Home > Tourism (Page 7)

Discover THAINESS ปีของการค้นหาวิถีไทย?

 หลังจากการจุดพลุภายใต้ ธีม “ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 หรือ 2015 Discover THAINESS ซึ่งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (ททท.) คาดหวังว่าจะช่วยสร้างรายได้เข้าสู่ภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของประเทศไทย ด้วยการตั้งเป้ารายได้สูงถึง 2.2 ล้านล้านบาท โดยคาดหวังจากตลาดท่องเที่ยวในประเทศ 8 แสนล้านบาท และตลาดต่างประเทศ 1.4 ล้านล้านบาท ดึงดูดนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเยือนประเทศไทยเพิ่มขึ้น 13% เป็น 28 ล้านคน ถือเป็นการจุดพลุครั้งใหญ่เพื่อสร้างภาพลักษณ์ที่ดีของประเทศ และสร้างการรับรู้ความเป็นไทยที่เปี่ยมไปด้วยเอกลักษณ์อันโดดเด่นด้านขนบธรรมเนียมประเพณีไทย, ศิลปวัฒนธรรม ตลอดจนความเป็นอยู่ในแบบวิถีไทย ที่พบเห็นได้ทั่วทุกถิ่นไทย ทิศทางการพัฒนาการท่องเที่ยวไทยในปี 2558 ภายใต้ธีมดังกล่าว พร้อมเน้นย้ำแบรนด์ “Amazing Thailand: Happiness Within” นำส่งความสนุกสนานแบบไทยๆ พร้อมการขับแคลื่อนของภาครัฐและเอกชน จัดกิจกรรมพิเศษนานาชาติเป็นปฏิทินท่องเที่ยวตลอดทั้งปี ขณะที่ในปีนี้จะเน้นนักท่องเที่ยวคุณภาพมากขึ้นเพื่อสร้างความสมดุลให้เกิดขึ้นระหว่างการส่งเสริมตลาด และการอนุรักษ์ทรัพยากรด้านการท่องเที่ยว ซึ่งเป็นตัวชี้วัดความสำเร็จให้กับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน โดยเชื่อมั่นว่าในปี 2558 นี้ การท่องเที่ยวจะเติบโตอย่างก้าวกระโดดและบรรลุเป้าหมายที่ตั้งไว้ หากมีการวางแผนงานที่ดี โดยจะเน้นการเพิ่มรายจ่ายต่อหัวของนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะกลุ่มเอฟไอที (นักท่องเที่ยวเดินทางเอง)  สำหรับทิศทางการดำเนินงานของ ททท.ในปีนี้

