Home > เศรษฐกิจปี 2568

เปิดแนวโน้มเศรษฐกิจปี 2568 กับประธานสภาพัฒน์ฯ “ดร. ศุภวุฒิ สายเชื้อ”

เป็นประจำทุกปีสำหรับช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ที่หลายๆ สำนักต่างออกมาประเมินภาพรวมเศรษฐกิจของปีใหม่ที่มาถึง ซึ่งส่วนใหญ่เห็นไปในทิศทางเดียวกันว่าเป็นอีกปีที่เศรษฐกิจไทยต้องเผชิญกับความท้าทาย แม้จะมีโอกาสเติบโตจากแรงส่งของปี 2567 แต่ยังคงมีปัจจัยเสี่ยงทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ในขณะที่แรงส่งหลักเริ่มถดถอย “ผู้จัดการ 360 องศา” จะพาไปเปิดแนวโน้มเศรษฐกิจของปี 2568 ผ่านมุมมองของ “ดร. ศุภวุฒิ สายเชื้อ” ประธานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ซึ่งได้ให้มุมมองทางเศรษฐกิจทั้งในระดับโลกและเศรษฐกิจของเมืองไทยไว้อย่างน่าสนใจว่า “สภาพเศรษฐกิจปีหน้าดูไม่ง่าย ต้องแยกเป็นส่วนๆ ส่วนแรกในฝั่งของอเมริกา อันนี้ถือเป็นข่าวดีเพราะจีดีพีเขาโตเร็วกว่าเกณฑ์ปกติ อัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ เงินเฟ้อปรับตัวลงมาแม้ว่าตลาดจะยังไม่ปรับตัวลงเท่าไร และนโยบายการเงินยังผ่อนคลายอยู่ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้มีแนวโน้มที่ดี แต่ประเด็นที่น่าสนใจคือเมื่อทรัมป์เข้ามาแล้วจะทำให้เศรษฐกิจของอเมริกาเป็นอย่างไรต่อ ถ้าทรัมป์ใช้นโยบายอย่างที่เคยเสนอไว้และทำได้จริงๆ ผมรับรองปลายปี 2568 อเมริกาเงินเฟ้อกระจาย” ซึ่ง ดร. ศุภวุฒิเกริ่นว่า ความเสี่ยงที่เงินเฟ้อของอเมริกาอาจจะแย่ลงถ้าทรัมป์ใช้นโยบายตามที่เสนอไว้ได้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง 4 นโยบายหลักที่ส่งผลต่อเศรษฐกิจโลกและเศรษฐกิจไทย อันได้แก่ 1. นโยบายทางด้าน “ภาษีศุลกากร” ซึ่งเป็นประเด็นที่ถูกพูดถึงทันทีเมื่อทรัมป์คว้าชัยชนะในศึกเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เพราะเป็นหนึ่งในนโยบายสำคัญที่ทำให้ทรัมป์กวาดคะแนนเสียงจากชาวอเมริกันไปเป็นจำนวนมาก โดยทรัมป์ประกาศว่าจะขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าจีน 60% และสินค้าจากประเทศอื่นๆ ราว 10% ทั้งนี้ นโยบายกำแพงภาษีดังกล่าวของทรัมป์มีจุดประสงค์ในการลดการขาดดุลการค้าและส่งเสริมการผลิตในประเทศ แต่ในอีกด้านหนึ่งการกีดกันไม่ให้สินค้าราคาถูกจากต่างประเทศเข้ามาในประเทศ อาจทำให้ค่าครองชีพของประชาชนสูงขึ้น

Read More