Home > ไวรัสโคโรน่า

โอสถสภาขยายพอร์ตสินค้า รุกตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ ตอบสนองวิถีชิวิตผู้บริโภคยุค New Normal

‘OSP’ ขยายพอร์ตสินค้า รุกตลาดสินค้าเพื่อสุขภาพ สร้างสรรค์สุดยอดนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ ตอบสนองวิถีชิวิตผู้บริโภคยุค New Normal ‘บมจ.โอสถสภา (OSP)’ ชูองค์ความรู้และประสบการณ์ดำเนินธุรกิจในไทยมานานกว่า 129 ปี สร้างสรรค์นวัตกรรมผลิตภัณฑ์พร้อมรับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตยุค New Normal ของผู้บริโภคที่หันมาให้ความสำคัญด้านสุขภาพและสุขอนามัย หลังประสบความสำเร็จในการทำตลาดผลิตภัณฑ์แอลกอฮอล์ล้างมือภายใต้แบรนด์ ‘โอเล่’ และแบรนด์ ‘เบบี้มายด์’ ที่นำจุดแข็งของแบรนด์มาสร้างความแตกต่างเหนือคู่แข่ง รวมถึงนำคุณสมบัติของสมุนไพรสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์กลุ่มเครื่องดื่ม ตอบโจทย์ผู้บริโภค พร้อมพัฒนาช่องทางอีคอมเมิร์ซต่อเนื่อง รับยอดขายพุ่ง 3 เท่าตัว นายเพชร โอสถานุเคราะห์ ประธานคณะกรรมการบริหารและ CEO บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศ เปิดเผยว่า ไวรัสโคโรนา หรือ COVID-19 ส่งผลต่อวิถีชีวิตของผู้บริโภคและทำให้พฤติกรรมการบริโภคเปลี่ยนแปลงรวดเร็วกว่ายุค Digital Disruption จึงทำให้ธุรกิจต้องปรับตัวด้วยการนำเสนอกลยุทธ์ใหม่ๆ ซึ่ง OSP ได้นำองค์ความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์การดำเนินธุรกิจในไทยมานานกว่า 129 ปี เสริมทัพสร้างความเข้มแข็งและนำองค์กรก้าวข้ามผ่านวิกฤติในครั้งนี้

Read More

มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา ใช้บิ๊กดาต้าสู้กับไวรัสโคโรนา