Read More

หวังท่องเที่ยวไทยคึก หลังเลิกกฎอัยการศึก

 เสถียรภาพของประเทศไทยในสายตาประชาคมโลกคงจะมีภาพลักษณ์ดีขึ้นอย่างผิดหูผิดตา หลังรัฐบาลประกาศยกเลิกกฎอัยการศึกไปเมื่อช่วงค่ำของวันที่ 1 เมษายน 2558 ซึ่งตรงกับวัน April Fool’s Day “วันโกหก” หรือที่ใครหลายคนอาจจะรู้จักกันในชื่อว่า “เมษาหน้าโง่” ทั้งนี้ยังมีแรงหนุนจากรัฐบาลที่ผุดนโยบายต่างๆ ในการที่จะกระตุ้นเศรษฐกิจภายในประเทศให้ดีขึ้นตามลำดับ ในขณะที่สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปิดเผยตัวเลข GDP ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2558 ที่คาดการณ์ว่าจะมีแนวโน้มเติบโตถึงร้อยละ 4.1 แม้หลายๆ ปีที่ผ่านมาการส่งออกของไทยจะสร้างรายได้อย่างมหาศาลให้แก่ประเทศ แต่คงไม่ใช่ปีนี้เนื่องจากเศรษฐกิจโลกที่กำลังชะลอตัวลงส่งผลให้ประเทศคู่ค้าลดปริมาณการใช้จ่ายและการบริโภคสินค้า อุตสาหกรรมที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศดูจะหนีไม่พ้นเรื่องการท่องเที่ยว ที่ผู้ใหญ่ในบ้านเมืองกำลังพยายามผลักดันจนเกิดนโยบาย “ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558” (2015 Discover Thainess) ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่างตอบสนองนโยบายนี้อย่างรวดเร็วเสมือนเครื่องจักรกลชั้นดี เมื่อกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินแนวทางนโยบายใหม่โดยส่ง “ขบวนปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558” ให้มาโลดแล่นบนถนนสำคัญย่านธุรกิจเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา โดยหวังให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้รู้จักประเพณี วัฒนธรรม และเข้าใจวิถีชีวิตความเป็นไทยที่มีประวัติศาสตร์อันยาวนานภายในระยะเวลา 5 วัน  นับตั้งแต่รัฐบาลมีนโยบาย “ปีท่องเที่ยววิถีไทย” ออกมา หน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่างพากันจัดกิจกรรม โดยนโยบายตั้งกล่าวเป็นโจทย์หลักและกลายเป็นหมุดหมายสำคัญในการจัดงาน กระทั่งล่าสุดการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยและสมาคมถ่ายภาพแห่งประเทศไทยเองได้ผุดโครงการ “เปิดกล้อง ส่องเลนส์ 12 เมืองต้องห้าม....พลาด”  กิจกรรมที่เปิดเส้นทางการท่องเที่ยววิถีไทย โดยนำเสนอผ่านภาพถ่ายจากฝีมือช่างภาพชั้นนำของประเทศไทย ซึ่งบันทึกภาพบอกเล่าเสน่ห์ของเมืองนั้นๆ ที่สร้างความประทับใจให้กับผู้มาเยือน โดย

Read More

การท่องเที่ยวไทย กลางมรสุมของการแข่งขัน

 การท่องเที่ยวเป็นอุตสาหกรรมหนึ่งที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจไทย ที่สามารถทำรายได้ให้กับประเทศในลำดับต้นๆ ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจหลายประการ ท่ามกลางเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นภาคเดียวที่ยังมีแนวโน้มดีขึ้นต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ขยายตัวตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่แล้ว โดยเฉพาะการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวจีนและมาเลเซีย ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือนธันวาคม 2557 มีจำนวน 2,841,333 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11.8 ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณการเริ่มต้นที่ดีของการท่องเที่ยวไทย  หน่วยงานภาครัฐและเอกชนต่างเร่งทำการตลาดประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวไทยอย่างเข้มข้น ทั้งจัดกิจกรรมภายในประเทศ และทำการตลาดในประเทศที่เป็นกลุ่มเป้าหมายที่สำคัญของไทย ภายใต้แคมเปญ “ปีท่องเที่ยววิถีไทย 2558 หรือ 2015 Discover Thainess” เพื่อเผยแพร่ศิลปวัฒนธรรม ขนบธรรมเนียมไทย  นอกเหนือจากทำการตลาดในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก ยังได้ขยายไปยังจังหวัดท่องเที่ยวรอง ซึ่งจากการจัดทำแผนกระตุ้นการท่องเที่ยวไทยเชิงรุกนั้นคาดว่าจะช่วยจูงใจให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจเลือกประเทศไทยเป็นหนึ่งในปลายทางท่องเที่ยวอันดับต้นๆ  อิทธิฤทธิ์ กิ่งเล็ก ประธานสภาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (สทท.) แจ้งผลดัชนีความเชื่อมั่นผู้ประกอบการท่องเที่ยวไตรมาส 1/2558 เท่ากับ 99 ซึ่งเป็นระดับปกติ ต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ปี 2557 สะท้อนให้เห็นสถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศได้เข้าสู่ภาวะปกติ ส่วนในไตรมาสที่ 2/2558 เท่ากับ 101 ซึ่งเป็นการคาดการณ์ที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง แม้จะมีผลจากสภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัวก็ตาม ขณะเดียวกันท่ามกลางเทศกาลท่องเที่ยว และวันหยุดยาวหลายช่วง ไม่ว่าจะเป็นวันหยุดในช่วงวันจักรี (4-6 เม.ย)

