Home > Cover Story (Page 36)

ทรูมันนี่ผนึกโลตัส เปิดเกมรุก “ซื้อก่อนจ่ายทีหลัง” ยกห้าง

“ทรูมันนี่ (TrueMoney)” เปิดเกมรุกใหม่ พุ่งเป้าเจาะตลาดสินเชื่อที่ยังมีแนวโน้มเติบโตสูงมากตามกระแสความต้องการของกลุ่มลูกค้าในยุคเศรษฐกิจเงินหมุนแบบเดือนชนเดือน หลังใช้เวลาเกือบสิบปีปลุกปั้น “ทรูมันนี่วอลเล็ต” กลายเป็นกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์ที่ทุกคนต้องมีใช้จับจ่ายแบบเติมเงิน โดยกวาดยอดสมาชิกพุ่งไปกว่า 27 ล้านรายแล้ว สำหรับกลยุทธ์ล่าสุด ทรูมันนี่ใช้ยุทธศาสตร์ Synergy กับห้างค้าปลีกยักษ์ใหญ่ในเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) คือ โลตัส ซึ่งมีสาขามากกว่า 2,300 สาขาทั่วประเทศ เปิดแคมเปญสินเชื่อให้ลูกค้าสามารถซื้อสินค้าทุกรายการแบบผ่อนชำระได้ทั้งห้างโลตัส พร้อมโปรโมชันแจ้งเกิดให้ผ่อนชำระสินค้า 0% ผ่านบริการ เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า (Pay Next Extra) วงเงินสะดวกใช้ ผ่อนสบาย รับเครดิตเงินคืน และโลตัสคอยน์เพิ่มเป็น 2 เท่า ยาวถึงสิ้นปี 2566 กรวุฒิ ปวิตรปก ผู้อำนวยการฝ่ายทางพาณิชย์ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด กล่าวว่า ผลิตภัณฑ์ทางการเงินประเภท “ใช้ก่อนจ่ายทีหลัง” ถือเป็นตัวช่วยให้ผู้บริโภคยุคใหม่สามารถจับจ่ายสินค้าอย่างสะดวกสบายและสามารถจัดการเรื่องเงินได้ง่ายมากขึ้น ซึ่งถือเป็นจุดเด่นทำให้บริการวงเงินสะดวกใช้ เพย์ เน็กซ์ เอ็กซ์ตร้า

Read More

30 ปี พฤกษา จุดเริ่มต้นจากชายชื่อ “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์”

“พฤกษา” บริษัทพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มีวิวัฒนาการและเติบโตอย่างก้าวกระโดด นับตั้งแต่ขวบปีแรกที่เป็นจุดเริ่มต้นบริษัทจนกระทั่งปัจจุบัน พฤกษาภายใต้ร่มเงาการบริหารงานโดย ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ บุรุษผู้คร่ำหวอดอยู่ในธุรกิจก่อสร้าง จนตัดสินใจผันตัวมาทำธุรกิจอสังหาฯ อย่างเต็มตัว แม้เวลานี้จะอำลาตำแหน่งไปเมื่อต้นเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา แต่เรื่องราวของพฤกษาและทองมายังคงน่าสนใจ ทั้งในแง่การบริหาร มุมมอง และแนวนโยบายที่ส่งผ่านอุดมคติที่หลายคนตอบรับด้วยความเต็มใจ หากจะย้อนกลับไปยังจุดเริ่มต้นของพฤกษา ถือว่าเป็นบริษัทที่มีจุดเริ่มต้นจากความคิดที่เรียบง่ายของทองมา ที่ต้องการทำบ้านในราคาที่ไม่แพงมาก ผู้บริโภคจับต้องได้ บริษัทยังมีกำไร พฤกษาฯ ก่อตั้งขึ้นในปี 2536 ด้วยเงินทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท จากแรงบันดาลใจของทองมา ซึ่งขณะนั้นเป็นผู้รับเหมาก่อสร้างศูนย์การค้าดิโอลด์สยามพลาซ่า ติดตามเพื่อนที่กำลังเลือกซื้อบ้าน ไปดูโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งแล้วเกิดความรู้สึกว่าราคาขายค่อนข้างสูง น่าจะทำได้ในราคาที่ต่ำกว่า จึงเป็นที่มาของโครงการแรกคือ พฤกษา 1 จำนวน 1,000 ยูนิต ในทำเลรังสิต คลอง 8 ที่จับกลุ่มผู้มีรายได้น้อยและประสบความสำเร็จด้วยดี เพราะสามารถขายได้หมดโครงการภายในเดือนเศษ จากจุดเริ่มต้นที่เป็นทาวน์เฮาส์ กระทั่งปี 2544 ตลาดบ้านเดี่ยวเริ่มมีมูลค่าสูง ทองมามองเห็นโอกาส บริษัทพฤกษาจึงเริ่มพัฒนาโครงการบ้านเดี่ยวภายใต้แบรนด์ ภัสกร จับกลุ่มลูกค้าที่มีรายได้ปานกลาง และในปีเดียวกัน พฤกษาเพิ่มสินค้าใหม่ในแบรนด์ พฤกษาวิลล์ ซึ่งเป็นทาวน์เฮาส์ระดับราคา 1.2-1.7

