Home > สุขภาพ (Page 4)

เติมผงคอลลาเจนในอาหารดีไหม?

Column: Well – Being ปัจจุบันคุณอาจรู้ถึงความแตกต่างระหว่างผงโปรตีนกับชาเขียว และคุณอาจสามารถบอกความแตกต่างระหว่างน้ำมันมะพร้าวกับน้ำมันอะโวคาโด ในยุคของการเปลี่ยนทุกสิ่งทุกอย่างที่ได้ชื่อว่าดีและมีประโยชน์ให้อยู่ในรูปของ “ผง” นั้น คุณคงเคยรับรู้เรื่องราวของผลิตภัณฑ์ตัวหนึ่งในตลาดเวลานี้ นั่นคือ ผงคอลลาเจน ซึ่งคุณคงคุ้นเคยว่าเป็นส่วนประกอบในผลิตภัณฑ์ดูแลผิว แต่บรรดาคนมีชื่อเสียงและผู้เชี่ยวชาญด้านอาหารเพื่อสุขภาพกำลังสนับสนุนเต็มที่ให้มีการกินเข้าสู่ร่างกายด้วย และคุณอาจเคยเห็นเพื่อนร่วมงานตักผงคอลลาเจนผสมในกาแฟหรือสมูทตี้ด้วยซ้ำ คอลลาเจนคืออะไร นิตยสาร Shape รายงานว่า นพ.โจเอล ชเลซิงเกอร์ แพทย์โรคผิวหนังแห่งรัฐเนบราสกากล่าวว่า คอลลาเจนได้ชื่อว่าเป็นโปรตีนมหัศจรรย์ที่ช่วยให้ผิวคงสภาพเต่งตึงและเรียบลื่น ทั้งยังช่วยให้ข้อต่อแข็งแรงด้วย คุณจะพบโปรตีนตัวนี้ได้ตามธรรมชาติในกล้ามเนื้อ ผิวหนัง และกระดูก ในร่างกายของเรา ซึ่งมีปริมาณคอลลาเจนคิดเป็นร้อยละ 25 ของมวลร่างกายโดยรวม โดยเหตุที่ร่างกายชะลอการสร้างคอลลาเจน ซึ่งชเลซิงเกอร์ให้ข้อมูลว่า การชะลอนี้อยู่ที่อัตราร้อยละ 1 ต่อปี โดยเริ่มตั้งแต่อายุ 20 ปี ทำให้ริ้วรอยเหี่ยวย่นมาเยือน และข้อต่ออาจไม่ยืดหยุ่นเหมือนเคย จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีผู้คนมากมายพยายามเพิ่มปริมาณคอลลาเจนในร่างกาย ด้วยการหันไปหาแหล่งคอลลาเจนจากภายนอก เช่น ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารหรือครีม ซึ่งได้คอลลาเจนจากวัว ปลา ไก่ และสัตว์ชนิดอื่นๆ คอลลาเจนกินได้ให้ประโยชน์อะไรบ้าง “โดยเหตุที่คอลลาเจนในพืชและสัตว์ ไม่เหมือนคอลลาเจนที่พบในร่างกายของเราอย่างแน่นอน แต่มันได้บ่งชี้ว่า ส่งผลกระทบเชิงบวกต่อผิวหนังได้เมื่อผสมผสานกับส่วนประกอบเพื่อความอ่อนเยาว์ในผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ” ชเลซิงเกอร์อธิบาย “ขณะที่ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารประเภทคอลลาเจน เครื่องดื่ม และผงต่างๆ