Read More

Dien Bien Phu รอยประทับแห่งสงคราม

 สมรภูมิรบเดียนเบียนฟู การเผชิญหน้าครั้งสำคัญในสงครามอินโดจีน ระหว่างกองทัพทหารฝรั่งเศสในฐานะเจ้าอาณานิคมกับกองทัพเวียดมินห์ของขบวนการกู้ชาติเวียดนาม ในฐานะผู้ดิ้นรนเพื่อให้หลุดพ้นจากการเป็นประเทศอาณานิคม สงครามที่ชาวเวียดนามภาคภูมิใจว่านำมาซึ่งเอกราชของชาติอย่างแท้จริง แต่เป็นสงครามที่ฝรั่งเศสเองไม่อยากจะจดจำ กาลเวลาผ่านมาแล้วหลายทศวรรษ วันนี้เราจะไปสัมผัสร่องรอยที่ยังหลงเหลืออยู่ของการสู้รบในครั้งนั้น เดียนเบียนฟู (Dien Bien Phu) คือเมืองหนึ่งในจังหวัดเดี่ยนเบียนตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของประเทศเวียดนาม ห่างจากกรุงฮานอยประมาณ 200 กิโลเมตร ทิศตะวันตกอยู่ใกล้กับชายแดนแขวงพงสาลีของประเทศลาว  เดียนเบียนฟูมีชื่อเสียงและเป็นที่จดจำเนื่องจากเป็นสมรภูมิรบอันโด่งดังระหว่างฝรั่งเศสกับกองกำลังเวียดมินห์ที่เกิดขึ้นในช่วงเดือนมีนาคม–พฤษภาคม ค.ศ.1954 ลงเอยด้วยความพ่ายแพ้ของฝรั่งเศสจนต้องถอนกำลังออกจากเวียดนามเหนือ และถือเป็นการสิ้นสุดลงของสงครามอินโดจีนครั้งแรก เราเดินทางมายังเมืองเดียนเบียนฟูผ่านทางประเทศลาว ลัดเลาะมาเรื่อยๆ จากเวียงจันทน์ เข้าโพนสะหวัน เชียงขวาง ต่อไปยังซำเหนือ เวียงไซย เมืองงอย ล่องเรือต่อไปยังเมืองขวา ก่อนที่จะนั่งรถข้ามชายแดนต่อมายังเมืองเดียนเบียนฟู เป็นเส้นทางที่ได้สัมผัสวิถีชีวิตและธรรมชาติที่ยังงดงามของลาว  บางช่วงบางตอนยังเป็นเส้นทางที่เกี่ยวโยงกับสงครามอินโดจีน อย่างแขวงเชียงขวางที่อยู่ทางทิศตะวันออกเฉียงเหนือของลาวซึ่งถือเป็นจุดยุทธศาสตร์สำคัญของประเทศ มีชายแดนติดกับเวียดนาม เป็นเส้นทางในการลำเลียงกองกำลังและอาวุธยุทโธปกรณ์จากเวียดนามเหนือมาสู่ขบวนการปะเทดลาว รวมถึง “ถ้ำท่านผู้นำ” ที่เมืองเวียงไซย อดีตศูนย์บัญชาการใหญ่ของกองทัพปลดปล่อยประเทศลาว ที่ในสมัยสงครามอินโดจีน ผู้นำขบวนการปลดปล่อยประเทศลาว ได้ใช้สถานที่แห่งนี้เป็นฐานที่มั่นและศูนย์บัญชาการใหญ่เพื่อต่อต้านการรุกรานจากต่างชาติ ที่ซึ่งสงครามยังคงทิ้งร่องรอยของมันไว้ให้เราเห็น และครั้งนี้เราจะไปที่เดียนเบียนฟู อีกหนึ่งจิ๊กซอว์สำคัญของภาพสงครามอินโดจีน จากเมืองขวาของลาวมีรถบัสนำเราไปสู่เดียนเบียนฟูของเวียดนามผ่านทางด่าน Tay Trung ใช้เวลาเดินทางประมาณ 5-6 ชั่วโมง เพราะเป็นทางขึ้นเขาถนนแคบ และอาจต้องเจอสภาพรถที่ผู้โดยสารและสิ่งของแน่นเอี๊ยดเต็มทุกพื้นที่ของรถ เพราะเป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่ทั้งคนลาว คนเวียดนาม รวมถึงนักท่องเที่ยวนิยมใช้ในการเดินทางไปมาระหว่างลาวและเวียดนาม รถบัสขนาดเล็กที่อัดแน่นไปด้วยคนและข้าวของพาเราลัดเลาะไปตามความสูงของเทือกเขาเป็นเวลาหลายชั่วโมง