Read More

ธุรกิจเวลเนส เรียล เอสเตท ขยายตัว “พฤกษา” ส่ง “วิมุต” เดินเกมรุก

“เราต้องทำมากกว่าการทำแค่ที่อยู่อาศัย” ประโยคที่คล้ายเป็นพันธสัญญาของผู้บริหารระดับสูงอย่าง คุณทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์ ที่เคยกล่าวไว้ก่อนอำลาตำแหน่งประธานกรรมการบริหาร ก่อนจะส่งแนวความคิดไปยัง คุณอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) มาสู่การขับเคลื่อนอย่างมีมิติที่น่าสนใจของ พฤกษา ที่แถลงข่าวอย่างยิ่งใหญ่เมื่อปลายเดือนกุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ที่นอกจากธุรกิจอสังหาฯ ซึ่งดำเนินกิจการมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ปี 2536 ด้วยบริบทของผู้ประกอบการที่ทำเพียงการก่อสร้างที่อยู่อาศัย ปัจจุบันฉากทัศน์ของพฤกษาเริ่มเปลี่ยนไปอย่างเข้ายุคสมัย ทั้งสร้างสรรค์แพลตฟอร์มดิจิทัล ที่ให้บริการตลาดค้าปลีกออนไลน์ รวบรวมร้านค้า สินค้าด้านที่อยู่อาศัย การบำรุงรักษาบ้าน การดูแลสุขภาพและความงาม รวมถึงการรุกตลาด Wellness ที่มีทิศทางการขยายตัวมากขึ้นในปัจจุบัน สิ่งที่พฤกษาทำไปก่อนหน้าคือการเปิดตัวโรงพยาบาลวิมุต ที่ตั้งอยู่ในย่านพหลโยธินเมื่อกลางปี 2564 ทว่า กระแสการตื่นตัวของธุรกิจ Wellness ที่กำลังมาแรงทั่วโลก อีกทั้งตลาดนี้ยังมีมูลค่าสูงถึง 4.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 145 ล้านล้านบาท ซึ่งธุรกิจ Wellness แบ่งออกได้หลายส่วน เช่น ด้านสุขภาพความงาม การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และอสังหาฯ

Read More

“นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร” กับกลยุทธ์ดันกลุ่มสมิติเวชโตแบบนอกตำรา

จากจุดเริ่มต้นของโรงพยาบาลขนาด 100 เตียงในปี พ.ศ. 2522 ปัจจุบันโรงพยาบาลสมิติเวชขึ้นแท่นกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำทั้งในประเทศไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ด้วยจำนวนสาขามากถึง 8 สาขา และเตียงรองรับผู้ป่วยมากกว่า 4,000 เตียง โดยมีจุดเด่นด้านการบริการและเทคโนโลยีการรักษาที่ทันสมัย “ผู้จัดการ 360 องศา” ชวนเปิดแนวคิดของ “นพ.ชัยรัตน์ ปัณฑุรอัมพร” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชและโรงพยาบาลบีเอ็นเอช (BNH) คีย์แมนคนสำคัญที่นำพากลุ่มโรงพยาบาลสมิติเวชเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยกลยุทธ์สร้างการเติบโตแบบนอกตำรา และที่สำคัญยังมีรางวัล People Management Award 2022 ประเภท “The Best of CEO People Leader” จากสมาคมการจัดการงานบุคคลแห่งประเทศไทย ที่เพิ่งได้รับล่าสุดเป็นเครื่องการันตี “รางวัลนี้สำคัญมาก เพราะมันเป็นเรื่องของการบริหารคน และเป็นการการันตีว่าทำไมสมิติเวชถึงขึ้นชื่อเรื่องดูแลคนไข้ดี เพราะเรามีการบริหารคนที่ดีและไม่เหมือนใคร ที่สุดแล้วรางวัลนี้จะเป็นการดึงดูดให้คนเลือกมาใช้บริการที่สมิติเวช ขณะเดียวกันคนรุ่นใหม่ก็อยากเข้ามาทำงานกับเรา” นพ.ชัยรัตน์กล่าวถึงรางวัลที่ได้รับก่อนที่จะเปิดเผยถึงกลยุทธ์การบริหารว่า “สมิติเวชเป็นองค์กรที่ไม่มี vision เรามีแค่ direction โดยเน้นการเป็นองค์กรที่เท่าทันและสร้างคุณค่าให้กับทุกคนใน stakeholder โดยเลือกทำในสิ่งที่มันตรงข้ามกับคนอื่น ผมว่าถ้าทำตรงข้ามกับคนอื่นโอกาสประสบความสำเร็จมีถึง 50%

