วันเสาร์, พฤศจิกายน 23, 2024
Home > Entrepreneurship > 7-11 สู้ศึกรอบด้าน สงครามคอนวีเนียนสโตร์

7-11 สู้ศึกรอบด้าน สงครามคอนวีเนียนสโตร์

สงครามคอนวีเนียนสโตร์ดุเดือดมากขึ้น เมื่อผู้เล่นยักษ์ใหญ่เข้ามาบุกตลาดและใช้กลยุทธ์จับมือพันธมิตรสร้างความแข็งแกร่ง

ไม่ว่าจะเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัท เซ็นทรัลรีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (ซีอาร์ซี) กับบริษัท แฟมิลี่มาร์ท ประเทศญี่ปุ่น โดยซีอาร์ซีเข้าถือหุ้นใหญ่ 50.29% ในบริษัท สยามแฟมิลี่มาร์ท จำกัด ผู้บริหารร้านแฟมิลี่มาร์ท ในประเทศไทย และประกาศแผนขยายสาขาให้ได้ 1,500 สาขา ภายใน 5 ปี และเพิ่มเป็น 3,000 แห่ง ภายใน 10 ปี จากปัจจุบันเปิด 746 สาขา

ล่าสุด บริษัท สหพัฒนพิบูล จำกัด (มหาชน) เตรียมบรรลุข้อตกลงร่วมทุนกับบริษัท ลอว์สัน อิงค์ ประเทศญี่ปุ่น เจ้าของเครือข่ายกิจการร้านสะดวกซื้อรายใหญ่อันดับ 2 ของญี่ปุ่น จัดตั้งบริษัท สหลอว์สัน จำกัด ยกเครื่อง “ร้าน 108 ช้อป” ทั้ง 600 สาขา เพื่อรุกตลาดครั้งใหญ่

นี่ยังไม่นับรวมกลุ่มไฮเปอร์มาร์เก็ตและซูเปอร์มาร์เก็ตที่แห่ลงมาเล่นเกมไซส์เล็กแบบเจาะช่องว่างทุกตารางเมตร อย่างโลตัสเอ็กซ์เพรส ที่ล่าสุดเปิดแล้ว 500 สาขา มินิบิ๊กซี 90 สาขา สิ้นปีเพิ่มเป็น 125 สาขา ท็อปส์เดลี่ 114 สาขา สิ้นปีเพิ่มเป็น 200 สาขา และแม็กซ์แวลู่ทันใจที่เร่งขยายตามแนวรถไฟฟ้าอีก 27 สาขา

การรุกตลาดและตีขนาบพื้นที่อย่างต่อเนื่องส่งผลให้เบอร์ 1 ในธุรกิจร้านสะดวกซื้อหรือคอนวีเนียนสโตร์ อย่าง “เซเว่น-อีเลฟเว่น” ของเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) ต้องสู้ศึกรอบด้าน ซึ่งปิยะวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า นี่คือการเปลี่ยนแปลงที่กดดันให้เซเว่น-อีเลฟเว่น ต้องหนีจุดแข็งของคู่แข่งและต้องสร้างความแตกต่างให้ได้

จุดแข็งใหม่ของเซเว่นฯ คือการเข้าสู่ร้านสะดวกซื้อแบบครบวงจร หรือ One Stop Service มีบริการอาหาร เครื่องดื่ม กาแฟสด กาแฟปั่น เบเกอรี่อบสด มีร้านขายยาและอาหารเสริมที่เรียกว่า “โปรเจ็กต์เอ็กซ์ตร้า” มุมหนังสือ “บุ๊คสมาย” สินค้าแค็ตตาล็อก และเคาน์เตอร์เซอร์วิส บริการรับชำระค่าบริการสาธารณูปโภคต่างๆ โดยทยอยลดสัดส่วนสินค้าอุปโภคบริโภคประเภทของแห้งหรือ Grocery ที่คู่แข่งมี และเน้นจำหน่ายในราคาถูก

ขณะเดียวกัน เซเว่นฯ พยายามขยายสาขาครอบคลุมทุกทำเลที่มีลูกค้าหนาแน่น ซึ่งล่าสุดมีสาขาทั่วประเทศ 6,500 สาขา สิ้นปีจะเปิดครบ 6,800 สาขา และเพิ่มเป็น 7,000 สาขาในปีหน้า รวมทั้งตั้งเป้าปี 2561 ปักหมุดทุกพื้นที่ 10,000 สาขา โดยเป็นร้านรูปโฉมใหม่ทุกแห่ง ขนาด 3 คูหา และมีบริการครบทุกโปรเจ็กต์ ภายใต้งบลงทุนปีละ 5,000 ล้านบาท