Read More

เยือนเสียมเรียบ (2) สำรวจเมืองน่าเที่ยวแห่งเอเชีย

 AEC Leisure จากด่านพรมแดนปอยเปต จุดเชื่อมแดนระหว่างประเทศไทยกับกัมพูชาไปอีกราวๆ 160 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางประมาณ 3 ชั่วโมง เราจะพบกับ “เสียมเรียบ” เมืองที่เป็นที่ตั้งของมรดกโลกอย่างนครวัด เมืองที่รั้งตำแหน่งที่สองของเมืองน่าเที่ยวแห่งเอเชีย ประจำปี 2557 เป็นเมืองที่สร้างรายได้หลักด้านการท่องเที่ยวให้กับกัมพูชา และเป็นจุดหมายปลายทางของ AEC Leisure ในครั้งนี้ สภาพของถนนจากด่านพรมแดนปอยเปต มุ่งตรงยังเมืองเสียมเรียบ ณ ปัจจุบัน เป็นถนนลาดยางอย่างดี ต่างจากสมัยก่อนที่ถนนขรุขระ เป็นหลุมเป็นบ่อ ฝุ่นตลบอบอวล นั่งรถกันที 5-6 ชั่วโมงเป็นอย่างต่ำ ปัจจุบันระยะทางเท่าเดิมแต่ระยะเวลาการเดินทางสั้นลง เหลือเพียงแค่ 2-3 ชั่วโมงเท่านั้น เพราะสภาพถนนที่ดีขึ้น เดินทางกันสบายๆ แถมไม่ต้องผจญกับฝุ่นตลบแบบเมื่อก่อน ตลอดสองข้างทางเป็นนาข้าวสลับกับบ้านเรือนที่มีอยู่เป็นระยะ แทบจะไม่มีภูเขาสูงให้เห็น ภาพนาข้าวผืนใหญ่ที่เห็นตลอดเส้นทาง ทำให้ไม่แปลกใจเลยว่า ทำไม “ข้าว” จึงเป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของกัมพูชา โดยสภาพภูมิประเทศและภูมิอากาศของกัมพูชาเหมาะแก่การเพาะปลูกพืชเศรษฐกิจหลากหลายชนิด มีดินและน้ำที่อุดมสมบูรณ์ พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบลุ่มเหมาะแก่การทำการเกษตร พืชเศรษฐกิจที่สำคัญอื่นๆ นอกจากข้าวแล้วยังมี ข้าวโพด ถั่ว งา

Read More

เยือนเสียมเรียบ เมืองน่าเที่ยวแห่งเอเชีย (1) ผ่านด่านปอยเปต

AEC Leisure ผลสำรวจเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชียประจำปี 2557 ของนิตยสารทราเวล แอนด์ เลเชอร์  (Travel & Leisure) นิตยสารด้านการท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยมสูงสุดในสหรัฐอเมริกา พบว่า กรุงเทพฯ ซึ่งเคยครองแชมป์ อันดับ 1 เมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชียมาหลายสมัย กลับเสียแชมป์ให้กับเกียวโตของญี่ปุ่น ที่ขึ้นมานั่งแท่นอับดับ 1 แทน โดยมี “เสียมเรียบ” เมืองท่องเที่ยวของกัมพูชา ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 2 จากอันดับ 4 ในปีก่อน ส่งผลให้กรุงเทพฯ แชมป์เก่าตกไปอยู่อันดับ 3           โดย 5 อันดับเมืองท่องเที่ยวที่ดีที่สุดในเอเชีย ปี 2557 ตามผลสำรวจของนิตยสารดังกล่าวมีดังนี้ อันดับที่หนึ่งได้แก่เมืองเกียวโต ประเทศญี่ปุ่น ตามมาด้วยอันดับที่ 2 เมืองเสียมเรียบ กัมพูชา อันดับ 3 แชมป์เก่า

