วันจันทร์, กรกฎาคม 14, 2025
Home > Cover Story > PROUD ปั้น “เวหา” กลางหัวหิน สร้างโอกาสในวิกฤตอสังหาฯ

PROUD ปั้น “เวหา” กลางหัวหิน สร้างโอกาสในวิกฤตอสังหาฯ

ท่ามกลางการชะลอตัวของตลาดอสังหาริมทรัพย์ในพื้นที่กรุงเทพฯ นักพัฒนาอสังหาฯ ปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนและย้ายหมุดหมายออกไปยังเมืองท่องเที่ยว เช่น ภูเก็ต เชียงใหม่ หัวหิน เนื่องจากยังเป็นพื้นที่แห่งความหวังของธุรกิจ

บริษัท คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ให้ข้อมูลว่า ผู้พัฒนาอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ มีการปรับเปลี่ยนแผนการลงทุนโดยลดการพัฒนาโครงการใหม่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ลง และหันไปเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในเมืองท่องเที่ยว โดยเลือกทำเลที่ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวชาวไทยและนักลงทุนต่างชาติ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวจากรัสเซีย จีน อินเดีย และออสเตรเลีย

ขณะที่บ้านพักตากอากาศเป็นการลงทุนที่ตอบโจทย์มากกว่า เมื่อพิจารณาจากมูลค่าการลงทุนในจังหวัดภูเก็ตในปี 2567 มีมูลค่าสูงถึง 53,351 ล้านบาท พัทยา มูลค่าการลงทุนรวม 36,060 ล้านบาท และหัวหิน ชะอำ ยังคงเป็นทำเลที่ได้รับความสนใจจากผู้ซื้อชาวไทย

พราว เรียล เอสเตท คืออีกหนึ่งผู้ประกอบการอสังหาฯ ที่ปักหมุดบนทำเลหัวหิน และโครงการล่าสุดที่เหมือนเป็น Rare Item ของพื้นที่คือ โครงการ เวหา หัวหิน ที่ชูจุดขายทุกห้องสามารถเห็นวิวทะเลได้ และห่างจากชายฝั่งเพียง 700 เมตร

พราวพุธ ลิปตพัลลภ กรรมการบริหาร บริษัท พราว เรียล เอสเตท จำกัด (มหาชน) ให้ข้อมูลกับ “ผู้จัดการ 360 องศา” ว่า “ปัจจัยที่หัวหินกลายเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำคัญของนักท่องเที่ยวคือ ราคาที่เข้าถึงง่ายกว่า เมื่อเทียบกับภูเก็ต ความเงียบสงบ และสังคมสำหรับกลุ่ม Expat มีความแข็งแรง ในขณะที่ตลาดอสังหาฯ ในกรุงเทพฯ อาจจะซบเซาลงไปบ้าง โดยเฉพาะเมื่อมีเหตุการณ์แผ่นดินไหว ทำให้ผู้บริโภคเริ่มมองหาอาคารที่มีความปลอดภัย หรือบ้านแนวราบมากกว่า

นอกจากนี้ การเดินทางที่สะดวก รวมถึงระบบโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมในหลายมิติ ไม่ว่าจะเป็นทางด่วนพระราม 3-ดาวคะนอง มอเตอร์เวย์ 81 บางใหญ่-กาญจนบุรี ที่เปิดให้บริการแล้ว มอเตอร์เวย์ 82 บางขุนเทียน-เอกชัย-บ้านแพ้ว ที่แม้จะยังไม่มีกำหนดแล้วเสร็จ แต่เมื่อพร้อมเปิดใช้งานน่าจะช่วยให้การเดินทางสะดวกยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ยังมีเส้นทางในอนาคตคือ มอเตอร์เวย์ 8 นครปฐม-ปากท่อ-ชะอำ”

ปัจจัยเหล่านี้ดูเหมือนจะเอื้ออำนวยให้ตลาดอสังหาริมทรัพย์หัวหิน มีอนาคตมากขึ้น เมื่อพิจารณาจากราคาขายที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ในขณะที่แปลงที่ดินสวยใกล้ชายหาดเริ่มหายากขึ้น หรือเจ้าของปล่อยขายยากกว่าเดิม

