Home > การเมือง

ภาระหนักรัฐบาลใหม่ ผลักดันอนาคตเศรษฐกิจไทย

แม้ว่าการเลือกตั้งทั่วไป 2562 จะผ่านพ้นไปแล้ว และได้เห็นเค้าลางของผู้ชนะผู้แพ้ในสนามเลือกตั้งกันไปพอสมควร หากแต่ทิศทางการเมืองไทยและโฉมหน้ารัฐบาลใหม่ที่จะเข้ามาบริหารประเทศกลับตกอยู่ในภาวะคลุมเครือ และยากที่จะสรุปอย่างชัดเจนว่าจะดำเนินไปอย่างไร ซึ่งอาจเนิ่นนานไปตามกำหนดเวลาของการประกาศรับรองผลการเลือกตั้งอย่างเป็นทางการของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่คาดว่าจะมีขึ้นอย่างเร็วที่สุดในช่วงต้นเดือนพฤษภาคมไปแล้ว ความคาดหวังของสังคม โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคธุรกิจเอกชนว่าด้วยความเชื่อมั่นและแรงขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจ ภายหลังการเลือกตั้ง ซึ่งเป็นความคาดหวังที่ผูกโยงอยู่กับทัศนะเชิงบวกและการกระตุ้นปลอบเร้า ด้วยหวังว่ารัฐบาลใหม่จะสามารถเร่งระดมปลุกปั้นเศรษฐกิจไทยให้กลับมาฟื้นคืนและแข็งแกร่งอีกครั้ง ดูจะอ่อนแรงลงไปอย่างช้าๆ เมื่อประเมินจากข้อเท็จจริงที่ว่า ความชัดเจนและระยะเวลาของการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ที่ทอดยาวออกไปกำลังก่อให้เกิด “ภาวะเสียโอกาสซ้ำซาก” ที่อาจฉุดให้เศรษฐกิจไทยต้องตกอยู่ในภาวะชะงักงันไปจนถึงสิ้นสุดไตรมาสที่ 2 และอาจต่อเนื่องไปสู่ไตรมาสที่ 3 ของปีเลยทีเดียว บรรยากาศแห่งความไม่แน่นอนทางการเมืองที่ปกคลุมอยู่ในห้วงเวลาปัจจุบัน กลายเป็นปัจจัยที่พร้อมจะแช่แข็งเศรษฐกิจไทยไปโดยปริยาย แม้ว่าในการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนไทยก่อนหน้านี้จะพบว่าประชาชนในสัดส่วนมากถึงร้อยละ 63.64 แสดงความมั่นใจว่าภายหลังการเลือกตั้ง เศรษฐกิจไทยจะดีขึ้น ในขณะที่กลุ่มตัวอย่างร้อยละ 32.27 ระบุว่าเศรษฐกิจไทยจะยังดำเนินอยู่ในสภาพที่ย่ำแย่เหมือนเดิม โดยมีอีกร้อยละ 4.09 ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยจะแย่ลงกว่าที่เคยเป็นอยู่ในช่วงก่อนมีการเลือกตั้ง ข้อเท็จจริงที่น่าสนใจประการหนึ่งจากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนก่อนการเลือกตั้งดังกล่าวอยู่ที่ประชาชนส่วนใหญ่ถึงร้อยละ 45.73 ประเมินว่าไม่มีพรรคการเมืองใดเลยที่มีนโยบายในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและปากท้องของประชาชนได้อย่างจริงจัง แม้ว่าจะมีประชาชนบางส่วนชื่นชอบแนวนโยบายเศรษฐกิจของแต่ละพรรคการเมืองในสัดส่วนที่ลดหลั่นกันไป ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนจำนวนไม่น้อยตระหนักว่าปัญหาเศรษฐกิจปากท้องของประชาชน ไม่ใช่ปัญหาที่จะแก้ไขได้โดยง่าย ขณะเดียวกันภายใต้สถานการณ์ที่ผลักให้รัฐบาลชุดใหม่มีแนวโน้มที่จะเป็นรัฐบาลผสมหลายพรรค การนำนโยบายเศรษฐกิจที่พรรคการเมืองแต่ละพรรคนำเสนอในช่วงหาเสียงเลือกตั้งมาผนวกผสานเพื่อสร้างให้เป็นกรอบโครงนโยบายสาธารณะของรัฐบาล ดูจะเป็นสิ่งที่ห่างไกลจากข้อเท็จจริงที่ประชาชนจะคาดหวังได้ ความเป็นไปทางการเมืองที่ปรากฏอยู่เบื้องหน้าว่าด้วยการช่วงชิงบทบาทนำในการเป็นแกนกลางในการจัดตั้งรัฐบาลที่กำลังดำเนินอยู่อย่างเข้มข้น ท่ามกลางการเจรจาต่อรองผลประโยชน์ทั้งในมิติของอำนาจและตำแหน่งแห่งที่ในคณะรัฐบาลที่กำลังจะเกิดมีขึ้นในอนาคต ยังเป็นการเน้นย้ำให้เห็นถึงความเปราะบางทางการเมืองของไทยที่ทำให้การผลักดันมาตรการทางเศรษฐกิจสังคมนับจากนี้ ถูกผูกโยงเข้ากับวิถีของการแบ่งปันผลประโยชน์ของผู้มีบทบาททางการเมืองแต่ละส่วน มากกว่าที่จะเกิดขึ้นจากการประสานข้อเด่น-ด้อยของนโยบายที่แต่ละฝ่ายมี มาสกัดและสังเคราะห์ให้เกิดประโยชน์ในทางสาธารณะสำหรับประชาชนซึ่งเป็นผู้ออกเสียงลงคะแนนและเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของสังคมไทยอย่างแท้จริง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา กลไกภาครัฐพยายามที่จะบ่งชี้ว่า เศรษฐกิจไทยเติบโตขึ้น โดยล่าสุดได้นำเสนอตัวเลขทางเศรษฐกิจไทยรวมทั้งปี 2561 ว่าขยายตัวร้อยละ