Read More

ฟอร์ดพลิกกลยุทธ์รุกลูกค้ารายใหญ่ เจาะตลาดรถกระบะดัดแปลง บุกหนักไม่เกรงใจใคร

ปีที่ผ่านมาถือเป็นปีทองของฟอร์ด ประเทศไทย ทั้งจากความสำเร็จในการสร้างการรับรู้ในแบรนด์ ที่เป็นผลมาจากภาพยนตร์โฆษณาชิ้นดังอย่าง Ford Ranger Raptor ที่ได้เสียงพากย์ของ “กฤต สุขวัฒน์” หรือ Krit Tone ที่มีเอกลักษณ์มาสร้างความแปลกใหม่ จนกลายเป็นปรากฏการณ์ที่หลายๆ คนลุกขึ้นมาเลียนแบบเสียงในโฆษณากับประโยค “ดุดัน! ไม่เกรงใจใคร Ford Ranger Raptor” กันทั่วบ้านทั่วเมือง ไม่เพียงเท่านั้นยอดขายในปี 2565 ก็เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จของฟอร์ดด้วยเช่นกัน โดยสามารถกวาดยอดขายไปได้สูงถึง 43,628 คัน เติบโตขึ้น 35% สูงกว่าตลาดรวมซึ่งเติบโตอยู่ที่ 11.9% และเป็นครั้งแรกในรอบ 26 ปี นับตั้งแต่ฟอร์ดเข้ามาดำเนินธุรกิจในประเทศไทยที่ยอดขายรวมต่อเดือนไต่ขึ้นมาเป็นอันดับที่ 4 ของประเทศอย่างต่อเนื่องตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงธันวาคม โดยฟอร์ด เรนเจอร์ ครองตำแหน่งรถกระบะที่ขายดีที่สุดอันดับ 3 และฟอร์ด เอเวอเรสต์ ติดอันดับ 3 รถขายดีที่สุดต่อเดือนในตลาดรถยนต์นั่งอเนกประสงค์ ในขณะที่ฟอร์ดเองยอมรับว่ายอดขายที่เติบโตอย่างรวดเร็วเป็นผลมาจากความสำเร็จของฟอร์ด เรนเจอร์ ที่ได้สร้างนิยามใหม่ให้กับตลาดรถกระบะ และฟอร์ด เอเวอเรสต์

Read More

สัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 51 Bookfluencer ปลุกนักอ่าน

งานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ (Thai National Book Fair) จัดครั้งแรกเมื่อปี 2515 โดยกรมวิชาการ กระทรวงศึกษาธิการ และคณะกรรมการพัฒนาหนังสือแห่งชาติ กำหนดให้ช่วงวันที่ 1-7 เมษายนของทุกปี เป็นสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ เพื่อส่งเสริมคนไทยรักการอ่าน และกราบบังคมทูลเชิญสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จพระราชดำเนินเป็นองค์ประธานเปิดงานเป็นประจำทุกปี สำหรับงานครั้งแรกใช้พื้นที่สังคีตศาลา โรงละครแห่งชาติ พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ และหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากนั้นย้ายสถานที่จัดไปหลายแห่ง ได้แก่ สวนลุมพินี โรงเรียนหอวัง ท้องสนามหลวง คุรุสภา และถนนลูกหลวง ข้างกระทรวงศึกษาธิการ ต่อมา สมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทยขอมีส่วนร่วมเป็นผู้จัดงาน มีสำนักพิมพ์เข้าร่วมกว่า 20 สำนักและผู้เข้าชมงานเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ปี 2539 กระทรวงศึกษาธิการและสมาคมผู้จัดพิมพ์ฯ ตกลงกันจัดงานปีละ 2 ครั้ง คือ ต้นปีเป็นงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติ ส่วนปลายปีเป็นงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ โดยปีนั้นประเดิมจัดมหกรรมหนังสือระดับชาติ (Book Expo Thailand) ครั้งแรกที่ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ ต่อมาจัดที่ท้องสนามหลวงและภายหลังทั้งสองงานจัดขึ้น ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์

