วันจันทร์, มิถุนายน 16, 2025
Home > New&Trend > พรูเด็นเชียล เปิดมุมมองการส่งต่อมรดก ผ่านแนวคิด “PRULegacy : Your Mark Lives On”

พรูเด็นเชียล เปิดมุมมองการส่งต่อมรดก ผ่านแนวคิด “PRULegacy : Your Mark Lives On”

ประเทศไทยกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของการถ่ายทอดความมั่งคั่งระหว่างรุ่นครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ โดยคาดว่าภายใน 10 ปีข้างหน้า จะมีการโอนถ่ายทรัพย์สินระหว่างรุ่นในมูลค่าหลายล้านล้านบาท แต่ถึงกระนั้นคนไทยยังมีการจัดทำพินัยกรรมเพียง 13% ของประชากรทั้งหมดเท่านั้น ขณะที่ทั่วโลกอยู่ที่ 30-40% โดยสหรัฐอเมริกาอยู่ที่ 46%

ทั้งนี้ การวางแผนมรดกยังไม่เป็นที่เข้าใจในระดับสังคมมากนัก คนไทยจำนวนมากยังเข้าใจผิดว่าการจัดทำพินัยกรรมเป็นเรื่องไกลตัวหรือเฉพาะผู้มีทรัพย์สินมากเท่านั้น ซึ่งการไม่มีแผนที่ชัดเจนดังกล่าวมักนำไปสู่ข้อพิพาทภายในครอบครัว ภาระภาษีที่ไม่คาดคิด และการสูญเสียคุณค่าที่ควรส่งต่อ ดังที่ปรากฏให้เห็นเป็นข่าวอยู่บ่อยครั้ง

ซึ่งการวางแผนการส่งต่อมรดกที่ดีจะช่วยลดความเสี่ยงจากความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้ ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ฉุกเฉิน ภาษี หรือเงื่อนไขครอบครัวที่ซับซ้อนขึ้น

ล่าสุด พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ชวนเปิดมุมมองใหม่สังคมไทยให้มีความตระหนักรู้ถึงความสำคัญของการวางแผนส่งต่อความมั่งคั่งที่ยั่งยืน (A Thoughtful Legacy Planning) ผ่านแนวคิด “PRULegacy : Your Mark Lives On” ท่ามกลางแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่กำลังก้าวเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่านครั้งใหญ่ของการส่งต่อทรัพย์สินของครอบครัว

“สำหรับพรูเด็นเชียลฯ คำว่า Legacy ไม่ได้หมายถึงแค่ทรัพย์สิน แต่รวมถึงค่านิยม ความตั้งใจ และเป้าหมายชีวิตที่เจ้าของทรัพย์สินต้องการส่งต่อให้กับคนรุ่นหลังอย่างมีคุณค่า ดังนั้น เราจึงอยากเปิดมุมมองให้สังคมไทยมีความตระหนักรู้ถึงการส่งต่อมรดกอย่างมีคุณค่าและมีความหมาย ผมมองว่า การวางแผนในการส่งต่อทรัพย์สินหรือมรดกไม่ใช่เรื่องของคนสูงวัยเท่านั้น แต่เราสามารถเตรียมความพร้อมได้ทันทีเมื่อมีครอบครัวหรือเป้าหมายระยะยาว เพื่อให้ ‘คุณค่า’ ที่เราสร้างมาตลอดชีวิตถูกส่งต่อถึงลูกหลานหรือคนรุ่นหลังอย่างดีที่สุด” บัณฑิต เจียมอนุกูลกิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรูเด็นเชียล ประกันชีวิต (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย กล่าว พร้อมให้ข้อมูลที่น่าสนใจว่า