Read More

หนทางบรรเทาความวิตกกังวลจากโควิด-19

Column: Well – Being ณ เวลานี้ คนทั่วโลกล้วนตกอยู่ในภาวะ “ลมหายใจเข้า-ออกเป็นโควิด-19” โรคอุบัติใหม่จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่มีจุดเริ่มต้นเมื่อปลายปี 2019 ที่ประเทศจีน และแพร่ระบาดลุกลามไปทั่วโลกอย่างรวดเร็วจนองค์การอนามัยโลกต้องประกาศให้เป็นภาวะ pandemic “ไม่ต้องสงสัยเลยว่า ประชากรโลกต่างอยู่ในภาวะเสี่ยง” ดร.เดวิด เอช. โรสมาริน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ประจำคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด และผู้ก่อตั้งศูนย์เพื่อโรควิตกกังวล ให้ความเห็น “คนที่เป็นโรควิตกกังวลอยู่ก่อนแล้ว ซึ่งมีจำนวนมากด้วย ดูเหมือนจะอยู่ในภาวะวิตกกังวลนั้นรุนแรงเพิ่มมากขึ้น และคนที่ไม่เคยเป็นโรคนี้มาก่อนก็ดูเหมือนจะได้รับผลกระทบจากอาการป่วยนี้ไปด้วย” นิตยสาร Prevention รายงานว่า ท่ามกลางการระบาดอย่างรุนแรงของโควิด-19 เป็นเรื่องปกติที่คนเราจะรู้สึกวิตกกังวลมากขึ้นชนิดไม่เคยเป็นมาก่อน แต่ผู้เชี่ยวชาญยืนยันว่า มียุทธวิธีมากมายที่ช่วยให้คุณบรรเทาความกลัวลงได้ ดังที่นักจิตวิทยาและนักจิตบำบัดหลายคนแนะนำให้ปฏิบัติตามเพื่อบรรเทาความวิตกกังวลจากโควิด-19 ที่ดำเนินอยู่ในเวลานี้ ได้แก่ ดูแลตัวเองให้ดี ระหว่างเผชิญภาวะวิกฤต เป็นไปได้ที่คุณอาจลืมดูแลตัวเองในระหว่างจดจ่อกับความคิดเชิงลบ อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญลำดับแรก คือ คุณต้องแน่ใจว่าได้ดูแลตัวเองอย่างจริงจัง “นอนพักผ่อนให้เพียงพอ ออกกำลังกาย กินอาหารมีประโยชน์” พญ. เบธ ซัลซีโด ผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ของศูนย์รอสส์ และอดีตประธานสมาคมโรคซึมเศร้าและโรควิตกกังวลแห่งอเมริกา ให้คำแนะนำ “ทำทุกอย่างเท่าที่ทำได้เพื่อดูแลให้คุณมีสุขภาพแข็งแรงทางกายภาพ ซึ่งเป็นประโยชน์มากต่อสุขภาพจิตของคุณ” เดินออกกำลังบ้าง แม้ว่าปัจจุบันศูนย์ป้องกันและควบคุมโรค (ซีดีซี) ของสหรัฐฯ

Read More

เทคนิคลดอายุสมอง

Column: Well – Being สกีรีสอร์ตเป็นที่ที่จูดี ฟอร์ไดซ์ มีความสุข เธอสามารถเล่นสกีพร้อมกับชื่นชมทิวทัศน์ตามลาดเขาไปพร้อมๆ กัน แล้วสูดหายใจเอาอากาศเย็นเข้าไปเต็มปอด “ขณะเล่นสกี ฉันคิดถึงการมีชีวิตและสุขสงบ เป็นความรู้สึกของความสำเร็จและอิสรภาพ และแสนจะสดชื่นที่ตัวเองยังแข็งแรง” ฟอร์ไดซ์ บรรยายความรู้สึกของเธอ ซึ่งเธอแตกต่างจากคนอื่นๆ เพราะเริ่มเล่นสกีจริงจังขณะสูงอายุถึง 59 ปี หลังจากนั้น 12 ปี เธอก็ยังมีความสุขกับการเล่นสกีไปตามทางลาดเชิงเขา ฟอร์ไดซ์ กล่าวต่อไปว่า “ฉันรู้สึกอ่อนวัยลงกว่าเมื่อสิบปีก่อนด้วยซ้ำ ซึ่งฉันคิดว่าเป็นการบรรลุความปรารถนาของตัวเองเป็นอย่างดี” นิตยสาร Prevention กล่าวว่า ผลการวิจัยสนับสนุนความเห็นของฟอร์ไดซ์ในแง่ทัศนคติเกี่ยวกับอายุที่มากขึ้นส่งผลกระทบต่อการทำกิจกรรมต่างๆ ได้ ถ้าคุณคิดว่า คุณแก่เกินกว่าจะเล่นสกีหรือกลับเข้าโรงเรียนอีก คุณจะไม่มีวันได้ทำกิจกรรมนั้นเป็นอันขาด แต่การขีดเส้นกิจกรรมทางกายภาพหรือความคิดบางอย่างก็ไม่ช่วยปกป้องคุณได้ การยับยั้งยังเป็นการเร่งความชราด้วยซ้ำ “จากประวัติการวิจัยอันยาวนานได้ชี้แนะว่า ถ้าคุณได้จดจ่อทำกิจกรรมอะไรสักอย่าง ล้วนเป็นสิ่งที่ดีทั้งนั้น” ดร. เอียน เอ็ม. แม็คโดนัฟ ผู้ช่วยศาสตราจารย์แห่งมหาวิทยาลัยแอละแบมา กล่าว และเมื่อไม่นานมานี้ ผลการวิจัยยังยืนยันว่า คนที่ตกเป็นข่าวว่ามีธุระยุ่งมากที่สุด มีแนวโน้มเป็นคนสง่างามที่สุด หลักแหลมที่สุด และมีความจำดีที่สุดด้วย “แต่กิจกรรมที่จะช่วยเรื่องความจำได้มากที่สุด ควรมีความท้าทายหรือน่าตื่นเต้น

