแก่นฝาง การหาปริมาณเหล็กโดยใช้สารสกัดจากข้าวมีสี การหาปริมาณคาร์บาริลซึ่งเป็นสารกำจัดศัตรูพืชโดยใช้เอนไซม์จากยางขนุน

ศ.ดร. เกตุ กรุดพันธ์ หัวหน้าศูนย์วิจัยทางนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการวิเคราะห์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

ใส่ความเห็น