มหาวิทยาลัยแห่งชาติชิงหวา (NTHU) ได้ริเริ่มความร่วมมือกับ Facebook และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเพื่อนำข้อมูลขนาดใหญ่หรือบิ๊กดาต้ามาใช้เพื่อศึกษาการแพร่กระจายที่เป็นไปได้ของไวรัสโคโรนาในไต้หวัน ความร่วมมือในระดับนานาชาตินี้นำโดยผู้ช่วยศาสตราจารย์ Hsiao-Han Chang จากสถาบันชีวสารสนเทศและชีววิทยาโครงสร้างแห่งมหาวิทยาลัยชิงหวา ผลการศึกษาในเบื้องต้นชี้ให้เห็นว่าความเสี่ยงของการแพร่ระบาดภายในประเทศมีมากกว่าการแพร่ระบาดระยะไกลระหว่างประเทศและเมืองต่าง ๆ โดย Chang ได้แนะนำให้ประชาชนอยู่บ้านและหลีกเลี้ยงพื้นที่ที่มีการชุมนุมของผู้คนในช่วงเทศกาลวันหยุดที่กำลังจะมาถึงนี้ เมื่อไม่นานมานี้ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ยังได้ต่อยอดผลการศึกษาชิ้นหนึ่ง โดยนำโมเดลทางคณิตศาสตร์มาใช้วัดผลจากการสวมใส่หน้ากาก โดย Chang สนับสนุนการตัดสินใจของศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาด (CECC) อย่างหนักแน่นในการจัดตั้งระบบแจกจ่ายหน้ากาก เนื่องจากการป้องกันการกักตุนหน้ากากมีส่วนสำคัญในการช่วงป้องกันการระบาดของไวรัส การใช้บิ๊กดาต้าของ Facebook กับการเคลื่อนที่ของผู้คน ในช่วงปลายเดือนมกราคม Facebook ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่ใหญ่ที่สุดของโลก ได้เริ่มให้ข้อมูลการเคลื่อนที่ของคนเพื่อใช้ในการศึกษาร่วมระหว่างมหาวิทยาลัยชิงหวาและวิทยาลัยสาธารณสุขของมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ดเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา โดยข้อมูลดังกล่าวประกอบด้วยประมาณการณ์ตัวเลขของผู้คนที่มีการเคลื่อนที่ระหว่างเมือง การชุมนุมที่มีความเสี่ยงสูง ทีมวิจัยของ Chang ยังพบว่าการเคลื่อนที่ภายในประเทศมีส่วนสำคัญต่อโอกาสในการระบาดของไวรัสโคโรนามากกว่าการเคลื่อนที่ระยะไกล ซึ่งขัดแย้งกับความเข้าใจในวงกว้างว่าการเดินทางระยะไกลเป็นปัจจัยที่มีความเสี่ยงสูงสุดที่ทำให้เกิดการระบาด ซึ่งอันที่จริงแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดคือจำนวนของผู้ติดเชื้อและระยะเวลาในการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้อื่น ดังนั้น การไปตามสถานที่ที่มีผู้คนจำนวนมากที่อยู่ใกล้บริเวณที่พักอาศัยจึงไม่ได้ปลอดภัยไปกว่าการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวที่เป็นที่นิยม สำหรับ Chang แล้ว สิ่งที่น่ากังวลมากกว่า คือ แม้ว่าจะมีการประกาศเตือนจาก CECC เป็นระยะ ๆ นับตั้งแต่เริ่มมีโรคระบาด การเดินทางในไต้หวันกลับไม่ได้ลดลง ทีมวิจัยยังได้ใช้โมเดลทางคณิตศาสตร์เพื่อกระตุ้นผลจากการสวมใส่หน้ากาก โดย Chang ได้เผยว่ามีการพบว่าการแพร่กระจาย การสวมใส่หน้ากากอย่างถูกวิธี

Read More

โควิด-19 ซ้ำเติม ตลาดแรงงานไทยวิกฤต

ตลาดแรงงานไทยถือได้ว่าเป็นตลาดที่มีความเปราะบางมากเป็นพิเศษ นั่นเพราะเมื่อใดก็ตามที่เกิดสภาวะวิกฤตกับเศรษฐกิจ แรงงานไทยที่แม้ไม่ใช่ด่านหน้าที่ได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ ทว่ากลับเป็นกลุ่มที่ได้รับแรงปะทะเสมอ การเลิกจ้าง ตัวเลขการว่างงาน เป็นภาพสะท้อนทิศทางความเป็นไปที่เกิดขึ้นกับเศรษฐกิจ ไม่จำเพาะเจาะจงแค่ในประเทศไทยเท่านั้น ตลาดแรงงานทั่วโลกก็เช่นกัน คล้ายกับว่าความมั่นคงของสถานภาพแรงงานจะดีร้าย ขึ้นอยู่กับความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม การเติบโตที่ลดลงของเศรษฐกิจไทยในระยะ 2-3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ผู้ประกอบการโรงงานอุตสาหกรรมจำนวนหนึ่งทยอยปิดตัวลง อันนำมาสู่การเลิกจ้างแรงงาน ซึ่งตัวเลขการว่างงานในเดือนธันวาคม 2562 จากสำนักงานสถิติแห่งชาติเปิดเผยคือ มีผู้ว่างงานจำนวน 367,000 คน เพิ่มขึ้น 18,000 คน เมื่อเทียบกับเดือนธันวาคม 2561 ที่มีตัวเลขผู้ว่างงาน 349,000 คน บาดแผลของแรงงานทั้งในและนอกระบบจากสภาวะเศรษฐกิจซบเซายังไม่หายดี ภัยร้ายที่เสมือนคลื่นระลอกใหม่ ซัดเข้ามากระหน่ำซ้ำเติม กดหัวให้กราฟของผู้มีงานทำต่ำลง หากจะกล่าวว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 เป็นเรื่องเหนือความคาดหมายก็ดูจะไม่แปลกนัก เพราะทั้งไทยและทั่วโลกต่างเคยเผชิญกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อโรคมาหลายต่อหลายครั้ง ทว่า เชื้อไวรัสโควิด-19 กลับสร้างความเสียหายในระบบแตกต่างไปจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในครั้งก่อนๆ มาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสทำให้ระบบเศรษฐกิจเกือบทั้งหมดถูกฟรีซไว้ชั่วคราว หลายอุตสาหกรรมต้องหยุดชะงัก โดยเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวที่เกี่ยวเนื่องโดยตรง ภาคการบริการ ภาคธุรกิจ SMEs ตั้งแต่ขนาดกลางถึงขนาดเล็ก หรือกลุ่มธุรกิจที่สายป่านไม่ยาว เป็นผลให้แรงงานที่อยู่ในกลุ่มนี้ต้องพบเจอกับความเสี่ยงอีกครั้ง ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (Economic Intelligence Center)