Read More

อาหารแก้ท้องผูก

Column: Well – Being อาการท้องผูกหรือภาวะช่องท้องขาดการเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ ทำให้ก้อนอุจจาระไม่สามารถเคลื่อนตัวหรือขับถ่ายออกมา เป็นภาวะที่เลวร้ายยิ่ง และอาจมีสาเหตุหลากหลายแตกต่างกัน ซึ่งรวมถึงอาหารที่คุณกินเข้าไปด้วย แน่นอนว่ามีแทคติกที่แตกต่างกัน ซึ่งทำให้คุณสามารถทำให้เกิดการเคลื่อนตัวของก้อนอุจจาระและขับถ่าย รวมทั้งการกินยารักษา แต่ถ้าคุณคิดว่าอาการท้องผูกของคุณไม่ได้มาจากปัญหาสุขภาพที่ซ่อนเร้น และต้องการแก้ปัญหาด้วยตัวคุณเอง ทั้งแพทย์และนักกำหนดอาหารต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันในนิตยสาร Prevention ว่า การกินอาหารอย่างถูกต้องจะช่วยกระตุ้นระบบทางเดินอาหารของคุณได้ “วิธีที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหาคือ ทำจากภายในออกมา” ดร.แอชคัน ฟาร์ฮาดี แพทย์โรคทางเดินอาหาร และผู้อำนวยการโครงการโรคทางเดินอาหารของเมโมเรียล แคร์ เมดิคอล กรุ๊ป ที่เฟาน์เทน วัลเลย์ รัฐแคลิฟอร์เนีย กล่าว ปกติแล้วคุณต้องหาอาหารเส้นใยสูงเพื่อช่วยเพิ่มขนาดของก้อนอุจจาระ “จะง่ายกว่ากับการทำให้บางสิ่งบางอย่างที่มีลักษณะเป็นก้อนใหญ่ขึ้น เคลื่อนตัวผ่านลำไส้ใหญ่ออกมา” ดร. ฟาร์ฮาดีอธิบาย (อาหารบางชนิดมีสารเฉพาะตัวที่ช่วยกระตุ้นการเคลื่อนไหวในช่องท้องด้วยซ้ำ) ดังนั้น ถ้าธรรมชาติไม่ทำงานตามปกติ และคุณต้องการลองแก้ปัญหาด้วยวิธีธรรมชาติก่อน ให้หันมากินอาหารที่แนะนำต่อไปนี้เพื่อช่วยแก้ปัญหาท้องผูก พรุน พรุนอบแห้งเป็นที่รู้จักกันอย่างแพร่หลายในแง่ช่วยแก้ปัญหาท้องผูกด้วยเหตุผลว่า “พรุนเป็นแหล่งเส้นใยที่ดี” เจสสิกา คอร์ดิง ผู้เขียนหนังสือ The Little Book of Game – Changers กล่าว พรุนยังมีสาร

Read More

อูย… ริดสีดวงทวารเล่นงาน?

