วันอังคาร, ตุลาคม 8, 2024
Home > Cover Story > เซเว่นฯ อัดกลับซีเจ สงครามช่วงชิงตลาด 6 แสนล้าน

เซเว่นฯ อัดกลับซีเจ สงครามช่วงชิงตลาด 6 แสนล้าน

“รับมั๊ยคะ 1 แถม 1 จัดวันเดียว เฉพาะสาขาชนกับซีเจ…”

พนักงานร้านเซเว่นอีเลฟเว่น แจ้งลูกค้า ชักชวนซื้อเมนูอาหารพร้อมรับประทานรายการหนึ่ง ย้ำจัดวันเดียวและจัดบางสาขาเท่านั้น ซึ่งลูกค้าหยิบใส่ตะกร้าทันที

แน่นอนว่า โปรจัดหนักแบบด่วนๆ สะท้อนภาพสงครามการแข่งขันอันดุเดือดในตลาดคอนวีเนียนสโตร์ระหว่าง 2 ค่ายยักษ์ใหญ่ “เซเว่นอีเลฟเว่นกับซีเจมอร์” โดยเฉพาะช่วงปี 2567 ค่ายซีเจ เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป เร่งปูพรมสาขาไล่บี้ เซเว่น อีเลฟเว่น ชนิดระยะห่างกันไม่ถึงร้อยเมตร หลายสาขาใช้วิธีเสียบทำเลร้านเดิมของอีกค่าย ซึ่งสู้ค่ายเบอร์ 1 ไม่ไหวจนยอมถอดใจทิ้งพื้นที่

ทั้งนี้ ข้อมูลวิเคราะห์จากสายงานวิจัยธุรกิจ กลุ่มกลยุทธ์และนวัตกรรม ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า ตลาดร้านสะดวกซื้อหรือคอนวีเนียนสโตร์เคลื่อนไหวคึกคัก แม้ประมาณการปี 2567 คาดภาพรวมตลาดมีมูลค่า 6.05 แสนล้านบาท ขยายตัว 5.7% เมื่อเทียบกับปี 2566 ที่ขยายตัวจากปี 2565 ถึง 8.1% มากกว่าค่าเฉลี่ยการเติบโตในช่วงปี 2561-2566 ที่เฉลี่ยขยายตัว 4.1% ต่อปี

ส่วนหนึ่งมาจากช่วงสถานการณ์โควิดแพร่ระบาดและหลังจากนั้น 3 ปี ผู้คนส่วนใหญ่เลือกใช้บริการร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านมากกว่าการเดินทางไปจับจ่ายในซูเปอร์สโตร์ขนาดใหญ่และกลุ่มนักท่องเที่ยวต่างชาติเพิ่มขึ้นอย่างมาก หลังจากไทยเปิดประเทศอย่างเต็มรูปแบบ โดยเฉพาะช่วงปี 2565-2566 ตัวเลขสูงขึ้นชัดเจน

ดูจากตัวเลขปี 2563 อยู่ที่ 440,317 ล้านบาท ปี 2564 ขยับเพิ่มเล็กน้อยอยู่ที่ 440,848 ล้านบาท ปี 2565 โดดขึ้นมาเป็น 529,913 ล้านบาท และปี 2566 มีมูลค่า 573,086 ล้านบาท ส่วนปี 2568 คาดว่าจะขยายตัว 5.3% อยู่ที่ 6.38 แสนล้านบาท

ด้านส่วนแบ่งการตลาดร้านสะดวกซื้อในประเทศไทยจากข้อมูลวิจัยพบว่า เซเว่นอีเลฟเว่นยังยึดส่วนแบ่งสูงสุด 70.8% ตามด้วยโลตัส 10.6% บิ๊กซีมินิ 4.5% ซีเจ มอร์ 4.2% และอื่นๆ รวมกันอีก 9.9%

ทั้งนี้ ถ้าเจาะเกมแข่งขันของตลาดที่มีโจทย์เรื่องรูปแบบการซื้อของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป มีการสั่งซื้อทางออนไลน์มากขึ้น ขนาดของครัวเรือนไทยเล็กลงและการใช้จ่ายต่อครั้งน้อยลง ฝ่ายวิจัย ธนาคารแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ระบุว่า ธุรกิจร้านสะดวกซื้อของไทยจะยิ่งแข่งขันรุนแรงมากขึ้น โดยเฉพาะคู่ชิงชัย “เซเว่นฯ-ซีเจ”

เมื่อฝ่ายแรกชูจุดขายความเป็นร้านอิ่มสะดวกครบวงจร อีกฝ่ายเน้นการนำเสนอสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาต่ำกว่าคู่แข่ง กลยุทธ์ 1 แถม 1 ทั้งกลุ่มสินค้าอุปโภคบริโภคและเครื่องดื่ม สินค้าราคาพิเศษสำหรับสมาชิก และการใช้แต้มแลกส่วนลดเงินสด พร้อมอัดอีเวนต์จัดคอนเสิร์ตขยายฐานเครือข่ายลูกค้าและสร้างการรับรู้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากขึ้น