Read More

ผลกระทบ COVID-19 จุดเริ่มต้นของการถดถอยครั้งใหญ่

ความเป็นไปของการแพร่ระบาด COVID-19 นอกจากจะคุกคามความเป็นอยู่ของสาธารณชนในวงกว้างแล้ว ยังนำพามาซึ่งความกังวลใจต่อภาวะถดถอยทางเศรษฐกิจทั้งในระดับประเทศและระดับโลกที่กำลังจะติดตามมาในอนาคตด้วย การเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจอย่างรุนแรงจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ครั้งนี้ ได้รับการประเมินว่าส่งผลกระทบอยู่ในระดับที่ใหญ่โตและกว้างขวางเกินกว่าวิกฤตการณ์ทางการเงินเมื่อปี 2551 หรือเมื่อครั้งที่เกิดเหตุการณ์วินาศกรรมเมื่อวันที่ 11 กันยายน ปี 2544 ซึ่งแม้นักวิเคราะห์บางสำนักจะพยายามประเมินสถานการณ์และมองโลกแง่ดีว่าผลกระทบทางเศรษฐกิจครั้งนี้จะเป็นรูป V shape ที่เศรษฐกิจจะตกต่ำเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก่อนจะฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว หากแต่ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น ทำให้ความเชื่อดังกล่าวอาจเป็นเพียงคำอธิษฐานเท่านั้น เนื่องจากประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ที่สุดในโลกหลายประเทศกำลังจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอยในไม่กี่เดือนข้างหน้า และมีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อต่อเนื่องออกไปอีกอย่างน้อย 2 ไตรมาส ซึ่งหากเศรษฐกิจโลกไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย ก็จะต้องเผชิญกับภาวะไม่เติบโต หรือเติบโตต่ำอยู่ดี ผลกระทบเศรษฐกิจโลกจากเหตุการแพร่ระบาดของ COVID-19 มีแนวโน้มที่จะเป็นรูป U shape ที่สะท้อนภาพการเผชิญกับภาวะตกต่ำเป็นระยะเวลาหนึ่ง ก่อนจะฟื้นตัว ขณะที่ประชาคมโลกสามารถหลีกเลี่ยงผลกระทบแบบ L shape หรือภาวะที่เศรษฐกิจไม่ฟื้นตัวขึ้นเลยได้ ด้วยการตัดสินใจและกำหนดมาตรการรองรับที่ถูกต้องเหมาะสม สถานการณ์การระบาดของไวรัส Covid-19 ที่เกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ ส่งผลให้เศรษฐกิจในปีนี้ชะลอตัวอย่างมาก ยอดขายของธุรกิจหายไป เช่นเดียวกับรายได้ของประชาชนรายย่อย ซึ่งทำให้หลายฝ่ายพยายามคาดการณ์ผลกระทบที่เกิดขึ้นเปรียบเทียบกับวิกฤตการเงินต้มยำกุ้งในปี 2540 ที่ตัวเลขเศรษฐกิจไทยหดตัวถึงร้อยละ 10.5 ในลักษณะของการสร้างตัวแบบผลกระทบและเปรียบเทียบปัจจัยทางเศรษฐกิจว่าเหตุการณ์ในปีนี้จะเหมือนหรือต่างจากปี 2540 อย่างไรอีกด้วย ข้อน่าสังเกตที่น่าสนใจประการแรกก็คือ จุดเริ่มต้นของปัญหาทางเศรษฐกิจจากเหตุ