Column: Well – Being คนส่วนใหญ่คงเคยได้ยินเกี่ยวกับริดสีดวงทวารกันมาบ้างแล้ว สถาบันแห่งชาติว่าด้วยโรคเบาหวาน โรคทางเดินอาหาร และโรคไต (NIDDK) แห่งสหรัฐฯ ให้ข้อมูลว่า ชาวอเมริกันทุก 1 ใน 20 คนได้รับผลกระทบจากริดสีดวงทวาร และประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนนี้เป็นผู้ใหญ่อายุ 50 ปีขึ้นไป แต่ถ้าคุณไม่เคยเป็นริดสีดวงทวาร คงเป็นเรื่องยากที่จะบรรยายให้รู้ซึ้งว่ามันทุกข์ทรมานอย่างไรบ้าง นิตยสาร Prevention แนะนำให้ลองมาทำความรู้จักริดสีดวงทวารกันดีกว่า หอสมุดแห่งชาติสหรัฐอเมริกาให้คำจำกัดความโรคริดสีดวงทวารว่า เป็นอาการหลอดเลือดรอบทวารหนักหรือลำไส้ตรงส่วนล่างบวมและอักเสบ “ริดสีดวงทวารเป็นกายวิภาคปกติ เหมือนการที่เรามีมือทั้งสองข้าง” ดร. เจฟเฟอรี เนลสัน ศัลยแพทย์ลำไส้ใหญ่และทวารหนัก และผู้อำนวยการแผนกศัลยกรรมแห่งศูนย์โรคลำไส้ใหญ่และโรคลำไส้ใหญ่อักเสบเรื้อรังประจำศูนย์การแพทย์เมอร์ซีแห่งบัลติมอร์ กล่าว “ในร่างกายของทุกคนต่างก็มีเนื้อเยื่อริดสีดวงทวาร” NIDDK เปิดเผยว่า ริดสีดวงทวารมี 2 ประเภท ได้แก่ ริดสีดวงทวารภายใน ที่เกิดขึ้นเหนือเส้นสมมุติ (dentate line) ของทวารหนักและลำไส้ตรงส่วนล่าง และริดสีดวงทวารภายนอก ที่เกิดขึ้นใต้เส้นสมมุติ (dentate line) ลงมาและอยู่ลึกเข้าไปใต้ผิวหนังรอบทวารหนัก สาเหตุ ไม่เป็นที่แน่ชัดว่า ทำไมบางคนจึงต้องทุกข์ทรมานกับภาวะริดสีดวงทวาร ขณะที่คนอื่นกลับไม่เป็น ดร. เนลสัน