เมื่อเร็วๆ นี้ ซีเจ มอร์ คิกออฟแคมเปญครบรอบ 19 ปี ดึงซุปตาร์ลูกทุ่งขวัญใจมหาชน “ก้อง ห้วยไร่” ลุยกิจกรรม “ซีเจ มอร์ ช้อปลิมปิก ภารกิจออกกำลังช้อป” ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน-24 สิงหาคม 2567 กับ 3 ภารกิจ ได้แก่ ภารกิจนักช้อปแข็งแรง ให้สิทธิ์สินค้าแลกซื้อสไตล์สปอร์ตในราคาสบายกระเป๋า ภารกิจแชมเปี้ยนนักช้อปชวนลูกค้าที่มียอดซื้อสะสมสูงสุด 19 อันดับ คว้าเหรียญทองคำแท้ ขณะที่ 40 อันดับถัดจากนั้นรับสิทธิ์ร่วมกิจกรรมกับแบรนด์แอมบาสเดอร์ “ก้อง ห้วยไร่”

สุดท้าย คือ ภารกิจชุมชนแข็งแรง สานต่อเจตนารมณ์ความเป็นพันธมิตรชุมชน ให้ลูกค้าสมาชิกรวมพลังบริจาคแต้มสบายการ์ด เพื่อเปลี่ยนเป็นอุปกรณ์กีฬาให้โรงเรียน 5 แห่งทั่วประเทศไทย นอกจากนั้น อัดกิจกรรมหน้าสาขาจับกลุ่มลูกค้ามวลชนรากหญ้า เช่น ลูกทุ่งโรบิค งานแฟร์สินค้าราคาประหยัด และเดินสายจัดคอนเสิร์ตในหลายๆ จังหวัด รวมถึงจับมือกับบริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เปิดเวทีประกวดไมค์ทองคำออนทัวร์ในหลายจังหวัด  เช่น นครนายก ชัยภูมิ ร้อยเอ็ด ชุมพร กรุงเทพฯ นครปฐม ลพบุรี ระยอง บุรีรัมย์ และกาฬสินธุ์

อย่างไรก็ตาม ในแง่จำนวนสาขา เซเว่นอีเลฟเว่นยังผูกขาดเบอร์ 1 จากตัวเลขไตรมาส 2/2567 มีสาขาทั้งสิ้น 14,854 แห่ง อยู่ในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 8,512 แห่ง ต่างจังหวัดทั่วประเทศ 6,342 แห่ง เป็นร้านที่บริษัทลงทุนเอง 7,546 สาขา และร้านแฟรนไชส์ 7,308 สาขา โดยทั้งปีนี้ บริษัท ซีพีออลล์ จำกัด (มหาชน) ยังทุ่มงบลงทุนรวม 13,000 ล้านบาท เร่งขยายสาขาใหม่มากกว่า 700 แห่ง

ขณะเดียวกัน ค่ายโลตัส ซึ่งอยู่ในอาณาจักรค้าปลีกของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) เหมือนกัน ล่าสุดมีสาขาโกเฟรช มินิซูเปอร์มาร์เก็ต มากกว่า 2,000 แห่ง

สำหรับบริษัท เซ็นทรัล ฟู้ด รีเทล จำกัด ผู้ดำเนินธุรกิจร้านค้าปลีกแบรนด์ ท็อปส์ ทั้งท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ ท็อปส์ เดลี่ ท็อปส์ ออนไลน์ แม้ประกาศเป้าหมาย 4 ปี ผลักดันอัตราเติบโตเฉลี่ย 8% ต่อปี มุ่งสู่การเป็นซูเปอร์มาร์เกตเชนใหญ่ที่สุดในประเทศด้วยสาขามากกว่า 1,000 แห่ง ภายในปี 2570 ตามวิสัยทัศน์เชิงกลยุทธ์ “Truly World-Class Omni-Channel Lifestyle Food Retail” โดยสิ้นปีนี้ท็อปส์จะมีสาขาทุกฟอร์แมตรวมกว่า 730 สาขา ได้แก่ ท็อปส์ ฟู้ด ฮอลล์ 20 สาขา ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ตมากกว่า 150 สาขา ท็อปส์ เดลี่ กว่า 520 สาขา ท็อปส์ ไวน์ เซลล่าร์ มากกว่า 10 สาขา และวางแผนขยายสาขาเฉลี่ยมากกว่า 100 สาขาต่อปี

แต่หากเทียบกับทุกค่ายในตลาดแล้ว แบรนด์ท็อปส์เดลี่เน้นจับกลุ่มลูกค้าระดับบนมากกว่าทุกค่าย  โดยปีที่ผ่านมา รีแบรนด์และปรับโฉมโมเดล ท็อปส์ เดลี่ มินิซูเปอร์มาร์เก็ต ทั่วประเทศ ภายใต้แนวคิด Joy-venience Store หลังถอดแบรนด์ “แฟมิลี่มาร์ท” ออกจากตลาด

