CPL เผยปี 2562 เดินหน้าลงทุนเพิ่ม ตั้งงบลงทุนเบื้องต้น 125 ล้านบาทสำหรับขยายโรงงานและเพิ่มกำลังการผลิต หลังจาก 3 ปี ตั้งแต่ปี 2560 จนถึงปีนี้ใช้งบลงทุนต่อเนื่อง 450 ล้านบาท เชื่อการชะลอตัวของธุรกิจเนื่องจากปัจจัยภายนอกไม่เอื้ออำนวยจะส่งผลกระทบในช่วงสั้นๆ แต่หากไม่เตรียมพร้อมสำหรับรับออเดอร์ใหม่จะทำให้เสียโอกาสได้ พร้อมตั้งเป้าธุรกิจฟอกหนังปีนี้โตจากปีก่อน 50% ส่วนธุรกิจผลิตหนังสำเร็จรูปโตเพิ่ม 10% ขณะที่สินค้ากลุ่มเซฟตี้ โปรดักส์ คาดว่าจะโตเพิ่มราว 15%
นายภูวสิษฏ์ วงษ์เจริญสิน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีพีแอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้นำอุตสาหกรรมฟอกหนังสำเร็จรูปรายใหญ่ในกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์ป้องกันภัยส่วนบุคคล (เซฟตี้ โปรดักส์) ภายใต้แบรนด์ “แพงโกลิน” ซึ่งเป็นกิจการในกลุ่มบริษัทเจริญสิน เปิดเผยว่า ในปี 2562 จะเป็นปีแห่งการลงทุนขยายโรงงานและขยายกำลังการผลิตของ CPL ซึ่งดำเนินการต่อเนื่องมาเป็นระยะเวลา 2-3 ปีแล้ว โดยในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา (2560-2561) บริษัทฯ ได้ใช้งบลงทุนไปแล้วประมาณ 325 ล้านบาท ขณะที่ในปีนี้ ตั้งเป้างบลงทุนเบื้องต้นประมาณ 125 ล้านบาท ใน 2 โครงการหลัก ประกอบด้วย การเพิ่มประสิทธิภาพงานฟอกหนังด้วยการเปลี่ยนถังฟอกใหม่จำนวน 6 ถัง ใช้ร่วมกับบ่อใบพัดระบบเดิม งบลงทุน 50 ล้านบาท กำลังการผลิตเพิ่มขึ้นวันละ 3 ตู้หรือครึ่งเท่าของกำลังการผลิตเดิม และโครงการขยายโรงงานหนังซูเอ็ด (Suede) หรือหนังท้องและรองรับการผลิตหนังหมูสำเร็จรูป รวมกำลังผลิตประมาณ 8 แสนฟุตต่อเดือน งบลงทุน 75 ล้านบาท รวม 3 ปีบริษัทฯ ใช้งบลงทุนประมาณ 450 ล้านบาท
“แม้ว่าเราจะเชื่อว่าปีนี้ภาพรวมเศรษฐกิจจะไม่เอื้ออำนวยต่อการเติบโต แต่การเดินหน้าขยายการลงทุนของ CPL ยังคงเดินตามแผนที่วางไว้ ซึ่งเป็นแผนต่อเนื่องที่ต้องใช้ระยะเวลาดำเนินการ เพราะไม่ว่าจะเป็นการขยายโรงงาน หรือการขยายกำลังการผลิต รวมถึงการเปลี่ยนแปลงเครื่องจักร เป็นเรื่องที่ต้องใช้เวลา ทั้งการติดตั้ง การทดสอบระบบและอื่นๆ อีกมากมาย ดังนั้น การเดินหน้าลงทุนในปีนี้จึงเป็นไปเพื่อรองรับกับคำสั่งซื้อที่จะมีเข้ามาในระยะต่อไป ขณะเดียวกัน ก็ต้องยอมรับว่า ขณะนี้เราเดินเครื่องเกือบจะเต็มกำลังการผลิตแล้ว หากไม่เพิ่มกำลังการผลิตก็จะทำให้เสียโอกาสในการรับออเดอร์เพิ่มเติมได้” นายภูวสิษฏ์กล่าว
ทั้งนี้ นอกจากการขยายโรงงานและเพิ่มกำลังการผลิตแล้ว ในปีนี้ CPL ยังเดินหน้าสร้างความแข็งแกร่งด้านการตลาด ด้วยการหาพันธมิตรรายใหม่เพิ่ม เพื่อกระจายความเสี่ยงจากการมีลูกค้ารายใหญ่เพียงรายเดียว ซึ่งจากการปรับปรุงกระบวนการผลิต รวมถึงระบบงานภายในโดยเฉพาะเรื่องการส่งมอบ ก็มั่นใจว่า จะทำให้ลูกค้ารายใหญ่ในตลาดอีกหลายรายให้ความสนใจเป็นพันธมิตรกับ CPL โดยในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าหมายการเติบโตของธุรกิจฟอกหนังคาดว่า จะเพิ่มขึ้นจากปีก่อน 50% และธุรกิจผลิตหนังสำเร็จรูปคาดว่าจะเติบโตประมาณ 10%
ในส่วนของธุรกิจเซฟตี้ โปรดักส์ ภายใต้แบรนด์ “แพงโกลิน” ในปีที่ผ่านมา สามารถสร้างการเติบโตได้อย่างน่าพอใจ ซึ่งเป็นผลจากการทำการตลาดแบบตรงหรือ Direct Marketing ที่ใช้วิธีเจาะเข้าสู่องค์กรและหน่วยงานต่างๆ ที่มีความต้องการซื้อสินค้าอยู่แล้ว ส่วนแผนงานในปีนี้ บริษัทฯ ตั้งเป้าการเติบโตของธุรกิจเซฟตี้ โปรดักส์ไว้ที่ 15% โดยจะเน้นสินค้านวัตกรรมใหม่ๆ เพิ่มมากขึ้น