Read More

วิธีง่ายๆ ป้องกันโรคกรดไหลย้อน

Column: Well – Being เราอาจเคยมีประสบการณ์แสบร้อนกลางอกกันมาบ้างแล้ว สาเหตุอาจเป็นเพราะกินพิซซ่าฉลองมากเกินไปในคืนวันศุกร์ที่ผ่านมา แต่ถ้าคุณต้องทุกข์ทรมานกับอาการที่ว่านี้สัปดาห์ละ 2 ครั้งหรือเกินกว่านั้น คุณอาจกลายเป็นโรคกรดไหลย้อน ซึ่งเป็นสภาวะที่กล้ามเนื้อหูรูดส่วนล่างสุดของหลอดอาหารหย่อนยานเกินไป ทำให้กรดในกระเพาะอาหารไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหาร จนทำให้เกิดความรู้สึกขมและเปรี้ยวแสบร้อนกลางอกในช่วงหลังมื้ออาหารอย่างที่เราคุ้นกันว่าเป็นอาการของกรดไหลย้อน ในระยะยาวภาวะนี้สามารถทำลายหลอดอาหาร นำไปสู่อาการแผลอักเสบ ก่อให้เกิดเนื้อเยื่อแผลเป็น หรืออาจเกิดภาวะก่อนเป็นมะเร็งที่เรียกว่า มะเร็งหลอดอาหาร (Barrett’s Esophagus) วิธีป้องกันโรคกรดไหลย้อนดังนี้ หลีกเลี่ยงอาหารกระตุ้น ให้จำกัดปริมาณการกินอาหารที่เชื่อมโยงกับอาการกรดไหลย้อน เช่น อาหารที่เป็นกรด ไขมันสูง หรือมีรสเผ็ด ช็อกโกแลต แอลกอฮอล์ และน้ำอัดลม รวมทั้งอาหารอื่น ๆ ที่อาจมีผลต่อคุณ “แต่ละคนมีความไวต่ออาหารต่างกันไป” ดร.ออสติน เจียง แพทย์โรคทางเดินอาหารประจำโรงพยาบาลมหาวิทยาลัยโธมัส เจฟเฟอร์สัน กล่าว เมื่อคุณเกิดอาการกรดไหลย้อน ให้ค่อย ๆ นึกย้อนว่าคุณกินอะไรเข้าไปบ้าง เพื่อระบุว่าอาหารชนิดไหนที่กินได้และชนิดไหนกินไม่ได้บ้าง ซอยย่อยอาหารให้เป็นมื้อเล็กลง การกินอาหารจนอิ่มเกินไป มีแนวโน้มทำให้กรดในกระเพาะอาหารถูกดันให้ไหลย้อนขึ้นสู่หลอดอาหาร ดังนั้น ให้ซอยย่อยอาหารเป็นมื้อเล็กๆ และหยุดพักบ้างในระหว่างการกิน รวมทั้งเคี้ยวอาหารให้ละเอียดเพื่อทำให้คุณกินช้าลง และให้กระเพาะอาหารมีเวลาย่อยบ้าง วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้คุณลดน้ำหนักแล้ว ผลการศึกษายังยืนยันว่า ช่วยลดความเสี่ยงการเป็นโรคกรดไหลย้อนด้วย อย่าล้มตัวนอนหลังกินอิ่ม หลังกินอาหารอิ่ม ให้ทิ้งเวลาสัก 3

Read More

10 ความเชื่อผิดๆ เรื่องลดความอ้วน

Column: Well – Being ลำพังการลดน้ำหนักตัวภายใต้สภาพแวดล้อมที่ดีที่สุดนั้นถือว่ายากแสนสาหัสอยู่แล้ว แต่จะยิ่งเป็นที่วุ่นวายใจมากขึ้นไปอีกเมื่อคุณได้รับคำแนะนำประเภท “ทำอย่างนี้” และ “ทำอย่างนั้น” จากคนรอบตัว ไม่ว่าคุณจะใช้วิธีสืบค้นทางอินเทอร์เน็ตหรือพูดคุยกับเพื่อนๆ ก็ยังถือว่ายากมากที่จะแยกแยะข้อเท็จจริงออกจากเรื่องคิดฝันเอาเอง เพราะการลดน้ำหนักขึ้นกับความต้องการและเป้าหมายของแต่ละคนอย่างแท้จริง ดังนั้น เพื่อให้การเริ่มต้นทำได้ง่ายขึ้นอีกหน่อย นิตยสาร Prevention ได้พูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้ความกระจ่างที่ถูกต้อง เป็นต้นว่า จริงๆ แล้ว อาหารเช้าเป็นอาหารมื้อสำคัญที่สุดของวันจริงหรือไม่ ต่อไปนี้เป็นความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับการลดความอ้วนที่คุณควรเลิกเชื่อให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้! ความเชื่อที่ 1 : กินไขมันทำให้อ้วน เจสสิกา คอร์ดิง ผู้เขียนหนังสือ The Little Book of Game – Changers กล่าวว่า ข้อเท็จจริงที่ว่า ไขมันให้พลังงานต่อน้ำหนักหนึ่งกรัมสูงกว่าคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน อาจเป็นที่มาของความเชื่อผิดๆ ที่ว่า กินไขมันแล้วทำให้อ้วน แต่แท้จริงแล้ว ไขมันช่วยให้คุณอิ่มนานขึ้นมากกว่า ดร.คาโรลิน นิวเบอร์รี แพทย์โรคทางเดินอาหารยังอธิบายเพิ่มเติมว่า ถ้าคุณกินไขมันมากเกินความต้องการของร่างกาย คุณจะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน “แต่ไขมันเป็นองค์ประกอบสำคัญของอาหารเพื่อสุขภาพ และการกินไขมันปริมาณที่สมควรเป็นสิ่งจำเป็นต่อการสร้างเซลล์ การรักษาความอบอุ่น และให้พลังงานแก่ร่างกาย” ความเชื่อที่