ทำเลเป้าหมายมีทั้งพื้นที่ชุมชน หมู่บ้านเกิดใหม่ คอนโดมิเนียม คอมมูนิตี้มอลล์ โรงพยาบาล และปั๊มน้ำมัน ซึ่งกำลังเป็นสมรภูมิการแข่งขันที่รุนแรงเช่นกัน โดยเซเว่นฯ ยึดครองสัมปทานในปั๊ม ปตท. ขณะเดียวกัน บริษัทแม่ “ซีพี” เปิด “ซีพีฟู้ดมาร์เก็ต” ซึ่งเป็นธุรกิจโมเดลใหม่ที่เรียกว่า “ซูเปอร์คอนวีเนียนสโตร์” ในปั๊มเชลล์ เพื่อเชื่อมคอนวีเนียนสโตร์กับซูเปอร์มาร์เก็ตเข้าด้วยกัน ขณะที่บิ๊กซีจับมือกับค่ายบางจาก ส่วนท็อปส์เดลี่ขยายสาขาผ่านปั๊มคาลเท็กซ์

ล่าสุด เซเว่นฯ ยังเซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรกับทางบริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจโครงการคอนโดมิเนียมแบรนด์ “ลุมพินี” เพื่อเปิดร้านเซเว่น-อีเลฟเว่น ในโครงการคอนโดมิเนียมทุกโครงการของ แอล.พี.เอ็น. ประมาณ 80 โครงการ ระยะเวลา 10 ปี ซึ่ง ปิยะวัฒน์บอกว่ายอดขายของร้านเซเว่นฯ ในคอนโดมิเนียมกลุ่ม แอล.พี.เอ็น. ที่ปัจจุบันเปิดอยู่ 3 สาขา มียอดขายต่อวันสูงกว่า 70,000 บาท ขณะที่ค่าเฉลี่ยของสาขาทั่วไปอยู่ที่วันละ 60,000 บาท และยังได้ลูกค้าที่อยู่ใกล้เคียงภายในรัศมีครึ่งกิโลเมตรด้วย

แต่เกมที่มีมากกว่านั้นก็คือ การสกัด “แฟมิลี่มาร์ท” เพราะแฟมิลี่มาร์ทมีสาขาอยู่ในคอนโดมิเนียมของ แอล.พี.เอ็น. 7 แห่ง ระยะสัญญา 3 ปี

“ผมวิเคราะห์คู่แข่งแล้ว ผู้ที่เหมือนเรา 100% คือ แฟมิลี่มาร์ท วันนี้แฟมิลี่มาร์ทมีประมาณ 500-600 สาขา 10% ของเรา โลตัสเอ็กซ์เพรสและมินิบิ๊กซีขยายสาขาน่ากลัว ดูจุดแข็งของแต่ละเจ้า เซเว่นฯ เป็นโกรเซอรี่บวกอาหาร น้ำ เครื่องดื่ม โลตัสเอ็กซ์เพรสเและมินิบิ๊กซี เป็นโกรเซอรี่บวกซูเปอร์มาร์เก็ต เขาคือ ผัก ผลไม้ ไก่สด เนื้อสด ของสด เหมือนเราคือโกรเซอรี่ แต่อาหารของเซเว่นกินได้เลย แต่ของเขาเป็นของดิบ เพราะฉะนั้นลูกค้าทานอาหาร น้ำ เครื่องดื่ม ทานทันทีมาเรา แต่ถ้าซื้อเพื่อไปทำก็ไปโลตัสเอ็กซ์เพรส ส่วนโกรเซอรี่บางทีเขาถูกกว่า ลูกค้าก็ไปหาเขา ชนะกันไปมา เราจึงต้องหนีจุดแข็ง หลบโกรเซอรี่ไปสู่อาหาร น้ำ เครื่องดื่ม นี่คือกลยุทธ์ระยะยาว ทำอย่างไรให้อยู่รอด และตลาดใหญ่ขึ้น 1+1ได้ 3 ถ้าเราดึงดันไปแข่งกับเขาก็อยู่ไม่ได้ เพราะเขาราคาถูก ขณะที่เขาสู้เรื่องอาหารเราไม่ได้ เราไปประกบเขา เราก็อยู่รอด”

ปิยะวัฒน์กล่าวกับ ผู้จัดการ360 ํ และวิเคราะห์ต่อไปว่า “แฟมิลี่มาร์ท อนาคตเขาต้องปรับตัวเป็นคู่แข่งเรา ไว้ใจไม่ได้ ตอนนี้เขา 10% สู้เราไม่ได้ แต่อนาคตอาจเพิ่มขึ้น ไว้ใจไม่ได้ เราละเลยไม่ได้ ขณะที่ลอว์สันใกล้เคียงกับแฟมิลี่มาร์ท ธุรกิจบริหารใกล้เคียงกัน เราจึงต้องพร้อมปรับตัวให้ทันกับการเปลี่ยนแปลงของตลาด ห้ามคิดว่าตัวเองเก่ง เผลอไป ตลาดก็สวิตช์ไปเป็นคนอื่นแล้ว”

แต่ต้องยอมรับว่า เซเว่น-อีเลฟเว่นกำลังเจอศึกรอบด้าน ทั้งบิ๊กเพลเยอร์และนิวเพลเยอร์

สงครามคอนวีเนียนสโตร์มีประเด็นให้ติดตามอีกหลายตอนแน่