Read More

ความปลอดภัยต้องมาก่อน!!! แฟมิลี่มาร์ทจำกัดลูกค้าเข้าร้านครั้งละไม่เกิน 10 คน ทำความสะอาดวันละ 1 ชั่วโมงทุกวัน

ความปลอดภัยต้องมาก่อน!!! แฟมิลี่มาร์ท ประกาศจำกัดลูกค้าเข้าร้านครั้งละไม่เกิน 10 คน พร้อมเพิ่มชั่วโมงพิเศษ ทำความสะอาดวันละ 1 ชั่วโมงทุกวัน ร้านสะดวกซื้อใกล้บ้านเป็นอีกหนึ่งทางเลือกสำหรับลูกค้าที่ต้องการหลีกเลี่ยงการเดินทาง แฟมิลี่มาร์ท เปิดปฏิบัติการความพร้อมขั้นสุดเพื่อให้ลูกค้าทุกคนมั่นใจ แฟมิลี่มาร์ท คือ ร้านสะดวกซื้อปลอดภัยตลอดเวลาที่มาใช้บริการ โดยให้ความสำคัญกับวิธีปฏิบัติตามหลัก Social distancing เพื่อรักษาระยะห่างความปลอดภัยระหว่างลูกค้า รวมถึงการให้บริการแบบลดการสัมผัส แฟมิลี่มาร์ทจึงได้เพิ่มมาตรการใหม่ปกป้องลูกค้าและพนักงาน ดังนี้ · จำกัดจำนวนลูกค้าที่เข้าใช้บริการครั้งละไม่เกิน 10 คน · เพิ่มชั่วโมงทำความสะอาดพิเศษ ปิดร้านวันละ 1 ช.ม. ในเวลา 03.00-04.00 น. สำหรับสาขาที่เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง เพื่อทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรค นอกเหนือจากการทำความสะอาดตามปกติ · แคชเชียร์ใช้ถาดขนาดเล็กสำหรับรับ -ส่งเงินกับลูกค้า และ ลูกค้าแจ้งหมายเลขสมาชิกเดอะวัน หรือแสดง QR Code จากแอปพลิเคชั่นเดอะวัน หรือ LINE @FamilyMartThailand แทนการกดปุ่มตัวเลขสะสมคะแนน เพื่อสนับสนุนให้ลูกค้าช้อปปิ้งแบบไม่สัมผัส · ขอความร่วมมือลูกค้าทั่วไป