“ราคาที่ดินหัวหิน โดยเฉพาะทำเลสวยใกล้หาดมีการปรับราคาขึ้นอย่างมาก ราคาวิ่งไปถึง 80-120 ล้านบาทต่อไร่ แต่ก็หายากขึ้น มีคนอยากขาย แต่ยังไม่ถูกใจคนซื้อ หรือมีคนอยากซื้อแต่ไม่มีที่ดินแปลงสวยๆ ขาย” พราวพุธ ให้ข้อมูล ก่อนจะขยายความถึงโครงการเวหา หัวหิน

“โครงการ เวหา หัวหิน มีจุดแข็งในเรื่องทำเลที่หาได้ยาก เพราะเราห่างจากทะเลเพียง 700 เมตร และผังเมืองทำให้เราสามารถสร้างตึกสูงได้ จุดนี้สร้างข้อได้เปรียบ เพราะที่พักอาศัยทุกห้องสามารถมองเห็นวิวทะเลได้ โดยไม่มีสิ่งบดบัง

ตัวโครงการตั้งอยู่บนพื้นที่ Mixed-Use ที่ใหญ่สุดในหัวหิน ประกอบไปด้วย โรงแรม ฮอลิเดย์ อินน์ สวนน้ำวานา นาวา สถานีรถไฟหนองแก และเส้นทางเชื่อมต่อใจกลางเมืองและชายหาด

ซึ่งสถานีรถไฟนี่จะเป็นสิ่งที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มครอบครัวได้เป็นอย่างดี นักท่องเที่ยวสามารถเดินทางโดยรถไฟจากสถานีกลางบางซื่อ มาลงที่สถานีหนองแก แล้วเดินข้ามถนนเล็กๆ มาที่โครงการเวหาได้เลย เป็นการเปลี่ยนบรรยากาศจากปกติที่คนมักจะนิยมเดินทางโดยรถยนต์”

ตลาดที่อยู่อาศัยในหัวหิน มีการต่อสู้กันอย่างหนักหน่วง ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นต่างชาติ และต้องการการดูแลเป็นพิเศษ เสมือนเป็นบุคคลสำคัญ ทั้งด้านสุขภาพ และการบำรุงรักษาบ้าน คอนโด พราวพุธ อธิบายว่า คอนโด เวหา ใส่ระบบการดูแลเชิงป้องกันที่ช่วยดูแลห้องพักแม้เจ้าของไม่อยู่ “เราใส่ใจทุกรายละเอียดของการอยู่อาศัย มีบริการ Home and Health Butler ระบบ Preventive Home Care เจ้าของห้องแค่แจ้งมาว่าจะพักผ่อน ผ่าน Proud Living Platform เรามีบริการดูแลทำความสะอาด ตั้งแต่เข้าพักจนกระทั่งเดินทางกลับ และเรายังดีลกับโรงพยาบาลกรุงเทพเพื่อดูแลสุขภาวะกายและใจแบบองค์รวม เพื่อให้ทุกคนใช้ชีวิตในคอนโดเวหา ได้อย่างไม่ต้องกังวล”

หัวหิน เป็นพื้นที่ที่เหมาะสำหรับการลงทุน ทั้งในแง่มุมของนักพัฒนาอสังหาฯ และนักลงทุนรายย่อย เพราะหัวหินเป็นเมืองท่องเที่ยว ศูนย์กลางความเจริญด้านไลฟ์สไตล์ที่อยู่กึ่งกลางระหว่างกรุงเทพฯ และจังหวัดทางภาคใต้ ทำให้คอนโดในหัวหินเป็นทางเลือกที่น่าสนใจเนื่องจาก Rental Yielad มีเสถียรภาพในกลุ่มตลาดบน 5-7% ต่อปี

“ปัจจุบันคอนโดเวหา หัวหินมีกลุ่มลูกค้าต่างชาติครองสัดส่วนถึง 52% จากยอดขาย 73% ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการ ทำให้เป็นที่สนใจของลูกค้าต่างชาติ โดยส่วนใหญ่มาจากยุโรปซึ่งใช้เป็น Long Stay Residence โดยเปลี่ยนจากการเช่ามาสู่การซื้อสินทรัพย์เพิ่มขึ้น นี่ถือเป็นการสะท้อนความเชื่อมั่นที่มีต่อโครงการผ่านการทยอยโอนกรรมสิทธิ์ตั้งแต่ปลายเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา” พราวพุธ ขยายความ.