Read More

บีทูเอสเร่งแผน Shop in Shop ทุ่ม Pokémon PLAYLAB

ปี 2566 กลุ่มเซ็นทรัลกำลังเร่งเพิ่มจุดแข็ง B2S (บีทูเอส) และต่อยอดโมเดล Think Space (ธิงค์สเปซ) ซึ่งเน้นส่วนผสมสำคัญเรื่อง “ไลฟ์สไตล์” การสร้างความพิเศษให้ธุรกิจร้านหนังสือสามารถเติบโตไปพร้อมๆ กับสื่อออนไลน์ และเป้าหมายใหญ่ไม่ใช่แค่การสร้างคอมมูนิตี้ดึงดูดกลุ่มลูกค้าทุกกลุ่ม แต่ต้องการขยายฐานนักอ่านให้ได้มากที่สุดด้วย จิตรลดา หาญวรวงศ์ชัย กรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มธุรกิจ บีทูเอส และออฟฟิศเมท เปิดเผยว่า บีทูเอสพยายามสร้างร้านหนังสือให้เป็นพื้นที่ที่ทุกคนในครอบครัวสามารถมีกิจกรรมร่วมกันได้ตามคอนเซ็ปต์ Center of Passion Community, Center of Happiness แหล่งรวมความสุขและแรงบันดาลใจของทุกคน โดยล่าสุดผนึกความร่วมมือกับ The Pokémon Company เจ้าของแบรนด์คาแรกเตอร์การ์ตูนโปเกมอน และโปเกมอนเทรดดิ้งการ์ดเกมจากประเทศญี่ปุ่น เปิดตัว “Pokémon PLAYLAB” แห่งแรกในประเทศไทยอย่างเป็นทางการในร้านบีทูเอส สาขาเซ็นทรัลเวิลด์ แม็กเน็ตใหม่ตัวนี้บริษัทตั้งเป้าหมายปีแรกจะดึงดูดยอดลูกค้าเข้าร้านไม่ต่ำกว่า 200,000 คน และภายในปี 2566 วางแผนขยาย Pokémon PLAYLAB เพิ่มอีก 3

Read More

อู๋กะโจ้ โอ้กะจู๋ จากเด็กบ้านนอก แต่งตัวเข้าตลาดหุ้น

“ตอนนั้นเอาจริงๆ เราเริ่มปลูกผัก ไม่ได้คิดว่าจะมาไกลขนาดนี้ ตอนนั้นคิดแค่ปลูกผักสลัด เปิดคาเฟ่เล็กๆ มีผักสลัด กาแฟ ไม่ได้คิดเหมือนกันจะมีสาขามากมาย นั่นเพราะลูกค้าให้การตอบรับดี ถ้าไม่ได้ลูกค้า เราคงไม่ได้มาไกลขนาดนี้” ชลากร เอกชัยพัฒนกุล หรือ “อู๋” ในฐานะผู้ก่อตั้งแบรนด์ “โอ้กะจู๋” กล่าวกับ “ผู้จัดการ 360 องศา” เมื่อนึกย้อนถึงจุดเริ่มต้นเมื่อปี 2553 จนวันนี้กำลังขยายสาขาไปทั่วประเทศ เป็นหนึ่งในผู้นำร้านอาหารเพื่อสุขภาพ มีพาร์ตเนอร์ยักษ์ใหญ่อย่างบริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือโออาร์ และเตรียมจดทะเบียนเทรดหุ้นในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยด้วย เขากับเพื่อนสนิท คือ จิรายุทธ ภูวพูนผล หรือ “โจ้” เป็นลูกหลานเกษตรกรในเมืองเชียงใหม่ วันหนึ่งมีโอกาสได้ไปทัศนศึกษาที่คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เกิดความสนใจอยากจะผสมผสานเกษตรสมัยใหม่กับเกษตรแบบดั้งเดิมและเกิดแรงบันดาลใจที่จะลงทุนทำธุรกิจการเกษตรร่วมกัน พอจบมัธยมปลาย จิรายุทธตัดสินใจเข้าศึกษาคณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ตั้งใจเก็บเกี่ยวความรู้ และประสบการณ์ไปใช้ในวิชาชีพที่ตัวเองใฝ่ฝัน พอจบปริญญาตรี มาร่วมมือกับชลากร เพื่อปลูกผักออแกนิกแบบเกษตรอินทรีย์ ไม่ใช้ปุ๋ยเคมีและสารเคมีกำจัดศัตรูพืช คำนึงถึงผืนดิน ผลิตผล