Read More

ธุรกิจออนไลน์สบโอกาส โตสวนทางวิกฤตโรคร้าย

ท่ามกลางวิกฤตของการแพร่ระบาดโรค COVID-19 ซึ่งส่งผลให้ภาคธุรกิจ-อุตสาหกรรมหลากหลายได้รับผลกระทบในเชิงลบจนทำให้การดำเนินธุรกิจตกอยู่ในภาวะชะงักงัน ขณะที่บางบริษัทต้องปลดพนักงานหรือชะลอแผนการลงทุนจากผลของการแพร่ระบาดของโรคที่ดำเนินอยู่นี้ ธุรกิจการบินดูจะเป็นธุรกิจที่ได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 และมีแนวโน้มที่ไม่สดใสเท่าที่ควร เพราะภายหลังจากการแพร่ระบาดของโรค ทุกประเทศต่างใช้มาตรการคัดกรองนักเดินทางจากประเทศกลุ่มเสี่ยงกันอย่างเข้มงวด โดยสมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (International Air Transport Association: IATA) คาดการณ์ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่าจะส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมการบินทั่วโลกคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 แสนล้านเหรียญสหรัฐ IATA ระบุว่า โรคโควิด-19 จะทำให้รายได้ของสายการบินประเภทเครื่องบินโดยสารลดลง 6.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐถึง 1.13 แสนล้านเหรียญสหรัฐขึ้นอยู่กับสถานการณ์การแพร่ระบาดว่าจะขยายวงกว้างมากเพียงใด หลังจากที่ก่อนหน้านี้ IATA ระบุว่า โรคโควิด-19 จะทำให้รายได้ของสายการบินลดลง 2.93 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ พร้อมคาดการณ์ว่า ผลกระทบดังกล่าวจะจำกัดอยู่ในตลาดที่เกี่ยวข้องกับจีนเท่านั้น แต่ไม่ได้ทำการประเมินผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่จะมีต่อสายการบินประเภทขนส่งสินค้า ความเสียหายที่ IATA ประเมินล่าสุดนี้ เป็นระดับความสูญเสียที่เกิดขึ้นกับอุตสาหกรรมการบินทั่วโลกระหว่างช่วงวิกฤตการณ์ทางการเงิน เมื่อปี 2551 แต่ IATA ยังประเมินสถานการณ์ภายใต้ความเชื่อที่ว่าหากทั่วโลกสามารถควบคุมการระบาดได้รวดเร็ว และจัดการผลกระทบให้อยู่ในวงจำกัด ความเสียหายที่จะเกิดขึ้นก็จะอยู่ในระดับมูลค่าประมาณ 6.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐเท่านั้น แต่นั่นก็เป็นความสูญเสียที่มากพอจะสั่นคลอนความเชื่อมั่นและความมั่นคงของผู้ประกอบการสายการบินแต่ละรายไม่น้อยเช่นกัน แต่ภายใต้วิกฤตดูเหมือนว่าจะยังมีโอกาสใหม่ๆ

Read More

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จับมือ วิริยะ มอบความคุ้มครองโควิด-19 แก่ลูกค้าและผู้เยี่ยมชมโครงการ

พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค มอบประกันคุ้มครองไวรัสโคโรนา โดยวิริยะประกันภัย สำหรับลูกค้าที่ซื้อบ้านและทาวน์โฮม รวมถึงลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมทุกโครงการ ภายในเดือนเมษายนนี้ นายวงศกรณ์ ประสิทธิ์วิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค จำกัด (มหาชน) ร่วมกับ นายเกรียงศักดิ์ โพธิเกษม ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท วิริยะประกันภัย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา หรือ “โควิด-19” พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค และวิริยะประกันภัย พร้อมมอบความคุ้มครองให้แก่ลูกค้าของ พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ด้วยแผนประกันโควิดชีลด์ ติดปุ๊ปรับปั๊ป เมื่อตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19 รับเงินก้อนทันที 100,000 บาท หากนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลจากโควิด-19 มีค่าชดเชยรายวัน วันละ 300 บาท สูงสุด 14 วัน พร้อมคุ้มครองการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุอีก 100,000 บาท โดยลูกค้าที่ซื้อบ้านและทาวน์โฮมที่โอนกรรมสิทธิ์ภายในเดือนเมษายนนี้จะได้รับความคุ้มครองดังกล่าว เป็นระยะเวลา 1 ปี เพื่อให้ความอุ่นใจในช่วงที่โควิด-19 มีการแพร่ระบาดอย่างรวดเร็ว “นอกจากนี้ ลูกค้าที่เข้าเยี่ยมชมโครงการของพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ทุกโครงการ

Read More

เมเจอร์ ยกระดับมาตรการเข้มขั้นสูงสุด ควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19

เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป ยกระดับมาตรการเข้มขั้นสูงสุด ใช้ระยะห่างทางสังคม นั่งแถวเว้นแถว เว้นห่างระหว่างที่นั่งทุก 2 ที่นั่ง ไม่เกิน 50 ที่นั่งต่อโรง ป้องกันโควิด-19 เพื่อดูแลลูกค้าให้ดีที่สุด บริษัท เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ กรุ้ป จำกัด (มหาชน) ออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ขั้นสูงสุด เป็นไปตามรูปแบบ “ เว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distance) ” เพื่อสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าที่เข้ามาชมภาพยนตร์ ตั้งแต่วันที่ 17 มีนาคม เป็นต้นไป ด้วยการเว้นระยะห่างการนั่งชมภาพยนตร์ แบบแถวเว้นแถว และเว้นระยะห่างระหว่างที่นั่งทุก 2 ที่นั่ง ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการป้องกันไวรัส COVID -19 ขั้นสูงสุด ของโรงภาพยนตร์เมเจอร์ ซีนีเพล็กซ์ ทุกสาขา เพื่อเป็นการดูแลสุขภาพของลูกค้าให้ดีที่สุด ทั้งนี้ ตลอดระยะเวลาที่มีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด - 19 เมเจอร์

Read More

ผลกระทบ COVID-19 เมื่อเศรษฐกิจโลกติดเชื้อไวรัส

การขยายตัวลุกลามของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ที่ได้รับการขนานนามในชื่อ COVID-19 (Coronavirus Disease 2019) นอกจากจะก่อให้เกิดการแพร่ระบาดและส่งผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของประชาชนขยายตัวไปทั่วทุกภูมิภาคของโลกแล้ว ยังสร้างแรงกดดันเป็นปัจจัยลบต่อเศรษฐกิจของโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ และไม่ได้จำกัดอยู่เฉพาะธุรกิจการท่องเที่ยว การบินและอุตสาหกรรมภาคบริการที่เกี่ยวเนื่องซึ่งได้รับผลไปก่อนหน้านี้เท่านั้น ความเป็นไปของการแพร่ระบาด COVID-19 นอกจากจะทำให้บรรดาศูนย์การค้า ธุรกิจโรงแรม และธุรกิจที่เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ได้รับผลกระทบหนักหน่วงจากผลของการปิดเมือง การจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยวหรือผู้เดินทางที่อยู่ในกลุ่มเสี่ยง ไม่ให้เข้าเมือง ทำให้ผู้ประกอบการเผชิญปัญหา และจำเป็นต้องปรับลดจำนวนพนักงานหรืองดรับพนักงานใหม่ เพื่อลดค่าใช้จ่าย เพราะนักท่องเที่ยวน้อยลง ความร้ายกาจของโคโรนาไวรัสยังคุกคามไปสู่ภาคธุรกิจอุตสาหกรรมและภาคการผลิตของระบบเศรษฐกิจทั่วโลก เมื่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 ได้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทาน (supply chain) ของหลายประเทศในเอเชียที่ต้องพึ่งพาวัตถุดิบจากจีน เนื่องจากบริษัทในจีนยังปิดต่อเนื่อง ทำให้การส่งมอบชิ้นส่วนสำคัญไปยังภาคอุตสาหกรรมนอกจีนสะดุด เป็นพิษร้ายที่ทำให้สุขภาวะทางเศรษฐกิจของโลกที่ซบเซาไม่แข็งแรงอยู่ก่อนหน้านี้แล้ว มีแนวโน้มจะทรุดหนักมากกว่าที่จะฟื้นตัวได้ในระยะสั้น การปิดโรงงานเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศจีนทำให้โรงงานที่เลือกใช้ชิ้นส่วนจากประเทศจีน หรือมีฐานการผลิตอยู่ในประเทศจีนเผชิญปัญหาการส่งมอบสินค้าล่าช้า ในขณะที่การย้ายฐานการผลิตหรือเลือกใช้ชิ้นส่วนจากแหล่งผลิตอื่นในห้วงเวลาปัจจุบันก็เป็นสิ่งที่ยากจะทำได้และหมายถึงค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ทำให้ผู้ประกอบการที่เข้ามาลงทุนในจีน ต่างพยายามหาแนวทางเพื่อการย้ายฐานการผลิตออกจากจีนไปยังประเทศอื่นในภูมิภาคเอเชีย รวมถึงการจัดซื้อชิ้นส่วนสำคัญจากแหล่งผลิตอื่นๆ ทดแทนการขาดหายไปของชิ้นส่วนจากจีน ขณะที่ผู้ประกอบการที่มีโรงงานอยู่ในเขตแพร่ระบาดของเชื้อโรค จำเป็นต้องปิดโรงงานและระงับการผลิตชั่วคราวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโรคไปอย่างไม่อาจเลี่ยง ยังไม่นับรวมถึงการขนส่งสินค้าทางเรือทั้งขาเข้าและขาออกจากจีนก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน เมื่อเรือสินค้าจำนวนไม่น้อยที่เข้าเทียบท่าที่จีนแล้วไม่สามารถขนถ่ายสินค้าขึ้นลงเรือได้เนื่องจากไม่มีแรงงาน ผลกระทบจากการแพร่ระบาด COVID-19 ได้ส่งให้ภาคการผลิตในอุตสาหกรรมสิ่งทอ และอิเล็กทรอนิกส์ในภูมิภาคอาเซียนได้รับผลกระทบอย่างหนักจากปัญหาห่วงโซ่อุปทาน เพราะโรงงานส่วนใหญ่ต้องนำเข้าชิ้นส่วนและวัสดุอุปกรณ์จากจีนเป็นหลัก ซึ่งแนวโน้มของการขาดแคลนวัตถุดิบในการผลิตของภาคอุตสาหกรรมเหล่านี้คาดว่าจะหนักหน่วงมากขึ้นในช่วงไตรมาสที่ 2 ของปีนี้