ดังนั้น คู่แข่งของเซเว่นอีเลฟเว่นที่เปิดเกมรุกหนักสุด หนีไม่พ้น “ซีเจ” ซึ่งล่าสุด บริษัท ซีเจ เอ็กซ์เพรส กรุ๊ป จำกัด เปิดแผนดำเนินธุรกิจ 3 ปี (ปี 2567-2569) เดินหน้าขยายสาขาครบ 2,000 แห่งภายในปี 2569 หรือเพิ่มสาขาใหม่อย่างน้อยปีละ 250 สาขา และตั้งเป้าหมายผลักดันรายได้แตะ 80,000 ล้านบาท จากปี 2566 อยู่ที่ 40,000 ล้านบาท มิหนำซ้ำมองไกลไปถึงปี 2575 ต้องมีร้านให้บริการลูกค้า 3,000 สาขา มีรายได้ระดับ 1 แสนล้านบาท หลังเจอปัจจัยลบทางเศรษฐกิจ ต้องเลื่อนแผนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยอย่างไม่มีกำหนด

ปัจจุบัน ซีเจมีร้าน 3 โมเดล คือ ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต พื้นที่เฉลี่ย 300 ตารางเมตร ลูกค้าเฉลี่ย 500- 600 คนต่อวันต่อสาขา

โมเดลที่ 2 ซีเจ มอร์ พื้นที่ขนาดใหญ่ประมาณ 2 ไร่ ภายในร้านมีสินค้าหลากหลายของเครือ เช่น สินค้าไลฟ์สไตล์ อูโนะ นายน์บิวตี้ สินค้าความงาม ร้านกาแฟและเครื่องดื่มบาว คาเฟ่ มีลูกค้าเฉลี่ย 800-1,000 คนต่อวันต่อสาขา

โมเดลที่ 3 ซีเจ เอ็กซ์ (CJX) เป็นร้านไฮบริดที่ทำทั้งค้าปลีกและค้าส่ง เพิ่งเปิดตัวช่วงปลายปีที่ผ่านมา เจาะทำเลใกล้ที่อยู่อาศัย และเพิ่มจุดขายใหม่ คือ การจัดโปรโมชัน 7 วันหมุนเวียนทุกสัปดาห์ ไลน์อัปสินค้ากว่า 1,000 รายการ และในสาขามีโซนร้านกาแฟ บาวคาเฟ่ ด้วย

ทว่าใน 3 โมเดล บริษัทเน้นโมเดลซีเจ มอร์ เพื่อเป็น Umbrella Brand รวม 5 แบรนด์ค้าปลีกที่บริษัทปลุกปั้นเอง เข้ามาเปิดให้บริการจบครบในที่เดียว เพื่อชูความเป็นศูนย์การค้าขนาดเล็กในชุมชน นอกเหนือจากจุดขายสินค้าราคาถูกกว่าคู่แข่ง

ทั้ง 5 แบรนด์ ประกอบด้วย ซีเจ ซูเปอร์มาร์เก็ต (CJ Supermarket) นายน์ บิวตี้ (Nine Beauty) จำหน่ายเครื่องสำอางและความงามมัลติแบรนด์ อาหารเสริมสุขภาพ อูโนะ (UNO) เน้นสินค้าไลฟ์สไตล์ สินค้าแฟชั่น เครื่องเขียน และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอ-โฮม (A-Home) สินค้าสำหรับคนรักบ้าน และร้านกาแฟสดบาว คาเฟ่ (Bao Café) นอกจากนั้น พยายามเพิ่มบริการใหม่ๆ แบรนด์ใหม่ๆ รองรับกลุ่มเป้าหมายตามทำเลต่างๆ เช่น การแตกไลน์ร้านสะดวกซัก Bao Wash ทดลองเปิดซีเจ มอร์ ฟู้ดฮอลล์ มีร้านขายอาหารและอุปกรณ์สัตว์เลี้ยงครบวงจร “เพ็ทฮับ” และดึงพันธมิตรกลุ่มอาหารสด เช่น เบทาโกร วางจำหน่ายเนื้อสัตว์ ผัก ผลไม้ มีอาหารพร้อมปรุงพร้อมรับประทานในซีเจซูเปอร์มาร์เก็ต

ที่สำคัญ เร่งขยายฐานลูกค้าผ่านบัตรสมาชิก “สบายการ์ด” ให้ลูกค้าสะสมแต้มเมื่อซื้อสินค้าครบทุก 25 บาท สามารถใช้แต้มสะสมแลกซื้อสินค้าพิเศษ

ทว่า เบอร์ 1 อย่างเซเว่น อีเลฟเว่น เตรียมเกมโต้กลับอีกหลายดอกแน่.