Read More

เศรษฐกิจไทยปี 2562 ถึงเวลาเชือดไก่ ต้มหมู เซ่นสังเวย?

ท่ามกลางบรรยากาศของการรณรงค์หาเสียงในมหกรรมการเลือกตั้งปี 2562 ซึ่งกำหนดไว้ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่กำลังดำเนินไปอย่างเข้มข้นเพิ่มขึ้นทุกขณะ โดยหลายฝ่ายประเมินว่าจะมีส่วนช่วยให้เกิดการสร้างงานและกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้เพิ่มขึ้น รวมถึงช่วยฟื้นความเชื่อมั่นต่อการใช้จ่ายของภาคประชาชนและการลงทุนของภาคธุรกิจในระยะถัดไป หากแต่ในอีกด้านหนึ่งของสถานการณ์เศรษฐกิจไทยที่สะท้อนผ่านการจับจ่ายใช้สอยในช่วงเทศกาลตรุษจีนที่ผ่านมา อาจให้ภาพที่สะท้อนถึงสภาพตลาดโดยรวมที่ถูกกดดันจากความกังวลของประชาชนต่อกำลังซื้อ ทั้งจากผลกระทบที่ได้รับจากฝุ่นพิษ PM2.5 ที่ทำให้พวกเขามีภาระในการดูแลรักษาสุขภาพเพิ่มขึ้น ซึ่งคาดว่าฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 นี้จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทยโดยรวมเป็นมูลค่าสูงถึง 8,000-10,000 ล้านบาทเลยทีเดียว ความคึกคักของเทศกาลตรุษจีนที่ถดถอยลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ในด้านหนึ่งได้รับการประเมินว่าเป็นผลจากการปรับเปลี่ยนประพฤติกรรมของคนไทยเชื้อสายจีนรุ่นใหม่ ที่ไม่เคร่งครัดกับแบบแผนประเพณีเหมือนคนรุ่นก่อน แต่ประเด็นที่น่าสนใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ มิติมุมมองต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคที่เน้นกิจกรรมประหยัด และระมัดระวังในการจับจ่ายมากขึ้น เพราะต่างตระหนักว่ากำลังซื้อในแต่ละปีไม่ได้เพิ่มขึ้น จากผลของภาวะเศรษฐกิจถดถอยที่ต่อเนื่องยาวนาน กรณีดังกล่าวเห็นได้ชัดจากกลุ่มประชากรที่มีรายได้ปานกลางถึงระดับล่าง ซึ่งอ่อนไหวต่อปัจจัยด้านกำลังซื้อ ที่พร้อมปรับลดค่าใช้จ่ายในส่วนของกิจกรรมบางอย่างที่ทำได้ และเน้นความประหยัด ทั้งการซื้อเครื่องเซ่นไหว้ การแจกเงินแต๊ะเอีย รวมถึงการทำบุญ ท่องเที่ยว ขณะที่เครื่องเซ่นไหว้ โดยเฉพาะกระดาษไหว้เจ้า กลายเป็นส่วนประกอบที่ถูกลดทอนลงมาก ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลจากความตระหนักเรื่องสิ่งแวดล้อมจากเหตุของการตื่นตัวเรื่องฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 อีกด้วย ปัจจัยเหล่านี้ทำให้ปริมาณเม็ดเงินใช้จ่ายในช่วงเทศกาลตรุษจีน 2562 ที่ผ่านมา ได้รับการประเมินว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อยในระดับร้อยละ 0.9 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา (YoY) หากแต่เมื่อประเมินภาพรวมเศรษฐกิจไทยในระยะที่ยาวออกไปหลายฝ่ายก็ยังเชื่อว่า เศรษฐกิจไทยจะสามารถเติบโตได้ในระดับร้อยละ 3.6-3.8 ซึ่งเป็นการเติบโตแบบชะลอตัวจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย ปัจจัยสนับสนุนการเติบโตทางเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ได้รับการประเมินว่าส่วนหนึ่งจะมาจากมาตรการช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติมผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐวงเงิน

Read More

บทบาทของผู้หญิงในแวดวงการเมือง

Column: Women in Wonderland ในช่วงเกือบหนึ่งปีที่ผ่านมา มีการจัดการเลือกตั้งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับประเทศเกิดขึ้นในหลายประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการเลือกตั้งในมาเลเซีย นิวซีแลนด์ และภูฏาน เป็นต้น และในช่วงสิ้นปีนี้จนถึงต้นปีหน้าก็ยังจะมีอีกหลายประเทศที่จะมีการจัดการเลือกตั้ง อย่างเช่นสหรัฐอเมริกาที่เพิ่งจัดการเลือกตั้งกลางเทอมไป และในปีหน้าก็จะมีการจัดการเลือกตั้งในฟิลิปปินส์ อินเดีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย เป็นต้น ประเทศไทยเองก็อาจจะมีการเลือกตั้งในช่วงต้นปีหน้าด้วยเช่นกัน แน่นอนว่าในช่วงของการเลือกตั้งเราจะได้เห็นสีสันต่างๆ ของการหาเสียง การบอกเล่านโยบายของพรรค และการโต้วาทีที่แต่ละหัวข้อประชาชนให้ความสนใจโดยหัวหน้าพรรค และปัจจุบันแต่ละพรรคการเมืองไม่ได้มีเพียงแค่ผู้สมัครที่เป็นผู้ชาย แต่ผู้สมัครที่เป็นหญิงก็เข้ามามีบทบาททางการเมืองมากขึ้น และได้รับความไว้วางใจให้ทำงานมากขึ้นเช่นกัน ในหลายประเทศมีผู้หญิงจำนวนไม่น้อยที่ชนะการเลือกตั้งทั้งในระดับท้องถิ่นและระดับชาติ และก็ได้ทำงานการเมืองแบบจริงจัง บางครั้งผู้หญิงได้รับความไว้วางใจจากพรรคจนได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าพรรค และยังนำพาพรรคให้ได้รับชัยชนะจากการเลือกตั้ง และได้รับเลือกเป็นผู้นำในการบริหารประเทศ อย่างเช่น Angela Merkel นายกรัฐมนตรีของประเทศเยอรมนี ที่นำพาพรรคสหภาพประชาธิปไตยคริสเตียน (Christian Democratic Union-CDU) ชนะการเลือกตั้ง ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของประเทศเยอรมนี และยังนำพาพรรค CDU ชนะการเลือกตั้งมาแล้วถึง 4 สมัยด้วยกัน ปัจจุบันผู้หญิงเข้ามามีบทบาทในทางการเมืองมากขึ้น โดยเห็นได้ชัดเจนจากการเลือกตั้งกลางเทอมของสหรัฐฯ ในครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายนที่ผ่านมา การเลือกตั้งกลางเทอมนี้จะถูกจัดขึ้นเมื่อประธานาธิบดีสหรัฐฯ ดำรงตำแหน่งมาได้ 2

Read More