Read More

“ฮอกไกโด” โดนบุก

 เมื่อวันคืนบนปฏิทินเริ่มเคลื่อนเข้าใกล้เดือนพฤศจิกายน ดูเหมือนว่าธุรกิจการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นก็กลับมามีชีวิตชีวาและเริ่มคึกคักขึ้นอีกครั้งเหมือนกันนะคะ ตามสถานีรถไฟ รวมถึงตัวแทนจำหน่ายบัตรโดยสารและโปรแกรมการท่องเที่ยวที่มีอยู่เกือบจะทุกห้างสรรพสินค้าชั้นนำ ต่างออกมาประชันขันแข่งและเร่งระดมกระตุ้นให้ผู้คนเดินทางท่องเที่ยวกันขนานใหญ่ ซึ่งจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวในช่วงฤดูใบไม้ร่วง ต่อเนื่องไปถึงฤดูหนาว ก็คงต้องเป็นโปรแกรมที่มีไฮไลต์อยู่ที่การไปออนเซน แช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน หรือการเดินทางไปลุยหิมะเล่นสกีกันเลย ซึ่งฮอกไกโดดูจะเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในช่วงหน้าหนาวนี้อย่างยากที่จะหาจุดหมายปลายทางอื่น มาเทียบได้จริงๆ และอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวก็ถือเป็นหัวใจหลักสำคัญในเชิงเศรษฐกิจสำหรับฮอกไกโดเลยทีเดียว เพราะกว่า 3 ใน 4 ของรายได้ที่ประชากรชาวฮอกไกโดได้รับล้วนเกี่ยวเนื่องกับภาคธุรกิจบริการจากอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวทั้งสิ้น แต่ก็ใช่ว่าจะมีแต่คนญี่ปุ่น หรือนักท่องเที่ยวจากเมืองไทย ที่หลงใหลมนต์เสน่ห์ของฮอกไกโด เพราะในวันนี้ฮอกไกโดกำลังโดนบุกและมีแนวโน้มจะถูกยึดไปทีละน้อยแล้วล่ะคะ เพราะจากตัวเลขสถิติล่าสุด ได้สร้างความหวั่นใจให้กับคณะผู้บริหารและปกครองฮอกไกโดพอสมควร ถึงขนาดที่ต้องออกกฎเกณฑ์ควบคุมการทำธุรกรรมสำหรับชาวต่างชาติไปด้วยในตัว เหตุที่มาแห่งความไม่สบายใจของชาวฮอกไกโด มาจากผลสำรวจในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งปรากฏว่าพื้นที่ป่าไม้กว่า 1,000 เฮกตาร์ ถ้าเทียบก็เท่ากับ 10 ตารางกิโลเมตร หรือ 6,250 ไร่ของฮอกไกโด ถูกถือครองโดยชาวต่างชาติมากถึง 57% และหากจำแนกลึกลงไปต้องบอกว่า 21% เป็นการถือครองโดยชาวจีนและบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศจีน เมื่อปรากฏตัวเลขอย่างนี้ ทำให้หน่วยราชการในฮอกไกโดต้องรับออกมาวางกฎเกณฑ์ใหม่ๆ เพื่อทำให้การเปลี่ยนมือถือครองที่ดินทำได้ช้าลง โดยเฉพาะประเด็นที่สงวนสิทธิให้หน่วยราชการสามารถ “ให้คำแนะนำ” ในการซื้อขายที่ดิน โดยเฉพาะในเขตที่มีพื้นที่ป่าไม้ และเส้นทางน้ำผ่าน การออกกฎเกณฑ์เช่นนี้ ในด้านหนึ่ง ทำให้ฮอกไกโดถูกจับตามองเหมือนกัน ว่ากำลังกีดกันทางการค้า และโต้ตอบท่าทีที่เป็นปฏิปักษ์ระหว่างจีนและญี่ปุ่น ที่กำลังมีกรณีพิพาทว่าด้วยการอ้างสิทธิซ้ำซ้อนเหนือหมู่เกาะในทะเลจีน ที่ต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันก็ยังไม่กระเตื้องขึ้น ประเด็นที่เกี่ยวเนื่องและมีความสำคัญมาก แต่อาจไม่ได้รับการหยิบยกออกมาเผยแพร่ต่อสาธารณชน