Read More

7 เทคนิครีเฟรชตัวเอง หลังงานเฉลิมฉลอง

หลายคนอาจจะมีความรู้สึกหดหู่ ซึมเศร้า และขี้เกียจ หลังจากได้หยุดเฉลิมฉลองปีใหม่หรือเทศกาลสำคัญๆ วันนี้ ผู้จัดการ 360 องศา มีเทคนิคดีๆ มานำเสนอ ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณผู้อ่านได้รีเฟรชตัวเองให้พร้อมรับสิ่งดีๆ ใหม่ๆ ที่จะเข้ามาในชีวิต 1. กลับมาพักก่อนเริ่มงานอย่างน้อย 1 วัน หากคุณเดินทางไปพักผ่อนหรือเยี่ยมญาติที่ต่างจังหวัด การเดินทางไม่ว่าจะเป็นทางไหนย่อมสร้างความรู้สึกเหนื่อยให้คุณได้ทั้งนั้น เราแนะนำว่าคุณควรกลับมาก่อนจะเริ่มการทำงานหรือการเรียนอย่างน้อย 1 วัน เพื่อให้ร่างกายได้พักผ่อนจริงๆ อาจให้วันนั้นเป็นวันแห่งการนอนขี้เกียจ หลังจากการเดินทางท่องเที่ยวหรือดื่มฉลองมาอย่างหนัก เพียงแค่ 1 วันที่คุณอนุญาตให้ร่างกายได้พักผ่อนจริงๆ จะทำให้ร่างกายคุณสดชื่นพร้อมที่จะลุยงานในศักราชต่อไปได้แล้ว 2. ออกกำลังกาย ถึงคุณจะได้หยุดพักผ่อน ท่องเที่ยว และสนุกกับกิจกรรมฉลองปีใหม่ แต่สิ่งที่ไม่ควรหยุดเลย คือ การออกกำลังกาย เพราะการออกกำลังกายจะช่วยให้คุณเป็นคนที่สดชื่น มีชีวิตชีวาอยู่เสมอ และยิ่งถ้าคุณยังออกกำลังในช่วงวันหยุดยาว จะทำให้คุณรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ข้อสำคัญคือไม่ต้องวิตกกังวลเรื่องน้ำหนักตัวหลังการบริโภคอย่างหนักในช่วงวันหยุดอีกด้วย 3. จัดห้องหรือจัดโต๊ะทำงานใหม่ นอกจากการเดินทางจะช่วยให้คุณได้เพิ่มพลังชีวิต ชาร์จแบต พักกายพักใจแล้ว การจัดโต๊ะทำงานใหม่ หรือการจัดห้องใหม่ จะช่วยให้คุณรู้สึกสดชื่นขึ้นได้อีกด้วย แยกสิ่งของที่ยังต้องใช้งานเป็นประจำ และของที่ไม่จำเป็นต้องใช้ หรือของที่ใช้แล้ว จัดให้เป็นระเบียบจะช่วยให้ห้องหรือโต๊ะทำงานของคุณโล่ง ดูสบายตาขึ้น