Read More

“โอ้กะจู๋” ผุดสาขาพรึ่บ สงครามผักสลัด สดๆ

ความสำเร็จของ “โอ้กะจู๋” ทั้งการสร้างแบรนด์และความเชื่อมั่นใช้เวลานานนับสิบปี โดยเฉพาะจุดแข็งสำคัญ คือ การปลูกผักในฟาร์มเมืองเชียงใหม่ส่งตรงถึงร้านและเสิร์ฟถึงจานลูกค้าในเวลาไม่เกิน 28 ชั่วโมง สด ไร้สารเคมีและยาฆ่าแมลง จนทุกวันนี้จากคาเฟ่เล็กๆ ในอำเภอสันทราย ล่าสุดมีสาขามากกว่า 20 แห่ง จุดขายอีกกว่า 100 จุด และวางแผนปูพรมทั่วประเทศ ปลุกสงครามผักสลัดได้อย่างดุเดือด ปัจจุบันร้านโอ้กะจู๋มีสาขา 23 แห่ง แบ่งเป็นรูปแบบร้านอาหาร (Dine-in) 19 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ ส่วนที่เหลือเป็นรูปแบบ Healthy Fast Food อยู่ตามอาคารสำนักงาน ร้าน Delivery ร้านสาขาในปั๊มน้ำมัน ซึ่งเปิดนำร่องใน พีทีที สเตชั่น Active Park เมืองทองธานี และเริ่มทดลองเปิดโมเดล Drive-Thru แห่งแรกใน PTT Station เวสต์วิลเลจ บางใหญ่ รวมทั้งวางขายแบบ Grab

Read More

เปิดความคิด “ชนะ สัมพลัง” นายกสมาคมสถาปนิกสยาม

“ในฐานะของสมาคม เราต้องทำประโยชน์ให้มากที่สุด หลังการช่วยเหลือจากเรื่องโควิด เราต้องฟื้นฟู สมาคมต้องสร้างความหวัง ไม่ใช่แค่คนในวิชาชีพ แต่ต้องส่งต่อประชาชนบุคคลทั่วไปด้วย” ชนะ สัมพลัง นายกสมาคมสถาปนิกสยาม เปิดเผยบทบาทของสมาคมในช่วงที่โลกกำลังเผชิญหน้ากับวิกฤตโรคร้าย ที่ต้องทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางและส่งต่อความช่วยเหลือไปยังบุคลากรทางการแพทย์ และองค์กร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชนะ สัมพลัง ฉายภาพมุมมองต่อการเกิดของโควิด ที่สร้างความเปลี่ยนแปลงในหลายมิติ นอกจากนี้ยังเป็นการสร้างให้เกิดการพัฒนาในแวดวงของนักออกแบบ ที่เกี่ยวข้องกับอสังหาริมทรัพย์ไทยและทั่วโลก “ในเชิงของงานก่อสร้าง งานออกแบบ เราได้รับผลกระทบจากการปิดประเทศ เพราะเราไม่ได้อยู่ประเทศเดียวในโลก มีลูกค้าต่างชาติ นี่เป็นสิ่งเดียวที่ทำให้ทุกอย่างหยุดชะงัก ในมุมของอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้หยุดเสียทีเดียว คือยังต้องพัฒนาตัวเอง ในเวลานั้น แค่อยู่ในภาวะชะลอตัว รอวันที่ทุกๆ อย่างจะกลับมาเป็นปกติ “โควิดมาทำให้ทุกๆ อย่างเกิดความคิดใหม่ เกิดความคิดในการอยู่อาศัยแบบใหม่ขึ้นมา เพราะฉะนั้นในผลิตภัณฑ์เดิมๆ จะมีการพัฒนาเพื่อให้เกิดเนื้องานใหม่ เป็นประโยชน์ต่อผู้ซื้อ เพราะผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ออกมาจะมีคำตอบของสิ่งเหล่านี้ว่า โลกในอีก 5 ปีข้างหน้า มนุษย์จะอยู่อย่างไรที่ดีกว่าโลกก่อนโควิด” นายกสมาคมสถาปนิกสยามมองว่า วิกฤตต่างๆ ก่อให้เกิดการหมุนเวียนใหม่ๆ ให้แก่แวดวงอสังหาริมทรัพย์ โดยมองว่าในช่วงเวลาที่ผ่านมา ธุรกิจภายในประเทศยังคงไปได้ แต่ธุรกิจที่ต้องติดต่อกับต่างประเทศอาจชะลอตัว กระนั้นสิ่งที่จะเข้ามาช่วยแก้ปัญหาคือ เทคโนโลยี บทบาทของ

Read More