Read More

เดอะ ฟุกเกอร์ไรน์ (The Fuggerei) บ้านเอื้ออาทรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก

 “ที่อยู่อาศัย” หนึ่งในปัจจัยสี่ที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิต ซึ่งมีหลากรูปแบบหลายระดับ ตั้งแต่ กระท่อม แฟลต บ้าน คฤหาสน์ ไปจนถึงพระราชวัง ขึ้นอยู่กับผู้เป็นเจ้าของ การเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ ทำให้เราพบเห็น “บ้าน” ในมิติและลักษณะที่ต่างกันออกไป วันนี้เราจะพาผู้อ่านไปทำความรู้จักบ้านในอีกลักษณะหนึ่งที่มีทั้งประวัติความเป็นมาที่น่าสนใจและบรรยากาศที่แสนมีเสน่ห์ อย่าง “เดอะ ฟุกเกอร์ไรน์” บ้านเอื้ออาทรที่เก่าแก่ที่สุดในโลก เดอะ ฟุกเกอร์ไรน์ (The Fuggerei) คือชุมชนสำหรับผู้มีรายได้น้อยโดยเฉพาะ ตั้งอยู่ในประเทศเยอรมนี อาจมีหลายคนสงสัยว่าชุมชนสำหรับผู้มีรายได้น้อยแห่งนี้น่าสนใจตรงไหนเพราะฟังดูก็เหมือนจะธรรมดา ไม่ใคร่จะมีอะไรดึงดูดใจเหมือนสถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ แต่ขอบอกค่ะว่าที่แห่งนี้ไม่ธรรมดา ส่วนจะไม่ธรรมดาแบบไหน มาสัมผัสพร้อมกันได้เลย ฟุกเกอร์ไรน์ตั้งอยู่ในเมือง Augsburg แคว้นบาวาเรีย ประเทศเยอรมนี สำหรับตัวเมือง Augsburg เองนั้นถือว่าเป็นเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติความเป็นมาตั้งแต่ยุคโรมัน ราวๆ 15 ปีก่อนคริสตกาล จักรพรรดิ Augustus แห่งโรมัน ได้สร้างค่ายทหารโรมันขึ้นที่นี่ในชื่อ Augusta Vindelicorum นับว่าเป็นเมืองที่ทรงอิทธิพลอย่างมาก เพราะมีชัยภูมิที่เหมาะสมทำให้เมืองเป็นศูนย์กลางทางการค้า ศาสนา และการคมนาคม Augsburg เป็นส่วนหนึ่งของจักรวรรดิโรมันมาอย่างยาวนาน จนเมื่อจักรวรรดิโรมันล่มสลายลง

