วันอังคาร, มีนาคม 19, 2024
Home > New&Trend > บี.กริม เพาเวอร์ ทุ่มงบฯ กว่า 400 ล้านบาท ลงทุน “โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์” ในสาธารณรัฐเกาหลี

บี.กริม เพาเวอร์ ทุ่มงบฯ กว่า 400 ล้านบาท ลงทุน “โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์” ในสาธารณรัฐเกาหลี

บี.กริม เพาเวอร์ ทุ่มงบฯ กว่า 400 ล้านบาท ลงทุน “โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์” ในสาธารณรัฐเกาหลี เพิ่มกำลังการผลิต 98.99 เมกะวัตต์ ขยายพอร์ท “พลังงานหมุนเวียน” ก้าวสู่เป้าหมาย Net Zero

ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า B.Grimm Power Korea Limited ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ บี.กริม เพาเวอร์ ถือหุ้นในสัดส่วน 100% ได้เข้าถือหุ้นใน Saemangeum Sebit Power Co., Ltd. (“บริษัทฯ”) เพื่อลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ กำลังการผลิตติดตั้ง 98.99 เมกะวัตต์ ในสาธารณรัฐเกาหลี ด้วยมูลค่าเงินลงทุนรวม 15,371,500,000 วอนเกาหลีใต้ (เทียบเท่า 401,500,000 บาท) ประกอบด้วย การซื้อหุ้นสามัญจำนวน 624,100 หุ้น จาก KB Sprott Solar Power No.1 Co., Ltd. ที่ไม่ใช่บุคคลเกี่ยวโยง การซื้อหุ้นที่ไม่มีสิทธิออกเสียงจำนวน 725,700 หุ้น จาก Hyundai E&C Co., Ltd. ที่ไม่ใช่บุคคลเกี่ยวโยง และการจองหุ้นสามัญที่ออกใหม่จำนวน 187,350 หุ้นของบริษัทฯ ทำให้ B.Grimm Power Korea ถือหุ้นในสัดส่วน 21.27% ของหุ้นสามัญทั้งหมด และมีสิทธิได้รับเงินปันผล 33.85% ในบริษัทฯ

สำหรับการลงทุนในครั้งนี้ เพื่อขยายการลงทุนในโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินของ บี.กริม เพาเวอร์ โดย Saemangeum Sebit Power Co., Ltd. มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว 20 ปี กับ Korea Electric Power Corporation ผ่าน Korean Power Exchange ที่อัตราค่าไฟฟ้า 144.31 วอนเกาหลีใต้ (หรือประมาณ 3.8 บาท) ต่อกิโลวัตต์-ชั่วโมง ทั้งนี้ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ดังกล่าวได้เปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ตั้งแต่เดือนมีนาคม 2565

“บี.กริม เพาเวอร์ มุ่งส่งเสริมการเติบโตธุรกิจอย่างยั่งยืน ภายใต้หลักธรรมาภิบาล ตลอดจนการบริหารห่วงโซ่คุณค่าอย่างรับผิดชอบ โดยคำนึงถึงผลกระทบในมิติต่างๆ ทั้งเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อมผ่านการพัฒนาพลังงานสะอาด การเข้าลงทุนในครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญในการเข้าสู่ตลาดธุรกิจพลังงานในเกาหลีใต้ ซึ่งสอดคล้องกับกลยุทธ์การขยายธุรกิจพลังงานหมุนเวียนในภูมิภาคเอเชีย และเป็นการเพิ่มฐานลูกค้าและพันธมิตรในธุรกิจพลังงานหมุนเวียน เพื่อก้าวสู่เป้าหมายองค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ.2050 (ปี พ.ศ. 2593) และมีเป้าหมายที่จะขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้นเป็น 10,000 เมกะวัตต์ ตามสัญญาซื้อขายไฟฟ้า ภายในปี 2573 ภายใต้ยุทธศาสตร์ใหม่ GreenLeap-Global and Green ” ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าว