Home > rape

ชีวิตหลังตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศ

Column: women in wonderland ทุกปีจะมีการประกาศรางวัลโนเบล หรือ Nobel Prize ให้กับผู้ที่มีผลงานโดดเด่น มีความเชี่ยวชาญ หรือสร้างคุณประโยชน์ให้กับมนุษยชาติในด้านต่างๆ โดยรางวัลโนเบลจะแบ่งออกเป็น 6 สาขาด้วยกัน คือ สาขาฟิสิกส์ เคมี การแพทย์ วรรณกรรม สันติภาพ และเศรษฐศาสตร์ ซึ่งผู้ที่จะได้รับรางวัลในแต่ละสาขาอาจเป็นบุคคลที่มีผลงานเดี่ยว ผลงานคู่ หรือทำงานเป็นทีมก็ได้ โดยทีมหนึ่งมีได้สูงสุดแค่ 3 คนเท่านั้น และผู้ที่ได้รับรางวัลก็ไม่จำเป็นต้องเป็นบุคคลเสมอไป อาจจะเป็นองค์กรก็ได้เช่นเดียวกัน ยกตัวอย่างเช่น คณะกรรมการกาชาดระหว่างประเทศ (International Committee of the Red Cross หรือเรียกสั้นๆ ว่า ICRC) ก็เคยได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพมาแล้วถึง 3 ครั้ง ในขณะเดียวกัน ถ้าในปีนั้นคณะกรรมการไม่สามารถหาบุคคลเหมาะสมที่ควรจะได้รับรางวัลในสาขานั้นๆ ก็จะไม่มีการมอบรางวัล ปี 2018 รางวัลโนเบลสาขาสันติภาพประกาศชื่อผู้ที่ได้รับรางวัลไปเมื่อวันที่ 5 ตุลาคมที่ผ่านมา และผู้ที่ได้รับรางวัลทุกคนจะขึ้นรับรางวัลพร้อมกันในวันที่

Read More

กระบวนการยุติธรรมล้มเหลวในคดีข่มขืนที่ประเทศเปรู

Column: Women in Wonderland การข่มขืนเป็นเหตุการณ์ที่ไม่มีผู้หญิงคนไหนอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง แต่ผู้หญิงถูกข่มขืนกลับเกิดขึ้นอย่างมากมายในทุกประเทศ ไม่ใช่เพียงแค่การข่มขืนเท่านั้นที่เกิดขึ้นจำนวนมาก การลวนลามทางเพศในสถานที่ต่างๆ รวมไปถึงที่สาธารณะก็เกิดมากขึ้นเช่นกัน จากการรวบรวมสถิติของ United Nations Office on Drugs and Crime ในปี 2012 พบว่า 10 ประเทศที่มีสถิติการข่มขืนสูงที่สุดคือ สวีเดน จาเมกา โบลิเวีย คอสตาริกา นิวซีแลนด์ เบลเยียม สหรัฐอเมริกา บราซิล นอร์เวย์ และฟินแลนด์ จากสถิตินี้จะเห็นว่าส่วนใหญ่เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว แต่ก็ยังมีจำนวนผู้ที่ตกเป็นเหยื่อค่อนข้างสูง ยกตัวอย่างเช่น ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา องค์กร Rape, Abuse and Incest National Network หรือ RAINN ได้เปิดเผยสถิติผู้ที่ตกเป็นเหยื่อการข่มขืนและการใช้ความรุนแรงทางเพศซึ่งองค์กรพบว่า ทุกๆ 98 วินาที จะมีผู้หญิงอายุตั้งแต่ 12 ปีขึ้นไปถูกข่มขืนหรือตกเป็นเหยื่อความรุนแรงทางเพศอย่างน้อย