Read More

IF มิติใหม่แห่งการไดเอต ยิ่งอด ยิ่งผอม

การไดเอตมีหลายรูปแบบ เชื่อว่าหลายคนอาจเคยลองไดเอตมาแล้วมากมาย ทั้งการงดอาหารเย็น เช่น ไม่รับประทานอาหารหลังหกโมง ไม่บริโภคแป้งหรือคาร์โบไฮเดรต และอีกหลากหลายวิธี ทว่าจะได้ผลหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับความตั้งใจ และกิจกรรมของแต่ละคน วันนี้ ผู้จัดการ 360˚ จะชวนให้มาทำความรู้จักอีกหนึ่งรูปแบบการไดเอต ที่ผู้คนจำนวนไม่น้อยให้ความสนใจ เหล่าเทรนเนอร์การันตีว่า นี่เป็นการไดเอตที่มีประสิทธิภาพ และเห็นผล หากคุณปฏิบัติอย่างจริงจัง แม้จะไม่ต้องทำทุกวันก็ตาม คุณอาจเคยได้ยินคำว่า “กินแบบ IF” มาบ้าง ซึ่ง IF ที่ว่านี้ ย่อมาจากคำว่า Intermittent fasting หลายคนให้คำนิยามการกินแบบ IF ว่า “ยิ่งอดยิ่งผอม” จะเรียกแบบนี้ก็ไม่ผิดนัก เมื่อรูปแบบการกินของ Intermittent fasting คือการที่เราต้องแบ่งช่วงเวลาที่สามารถกินอาหารได้ และช่วงเวลาที่กินอาหารไม่ได้ หลายคนอาจสงสัยว่า การกินแบบปกติก็ไม่ต่างจากการกินแบบ IF เมื่อร่างกายมีช่วงเวลาที่พักผ่อน นอนหลับ ในเวลานี้ร่างกายไม่ได้รับสารอาหารเช่นกัน ความคิดเช่นนี้ก็ไม่ผิดเสียทีเดียว ทว่า การกินแบบ IF จะเพิ่มความยากเข้ามาอีกนิด เมื่อเราต้องเพิ่มจำนวนชั่วโมงในการงดอาหารมากขึ้น ก่อนอื่น ขออธิบายหลักการทำงานของร่างกายที่เกิดจากการกินแบบ IF

Read More

อาหารที่ทำให้ผมหนา & แข็งแรง

Column: Well Being “รากผมจัดว่าเป็นเซลล์ที่ทำงานแข็งขันที่สุด และมีอัตราการผลัดเซลล์สูงสุดชนิดหนึ่งของร่างกาย” นพ. อลัน เจ. บาวแมน แพทย์ผู้เชี่ยวชาญการฟื้นฟูเส้นผมและศัลยแพทย์การปลูกผมแห่งบาวแมน เมดิคอล กรุ๊ป รัฐฟลอริดา อธิบาย “การจำกัดอาหารหรือกินโปรตีน แร่ธาตุ กรดไขมันจำเป็น และวิตามินไม่เพียงพอ สามารถนำไปสู่ปัญหาโครงสร้างเส้นผมผิดปกติ รวมถึงปัญหาการสร้างเส้นผม การมีสีผมเปลี่ยนแปลง และภาวะผมร่วงได้ ถ้าคุณขาดโปรตีนซึ่งเป็นสารอาหารจำเป็นขั้นพื้นฐาน ร่างกายของคุณจะไม่สามารถผลิตเส้นผมที่แข็งแรงได้” ร่างกายผลิตเส้นผมอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดช่วงอายุระหว่าง 15-30 ปี จากนั้นจะผลิตเส้นผมช้าลงหรือเกิดการเปลี่ยนแปลงหลังอายุ 40 ปีขึ้นไป จึงจำเป็นต้องคิดถึงเมนูอาหารซึ่งอุดมด้วยสารอาหารที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างเส้นผมมากที่สุด ได้แก่ โปรตีน เหล็ก วิตามิน เอ, ซี, ดี และอี วิตามินบีรวม กรดไขมันโอเมก้า-3 และ 6 สังกะสี เซลีเนียม และแมกนีเซียม นพ. ซัลวาทอเร เจ. ดิ แกรนดิ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังแนะนำว่า ถ้าคุณเปลี่ยนมากินอาหารที่ช่วยสร้างเส้นผมเต็มที่แล้วแต่ยังไม่ได้ผล

Read More