Read More

Neuschwanstein Castle…Part II

คราวที่แล้วได้พาผู้อ่านนั่งรถไฟจากเมืองมิวนิกมุ่งหน้าลงใต้ เดินทางไปจนถึงเมือง Fussen เมืองเล็กๆ ของแคว้นบาวาเรีย ซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศเยอรมนีกันแล้ว ตอนนี้เราจะไปยลโฉมปราสาทแสนสวยที่ได้ชื่อว่าเป็นต้นแบบของปราสาทเทพนิยายของวอลท์ ดิสนีย์ และเป็นจุดหมายหลักของเราในครั้งนี้...ตามไปชมความงามของ “ปราสาทนอยชวานชไตน์” พร้อมกันเลยค่ะ จากที่พักในเมือง Fussen เราเดินย้อนกลับไปที่สถานีรถไฟของเมือง Fussen กันอีกครั้ง เพื่อขึ้นรถบัสไปชมปราสาทนอยชวานชไตน์ โดยไปรอขึ้นรถที่ป้ายหมายเลข 2 (Standplatz 2) และใช้บริการรถบัสสาย 73 หรือสาย 78 มาลงที่สถานี Hohenschwangau ใช้เวลาแค่ 15-20 นาทีเท่านั้น จากจุดที่ลงรถเดินต่อไปอีกประมาณ 100 เมตร จะพบกับสำนักงานจำหน่ายบัตรเข้าชมปราสาท เดินเข้าไปซื้อบัตรเข้าชมกันเลยค่ะ เพราะข้างบนปราสาทไม่มีจำหน่าย เราต้องซื้อให้เสร็จสรรพที่จุดจำหน่ายก่อนขึ้นไปชมปราสาท การเข้าชมปราสาทนอยชวานชไตน์จะมีไกด์นำชมเป็นรอบๆ มีทั้งรอบที่เป็นภาษาเยอรมันและภาษาอังกฤษ สามารถดูรอบเวลาการเข้าชมพร้อมภาษาที่ต้องการได้ที่บอร์ดในสำนักงานขาย ส่วนภาษาอื่นเขามี Audio Guide ไว้บริการแทน แต่ก่อนจะซื้อตั๋วควรเผื่อเวลาในการเดินทางเพื่อขึ้นไปชมปราสาทนอยชวานชไตน์ไว้สักหน่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพหรือละเลียดความงามของธรรมชาติ เพราะระหว่างทางที่จะขึ้นไปยังตัวปราสาทนั้นสวยงามดึงดูดให้เราแวะชื่นชมธรรมชาติสักนิด กดชัตเตอร์สักหน่อย จนอาจทำให้เลยเวลาที่จะเข้าชมปราสาทได้ง่ายๆ จัดการเรื่องบัตรเข้าชมปราสาทเรียบร้อยแล้ว เดินทางสู่ตัวปราสาทกันเลยค่ะ จากจุดจำหน่ายบัตรเราสามารถเดินทางขึ้นสู่ตัวปราสาทนอยชวานชไตน์ได้ 3

Read More

โมริซ อูทรีโย

 การเดินเล่นย่านมงต์มาร์ทร์ (Montmartre) เสมือนการเดินตามรอยอาร์ทิสต์ดัง ประเดี๋ยวๆ ก็เจอป้ายอธิบายว่า ณ ที่ตรงนี้วินเซนต์ วาน โก๊ก (Vincent Van Gogh) เคยมาเขียนรูป บ้านนี้เคยเป็นสตูดิโอทำงานของปาโบล ปิกัสโซ (Pablo Picasso) บ้านโน้นปิแอร์-โอกุสต์ เรอนัวร์ (Pierre-Auguste Renoir) เคยมาพำนัก ตามมาด้วยเอดการ์ เดอกาส์ (Edgar Degas) ราอูล ดูฟี (Raoul Dufy) โอตง ฟรีซ (Othon Friesz) และโมริซ อูทรีโย (Maurice Utrillo) แม้ชาวอเมริกันเห็นว่าปารีสมิใช่ศูนย์กลางของ “วัฒนธรรม” อันรวมถึงศิลปะอีกต่อไปแล้ว หากอาร์ทิสต์จากประเทศต่างๆ ก็ยังมุ่งมาปารีส หมายที่จะ “เกิด” เฉกเช่นอาร์ทิสต์รุ่นก่อนๆ นอกจากนั้นย่านมงต์มาร์ทร์ยังจัดสุดสัปดาห์เปิดบ้านอาร์ทิสต์ ทำให้ตระหนักความจริงข้อนี้Pinacothèque de Paris

Read More