Read More

การข่มขืนในมหาวิทยาลัย

Column: Women in Wonderland การถูกข่มขืนนั้นส่วนใหญ่จะเกิดในสถานที่เปลี่ยวหรือในที่ที่ไม่มีผู้คนผ่านในบริเวณนั้นมากนัก โดยเฉพาะในช่วงกลางคืนหรือรุ่งเช้า แต่ในปัจจุบันนี้เราจะเห็นได้ว่าถึงแม้ว่าผู้หญิงไม่ได้ไปเดินในที่เปลี่ยวๆ ก็ยังถูกข่มขืนอยู่ดี ยกตัวอย่างเช่นกรณีของเด็กหญิงอายุ 13 ปีที่เดินทางพร้อมผู้ปกครองและถูกข่มขืนบนรถไฟ ที่มีคนอยู่เต็มขบวน หรืออย่างกรณีของคุณครูสาวที่ถูกข่มขืนในห้องพักของตัวเอง กรณีเหล่านี้ย้ำให้เราเห็นว่าทุกวันนี้ผู้หญิงมีโอกาสตกเป็นเหยื่อของการถูกข่มขืนได้มากขึ้น ถึงแม้ว่าผู้หญิงจะพยายามหลีกเลี่ยงไปอยู่ในที่ที่ตัวเองมีโอกาสตกเป็นเหยื่อแล้วก็ตาม โดยปกติแล้วในสถานที่ทำงานหรือสถานศึกษามักจะมีคนคอยดูแลรักษาความปลอดภัยของตัวอาคารอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นสถานที่ทำงานหรือสถานศึกษาจึงจัดว่ามีความปลอดภัยในระดับหนึ่ง แต่ในปัจจุบันนี้สถานที่เหล่านี้ก็ไม่ได้เป็นสถานที่ที่ปลอดภัยสำหรับผู้หญิงอีกต่อไปถึงแม้ว่าจะมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยทำงานอยู่ตลอดเวลา อย่างที่ประเทศอเมริกา มีผู้หญิงเป็นจำนวนมากที่ตกเป็นเหยื่อของการถูกข่มขืนในสถาบันการศึกษาโดยเฉพาะในมหาวิทยาลัย องค์การ Rape, Abuse and Incest National Network หรือที่เรียกอย่างสั้นๆว่า RAINN ซึ่งเป็นองค์กรขนาดใหญ่ในประเทศอเมริกาเพื่อต่อต้านการใช้ความรุนแรงทางเพศในสังคม ได้ทำการเก็บสถิติของของผู้หญิงที่ถูกข่มระหว่างปี 1995–2013 พบว่า 11.2% ของนักศึกษาที่มีประสบการณ์ถูกลวนลามหรือการใช้กำลังบังคับให้ยินยอมมีเพศสัมพันธ์ด้วย การถูกข่มขืนในมหาวิทยาลัยนี้ไม่ได้มีเพียงผู้หญิงเท่านั้นที่ตกเป็นเหยื่อ แต่นักศึกษาชาย เกย์ กระเทย และเลสเบี้ยนเองก็ตกเป็นเหยื่อของการถูกข่มขืนเช่นกัน จากการเก็บสถิติของการถูกข่มขืนในช่วงเวลาดังกล่าวยังพบอีกว่า นักศึกษาหญิงระดับปริญญาตรีนั้นถูกข่มขืนในบริเวณมหาวิทยาลัยถึง 23.1% และมีผู้ชายที่ถูกข่มขืนถึง 5.4% ในขณะที่นักศึกษาระดับปริญญาโทและปริญญาเอกนั้น มีนักศึกษาหญิงถูกข่มขืนประมาณ 8.8% และนักศึกษาชายประมาณ 2.2% และมีนักศึกษาทั้งผู้ชายและผู้หญิงประมาณ 5% รายงานว่า พวกเขาถูกตามจากคนโรคจิตเมื่อพวกเขาเริ่มเข้าไปเรียนในมหาวิทยาลัย

Read More

ผู้หญิงชนพื้นเมืองอเมริกันถูกข่มขืนและไม่ได้รับความเป็นธรรม

  Column: Women in Wonderland กลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกัน หมายถึงกลุ่มคนพื้นเมืองในประเทศอเมริกาที่อาศัยอยู่ในทวีปอเมริกามาก่อนที่คนยุโรปจะเข้ามาตั้งถิ่นฐาน ส่วนใหญ่จะหมายถึงชนเผ่าอินเดียนแดง ซึ่งส่วนใหญ่ภาษาอังกฤษจะใช้คำว่า Native American หรือ American Indian ก่อนหน้านี้มีการใช้คำว่า Red Indian ในการพูดถึงชนพื้นเมือง และต่อมายกเลิกใช้คำนี้ไป เพราะ Red Indian ดูเป็นคำที่ไม่สุภาพและแสดงถึงการแบ่งแยกชนชั้น ดังนั้นในการสัมมนานานาชาติของคนอินเดียน ที่จัดขึ้นที่องค์การสหประชาชาติ ณ กรุงเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ในปี 1977 คนอินเดียนจึงมีมติที่ประชุมร่วมกันว่าจะใช้คำว่า American Indian หรือ Native American ในการกล่าวถึงกลุ่มชนพื้นเมืองในประเทศอเมริกา กลุ่มชนพื้นเมืองอเมริกันจะอยู่ด้วยกันเป็นกลุ่มและอาศัยอยู่ในเขตสงวนอินเดียนแดง เนื่องจากเมื่อวันที่ 31 มกราคม 1876 รัฐบาลอเมริกาประกาศให้ชนพื้นเมืองอเมริกันทุกคนย้ายเข้าไปอยู่ในพื้นที่ที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นเขตสงวนอินเดียน ในประเทศอเมริกามีเขตสงวนอินเดียนอยู่ประมาณ 300 เขต และในแต่ละเขตก็จะมีขนาด ภูมิประเทศ และภูมิอากาศที่ไม่เหมือนกัน ทำให้ในบางพื้นที่คนพื้นเมืองอเมริกันไม่สามารถทำเกษตรกรรมได้ ในปัจจุบันนี้มีชนพื้นเมืองอเมริกันบางส่วนที่ย้ายเข้ามาอยู่ในเมืองที่ไม่ใช่พื้นที่เขตสงวน เพื่อเข้ามาศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และสามารถเข้าเรียนในมหาวิทยาลัยได้เหมือนกับคนอเมริกันทั่วไป ตามสถิติของสำนักงานสถิติแห่งชาติพบว่า

Read More