ข้อมูลจากธนาคารแห่งประเทศไทยที่ชี้ว่า ภายใน 10 ปีข้างหน้า ประเทศไทยกำลังเข้าสู่ยุคการส่งต่อความมั่งคั่งระหว่างรุ่นสู่รุ่นมูลค่าหลายล้านล้านบาท  นอกจากนี้ รายงาน Global Wealth Report 2024  โดย UBS ได้รายงานว่า ภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (Asia-Pacific) เป็นผู้นำในการเติบโตของความมั่งคั่งทั่วโลก โดยมีอัตราการเติบโตของความมั่งคั่งเฉลี่ยสูงที่สุดในโลกนับตั้งแต่ปี 2008 ถึง 2023 ที่ประมาณ 177% และในประเทศไทยมีกลุ่มผู้มีความมั่งคั่ง (High-Net-Worth: HNW) เติบโตเฉลี่ยสูงถึง 10.3% ต่อปี สะท้อนถึงความต้องการเครื่องมือวางแผนความมั่งคั่งที่มีประสิทธิภาพและรอบด้าน เพื่อให้การส่งต่อคุณค่าในครอบครัวเป็นไปอย่างมั่นคงและยั่งยืน

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันคนไทยจำนวนมากยังเข้าใจผิดว่าการจัดทำพินัยกรรมเป็นเรื่องไกลตัว นี่จึงเป็นจังหวะสำคัญที่ทุกครอบครัวควรตระหนักถึงการวางแผนมรดกอย่างรอบคอบ พรูเด็นเชียล ประเทศไทย จึงได้เปิดตัว “PRULegacy” ซึ่งออกแบบมาเพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า HNW โดยเฉพาะ โดยเน้นการวางแผนการเงินและการลงทุนเพื่อความมั่นคงในอนาคตของทายาท ผ่านการให้คำปรึกษาด้านการเงิน การวางแผนภาษี และการเลือกเครื่องมือถ่ายโอนทรัพย์สินที่มีประสิทธิภาพ เช่น การใช้ประกันชีวิตเป็นมรดก รวมถึงบริการร่างพินัยกรรมและบริหารจัดการภาษีร่วมกับสำนักงานกฎหมายชั้นนำ

สิ่งที่ควรรู้ในการวางแผนมรดก

ทั้งนี้บัณฑิตเผยว่า สิ่งที่ควรรู้ในการวางแผนมรดกคือ “ทำบัญชีทรัพย์สิน ทำความเข้าใจภาษีที่เกี่ยวข้อง ตั้งเป้าหมาย เลือกเครื่องมือ และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ”

o เริ่มจากการทำบัญชีทรัพย์สิน (Asset Inventory)

o ทำความเข้าใจภาษีที่เกี่ยวข้อง เช่น ภาษีมรดก ภาษีการให้

o ตั้งเป้าหมาย : อยากให้ใครได้อะไร? ด้วยเหตุผลอะไร?

o เลือกเครื่องมือ : ไม่ว่าจะเป็นพินัยกรรม ประกันชีวิต หรือการจัดโครงสร้างนิติบุคคล

o ปรึกษาผู้เชี่ยวชาญ เช่น ที่ปรึกษาทางการเงิน นักกฎหมาย หรือบริษัทประกันที่เชี่ยวชาญด้าน Legacy Planning

ภาษีมรดกที่หลายคนมองข้าม

อีกหนึ่งประเด็นสำคัญคือเรื่อง “ภาษีมรดก” ที่หลายคนมักมองข้าม โดยอัตราภาษีมรดกในประเทศไทยระบุว่า

o หากผู้รับมรดกเป็นบุพการีหรือผู้สืบสันดาน จะเสียภาษีในอัตรา 5% ของมูลค่าทรัพย์สินที่เกิน 100 ล้านบาท

o หากผู้รับมรดกเป็นบุคคลอื่น จะเสียภาษีในอัตรา 10% ของมูลค่าทรัพย์สินที่เกิน 100 ล้านบาท

ส่วนทรัพย์สินที่ต้องเสียภาษีมรดก ประกอบไปด้วย อสังหาริมทรัพย์ เช่น บ้าน ที่ดิน, หลักทรัพย์ เช่น หุ้น กองทุนรวม, เงินฝากในธนาคาร, ยานพาหนะ เช่น รถยนต์ เป็นต้น

ทั้งนี้คาดว่า ในอีก 5 ปีข้างหน้า การเติบโตของกลุ่มผู้มีความมั่งคั่ง (High-Net-Worth: HNW) จะเพิ่มจาก 100,000 คน เป็น 124,000 คน (หรือประมาณ 24%) ส่วนธุรกิจบริหารความมั่งคั่งทั้งในระดับบโลกและประเทศไทย มีอัตราการเติบโตเฉลี่ยปีละ 6% และคาดว่าในปี 2571 มูลค่าสินทรัพย์ในธุรกิจบริหารความมั่งคั่งของไทยจะทะลุ 1 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยกลุ่ม HNW ในไทยมีการเติบโตต่อเนื่อง ปี 2566 มีการเติบโต 10.3% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก

สำหรับสมาชิก PRULegacy นั้น จะมี 2 ระดับสมาชิก คือ PRULegacy ชำระเบี้ยประกันภัยรวมต่อปีตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป และ สมาชิก PRULegacy+ ชำระเบี้ยประกันภัยรวมต่อปีตั้งแต่ 10,000,000 บาทขึ้นไป โดยสมาชิก PRULegacy ทุกคนจะได้รับการดูแลโดยทีมที่ปรึกษาความมั่งคั่งเฉพาะทาง ให้คำปรึกษาด้านการเงิน การลงทุน และวางแผนภาษีอย่างใกล้ชิด เพื่อออกแบบแผนบริหารทรัพย์สินที่เหมาะกับเป้าหมายของแต่ละบุคคล

นอกจากนั้นยังได้รับเอกสิทธิ์และสิทธิประโยชน์แบบองค์รวมที่ครอบคุลมทั้งการวางแผนการเงิน การคุ้มครองสุขภาพและไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นบริการที่ปรึกษาด้านภาษี การวางแผนทรัพย์สินระยะยาว ตลอดจนสิทธิประโยชน์ด้านสุขภาพและการใช้ชีวิตระดับพรีเมียม เช่น บริการจัดทำร่างพินัยกรรม หรือ บริการให้คำปรึกษาด้านการวางแผนภาษี ที่สำนักงานกฎหมาย Chandler Mori Hamada Limited (CMH), บัตร E-Voucher สำหรับรับประทานอาหารที่ร้านอาหารมิชลิน, แพ็กเกจตรวจสุขภาพ, ส่วนลดสำหรับบัตรโดยสาร Bangkok Airways เป็นต้น

ล่าสุด พรูเด็นเชียลฯ ยังได้ร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจ อย่าง ทีทีบี และ ธนาคารยูโอบี ประเทศไทย เปิดตัวผลิตภัณฑ์ “ประกันชีวิตเพื่อการส่งต่อมรดก ทีทีบี อัลติเมท เลกาซี 99/3” และ “ยูโอบี บียอนด์ เลกาซี 3/99” ผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตที่ออกแบบมาเพื่อปกป้องและเพิ่มมูลค่าทรัพย์สิน ส่งต่อมรดก สร้างอนาคตมั่นคง  โดยจ่ายเบี้ยประกันภัยเพียง 3 ปี รับความคุ้มครองจนถึงอายุครบ 99 ปี

ไม่เพียงนำเสนอโซลูชันสำหรับกลุ่มผู้มั่งคั่งหรือผู้มีกำลังซื้อเท่านั้น พรูเด็นเชียล ประเทศไทย ยังตระหนักถึงความสำคัญของการสร้างโอกาสให้คนไทยกลุ่มเปราะบางสามารถเข้าถึงการประกันได้เช่นเดียวกัน จึงได้ดำเนินโครงการ “Give The Future: การให้ที่ยั่งยืน คือ การให้ที่ส่งต่อได้” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยปีนี้ได้มอบความคุ้มครองประกันอุบัติเหตุส่วนบุคคลฟรีแก่ลูกจ้างของกรุงเทพมหานครและโรงพยาบาลรัฐ รวม 5 แห่ง ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช, โรงพยาบาล วชิรพยาบาล, โรงพยาบาลรามาธิบดี, โรงพยาบาลศรีธัญญา และโรงพยาบาลสามพราน รวมทั้งสิ้น 80,000 กรมธรรม์ คิดเป็นทุนประกันรวมกว่า 8,000,000,000 บาท โดยลูกค้าใหม่ของพรูเด็นเชียลฯ ที่ซื้อ 1 กรมธรรม์วันนี้ จะมีโอกาสส่งต่ออีก 1 กรมธรรม์ ให้แก่ลูกจ้างกรุงเทพมหานครและโรงพยาบาลรัฐ