Read More

ปตท. ยืนยันยังไม่พบพนักงานกลุ่ม ปตท. ติดเชื้อไวรัส COVID -19

ตามที่ได้มีการเผยแพร่ข่าวว่ามีพนักงาน กลุ่ม ปตท. เสี่ยงติดเชื้อไวรัส COVID-19 ภายหลังจากที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ พร้อมเพื่อนสนิทที่ได้เดินทางไปด้วยกัน เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และพบว่าเพื่อนมีอาการป่วยเป็นไข้ 2-3 วันแล้วนั้น ทาง ปตท. ขอเรียนแจ้งว่า ปัจจุบันยังไม่มีพนักงานกลุ่ม ปตท. คนใดติดเชื้อไวรัส COVID-19 และพนักงานคนดังกล่าวนั้นได้เข้าพบแพทย์เรียบร้อยแล้ว และยังคงมีสุขภาพปกติ รวมทั้งเพื่อนร่วมเดินทางก็ยังตรวจไม่พบเชื้อไวรัสดังกล่าวแต่อย่างใด แต่เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับพนักงาน ปตท. และความปลอดภัยของผู้เกี่ยวข้องทุกคน จึงได้ให้พนักงานคนดังกล่าว Work at Home ตามนโยบายเป็นระยะเวลา 14 วัน เพื่อเฝ้าสังเกตอาการตนเองและรายงานมายังผู้บังคับบัญชาเพื่อติดตามอาการอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ปตท. มีความห่วงใยต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และให้ความสำคัญต่อสุขภาพความปลอดภัยของพนักงานที่ปฏิบัติงานอยู่ในประเทศไทยและที่เดินทางไปปฏิบัติงานในต่างประเทศทุกท่าน โดยได้ออกประกาศภายใน เรื่อง มาตรการป้องกันและควบคุมโรคติดเชื้ออุบัติใหม่จากไวรัสของบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เพื่อขอความร่วมมือให้พนักงาน ปตท. ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด รวมทั้งเปิดศูนย์ติดตามและเฝ้าระวังกรณีโรคอุบัติใหม่ COVID-19 ขึ้น เพื่อติดตามและบริหารจัดการสถานการณ์โดยรวมอย่างใกล้ชิด

Read More