Home > Anuradhapura

อนุราธปุระ: ปฐมอาณาจักรแห่งลังกาทวีป

 Column: AYUBOWAN  หลังจากที่ได้กล่าวถึง Mahavamsa หรือมหาวงศ์ ให้ท่านผู้อ่านได้ร่วมเดินทางย้อนประวัติศาสตร์ลังกาทวีปไปก่อนหน้านี้ หากจะไม่กล่าวถึงความเป็นไปแห่งอาณาจักรอนุราธปุระ ซึ่งถือเป็นอาณาจักรแรกๆ บนแผ่นดินลังกานี้เสียเลยก็ดูกระไรอยู่นะคะ อนุราธปุระได้ชื่อว่าเป็นอาณาจักรเริ่มแรกของศรีลังกา ที่สถาปนาขึ้นโดยพระเจ้าปานฑุกาภัย (Pandukabhaya) ในช่วง 377 ปีก่อนคริสตกาล ท่ามกลางเขตอาณาของเจ้าครองแคว้นน้อยใหญ่ที่ต่างพยายามขยายบทบาทอิทธิพลเหนือดินแดน แต่อาณาจักรแห่งอนุราธปุระก็ถือเป็นอาณาจักรที่ทรงพลานุภาพและได้รับการยอมรับว่าเป็นผู้ปกครองสูงสุดของลังกาทวีปในช่วงนั้น ความรุ่งเรืองของอนุราธปุระดำเนินไปท่ามกลางความจำเริญของพุทธศาสนาอย่างยากจะแยกออกทั้งในมิติของวัฒนธรรม รูปแบบการปกครอง รวมถึงระบบกฎหมาย ซึ่งกรอบโครงความเชื่อและศรัทธาในพุทธศาสนาเช่นว่านี้ มีผลต่อการปรับเปลี่ยนรูปแบบและปฏิสัมพันธ์ของผู้คนในสังคมอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อมีการอัญเชิญพระเขี้ยวแก้วมาประดิษฐานที่ลังกา ที่เป็นประหนึ่งสัญลักษณ์ในอำนาจบารมีของกษัตริย์แห่งอนุราธปุระไปโดยปริยาย แต่การดำรงอยู่ของอนุราธปุระไม่ได้ดำเนินอยู่ท่ามกลางสุญญากาศแห่งอำนาจ หากอนุราธปุระต้องเผชิญกับการรุกรานจากอาณาจักรข้างเคียง โดยเฉพาะจากอาณาจักรในอินเดียใต้ ที่พยายามรุกคืบเข้ามามีอิทธิพลเหนือดินแดนแห่งนี้อยู่ตลอดเวลา ซึ่งกษัตริย์ของอนุราธปุระสามารถรบพุ่งมีชัยชนะเหนือกองกำลังจากอาณาจักรอินเดียใต้และฟื้นฟูอำนาจเหนือดินแดนได้หลายครั้ง แม้จะต้องดำเนินผ่านห้วงเวลายากลำบากแห่งสงครามกับผู้รุกราน แต่อาณาจักรอนุราธปุระก็สามารถจำเริญและดำรงอยู่ยาวนานนับเนื่องได้กว่า 1,500 ปี (377 ปีก่อนคริสตกาลถึงคริสต์ศักราชที่ 1017) ซึ่งห้วงเวลาที่ยาวนานดังกล่าวนี้เปิดโอกาสให้อาณาจักรอนุราธปุระผลิตสร้างและส่งผ่านมรดกหลากหลายประการให้กับสังคมในยุคหลัง ความเป็นไปของอนุราธปุระซึ่งเกิดขึ้นท่ามกลางสังคมเกษตรกรรม ทำให้การก่อสร้างระบบชลประทาน กลายเป็นสิ่งสื่อแสดงให้เห็นความสำเร็จและก้าวหน้าของอาณาจักรโบราณแห่งนี้ได้เป็นอย่างดี โดยอ่างเก็บน้ำและระบบคลองส่งน้ำที่ช่วยให้พื้นที่แห้งแล้งสามารถทำการเพาะปลูกได้ ส่งผลให้สังคมภายในอนุราธปุระเป็นไปในลักษณะที่สามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างมั่นคงพอควร เพราะนอกจากจะเพาะปลูกข้าวได้ถึงสองครั้งต่อปีแล้ว ยังเพาะปลูกอ้อย งา และข้าวฟ่าง โดยเฉพาะในเขตแห้งแล้ง ไว้สำหรับเป็นแหล่งอาหาร ขณะเดียวกันก็สามารถเพาะปลูกฝ้ายเพื่อรองรับความต้องการเรื่องเครื่องนุ่งห่ม โดยผลผลิตส่วนเกินสามารถส่งออกเป็นสินค้าควบคู่กับอัญมณี ไข่มุก เครื่องเทศ แลกเปลี่ยนกับการนำเข้าเครื่องถ้วยเซรามิก เครื่องหอม ไวน์ และผ้าไหม ที่มาจากทั้งตะวันออกกลางและตะวันออกไกล ปัจจัยด้านทำเลที่ตั้งทำให้อาณาจักรอนุราธปุระสามารถสถาปนาความสำคัญในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการค้าขายระหว่างประเทศเชื่อมโยงโลกตะวันออกและตะวันตกได้อย่างไม่ลำบากนัก

Read More